ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 121

เงาดำเริ่มเดินไปด้านหน้าทีละก้าวอย่างเชื่องช้า

ตรงบริเวณที่ลู่ยุ๋นหลัวหลบซ่อนอยู่ในมิติพิเศษ

ขณะที่ลู่ยุ๋นหลัวคิดอยู่นั้นก็ถอนหายใจโล่งอก ฝีเท้าคนในชุดดำนั้นก็หยุดลงในทันที

นี่มันทางตัน แล้วคนไปไหนล่ะ ?

ลู่ยุ๋นหลัวสอดส่องร่างเงาดำนั้นที่กำลังสัมผัสทุกมุมของกำแพงอย่างระมัดระวังแต่ก็ไม่พบนาง

จากนั้นก็ตรวจสอบไปมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่ยอมหยุด

นางโล่งอกพร้อมกับนอนแผ่อยู่บนพื้นหญ้าในมิติพิเศษนั้น ที่ปากก็คาบดอกหญ้าไว้อยู่หนึ่งก้าน เฝ้าดูร่างเงาสีดำตรงหน้านางที่กำลังเดินไปเดินมาราวกับหนังที่กำลังฉายอยู่ด้วยความน่าเบื่อ

แต่เนื่องจากแสงข้างนอกมิติพิเศษนั้นมืดเกินไป จึงไม่สามารถเห็นใบหน้าของบุคคลนั้นได้อย่างชัดเจน

สักพักก็มีเงาดำอีกร่างปรากฏขึ้น

“หานางพบรึยัง ?”

“ยังไม่พบ เมื่อกี้ที่นางผ่านมาตรงนี้ก็หายตัวไปไม่เจออีกเลย”

จากนั้นต่อมาเงาดำนั้นก็ค้นหารอบ ๆ ที่นี่ด้วยเหมือนกัน “เจ้าแน่ใจหรือว่านางไม่ได้หลุดมือไป ?”

"เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นทางตัน ทางออกเดียวคือตรงนี้ ข้าเห็นนางเข้ามาด้วยตาของข้าเอง แต่ก็ไม่เห็นนางออกไปเลย"

“นี่มันแปลกมาก คนเป็น ๆ จะสามารถหายไปในอากาศได้อย่างไร เป็นไปได้ไหมว่านางเป็นวรยุทธ”

เฉพาะคนที่มีศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงเท่านั้นถึงจะสามารถหายตัวไปต่อหน้าพวกเขาได้โดยไม่มีใครรู้ตัวสังเกตุเห็น แต่ตามข่าวกรองที่ได้ยินมา นางก็เป็นแค่แม่นางคนหนึ่งที่ขนาดแรงเอาไก่ไปผูกก็ยังแถบจะไม่มี (ไม่มีแรงเอาไก่ไปผูก หมายถึง เรี่ยวแรงที่น้อยมาก ร่างกายไม่มีเรี่ยวแรงมาก)

ทั้งสองคนตรวจสอบถนนสายสั้น ๆ นี้แถบจะหมดจดทุกซอกมุม แต่ก็ไม่พบแม้กระทั่งเงาของใครสักคนเลย

เป็นไปได้ไหมว่าข่าวกรองที่ได้มาจะผิดพลาด ?

อย่างที่รู้กันว่าพวกเขาเป็นนักฆ่าอันดับต้น ๆ การที่จะมีคนธรรมดาซึ่งไม่เป็นศิลปะการต่อสู้และสามารถหายตัวไปได้โดยไร้ซึ่งเสียงต่อหน้าต่อตาพวกเขานั้นเป็นไปไม่ได้เลย

ทั้งสองมองหน้าสบตากันในความมืด และกำลังเตรียมไปที่อื่นเพื่อสืบหาต่อ

ลู่ยุ๋นหลัวเมื่อเห็นเงาดำทั้งสองเตรียมจะจากไป ก็เลิกคิ้วขึ้นทันที ทำไมถึงจากไปได้ง่ายดายนัก ?

นางค้นดูในโกดังอยู่สักพัก ก็พบถุงยากล่อมประสาทชนิดปรับปรุงอยู่หนึ่งถุง

ยากล่อมประสาทนี้ทำขึ้นตามสูตรในตำราแพทย์โบราณ กล่าวกันว่าไม่ว่าคู่ต่อสู้จะมีศิลปะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งเพียงใดขอเพียงสูดดมเพียงเล็กน้อยเขาก็จะหมดสติหลับไปทันที

วัตถุดิบยาหายากที่ทำออกมาได้นี้นางขโมยมาจากโรงแพทย์หลวงเมื่อสองสามเดือนก่อน

มีเพียงสองถุงเท่านั้นและมีค่าเป็นอย่างมาก

จนถึงตอนนี้นางก็ยังไม่มีโอกาสได้ใช้

ตอนนี้เป็นโอกาสอันดีที่จะเอามาใช้ทดสอบฤทธิ์ของยากล่อมประสาทนี้ว่าจะเป็นเช่นไร

ดังนั้น เมื่อเงาดำทั้งสองหันหลังให้นางและกำลังจะเดินจากไป มือเรียวนุ่มขาวนวลราวกับหิมะก็ปรากฏขึ้นจากกลางอากาศ พร้อมกับโปรยผงนั้นที่เตรียมไว้ในมือไปยังทิศของทั้งสองคนนั้น

“ใครน่ะ ?”

นักฆ่าทั้งสองระวังตัวสูงมาก และเมื่อรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวด้านหลังก็หันกลับมาในทันที เนื่องจากไม่มีแสงใดส่องผ่าน จึงมองไม่เห็นผงสีขาวที่ลอยคลุ้งในอากาศ ด้วยเหตุนี้เมื่อพวกเขาหันกลับมาก็เลยสูดดมผงนั้นเข้าไปทั้งหมด

“เวรแล้ว !” เงาดำคนหนึ่งรับรู้ได้ถึงบางอย่างที่แปลกออกไป แต่กว่าเขาจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว ขาสองข้างอ่อนแรงลง และทั้งคู่ก็ล้มลงหมดสติไป

ก่อนที่พวกเขาจะล้มลง ดวงตาของทั้งสองยังคงเบิกกว้าง นี่มันไม่ใช่ยากล่อมประสาทประจำตระกูลของกลุ่มนักฆ่าใต้หล้าของพวกเขาหรอกเหรอ ?

มันมาโผล่ในพระราชวังแบบนี้ได้ยังไง ?

ลู่ยุ๋นหลัวรออยู่สักพัก จนยืนยันว่าทั้งสองคนหมดสติไปแล้ว นางถึงจะเดินปิดจมูกออกจากมิติพิเศษ

ค้นหาบนร่างของคนทั้งคู่อยู่นาน กลับพบเพียงป้ายตราประจำสีดำสนิทสองแผ่น

บนตัวไม่มีเงินตำลึงเลยสักแดงเดียว

ลู่ยุ๋นหลัวรู้สึกผิดหวังทันที

นักฆ่าล้วนยากจนขนาดนี้เลยเหรอ ?

นางโยนป้ายตราประจำไปในมิติพิเศษด้วยสีหน้าดูแคลน

หันกลับไปยังสถานที่เมื่อสักครู่และหยิบโคมไฟของพระราชวังขึ้นมา จากนั้นก็คิดทบทวนว่าจะจัดการกับนักฆ่าทั้งสองอย่างไร

เมื่อนางเดินกลับมาอีกครั้ง นักฆ่าทั้งสองก็หายไปจากพื้นนานแล้วไม่เหลือแม้แต่เงา

“หนีไปแล้ว ?”

ลู่ยุ๋นหลัวขมวดคิ้วด้วยความสับสน

ตามบันทึกในตำราแพทย์โบราณ คนธรรมดาที่สูดดมยานี้จะเข้าไปจะต้องนอนไม่ตื่นเป็นเวลาสามวันสามคืน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น