ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 13

ลู่ยุ๋นหลัวที่บัดนี้แต่งกายปลอมตัวเป็นขันที ผิวของนางที่ปกติงามพุดผ่องถูกทาชโลมไปด้วยสีเหลืองอมเข้มเพื่อให้ดูกลมกลืนกับการเป็นขันที นางหัวเราะร่วนพลางกล่าว "ข้าก็แค่อยากให้พวกเจ้าได้ลิ้มรสรสมือการทำอาหารของข้าเท่านั้น ข้ามิอาจกล้าถวายให้องค์จักรพรรดิหรอก หากฝ่าบาทไม่ทรงพอพระทัย ข้าก็เกรงว่าหัวข้าก็คงจะไม่อยู่บนบ่าอีกแล้ว นี่ ! เสี่ยวลี่จึ ! นั้นมันจานเนื้อของข้า !" นางเห็นจากเนื้อสุดท้ายที่เสี่ยวลี่จึกำลังแย่งไป นางจึงแย่งมาจากมือของเขากลับมา

หม้อสามใบที่กำลังมีซุปแดงเดือดอยู่ภายในขณะนี้ เป็นหม้อที่นางให้ขันทีเฉิงเมื่อยามออกไปนอกวังคราวก่อนสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ ไม่คิดมาก่อนว่าจะทันนำเอามาใช้ได้ในทันที

"ใช่อย่างที่เจ้ากล่าวรึ ? สหายราชาก็เหมือนสหายราชสีห์ (สหายราชาก็เหมือนสหายราชสีห์ หมายถึง การคบคนที่นำพาซึ่งประโยชน์แต่ก็สามารถมีคุณโทษได้ทุกเมื่อ) องค์จักรพรรดิวันดีคืนดีก็ทรงพอพระทัยในเหล้าดอกบัวขึ้นมา เจ้าคงไม่รู้ ว่าพวกข้าในห้องปรุงพระกระยาอาหารแถบจะเอาเข็มขัดมารัดที่หัวกันหมดแล้ว (เข็มขัดมารัดที่หัว หมายถึง หาวิธีการไม่ได้จนขนาดปวดหัวรุนแรงเปรียบเสมือนถึงขั้นต้องใช้เข็มขัดมารัด)" เสี่ยวลี่จึเปรียบเสมือนดั่งลูกศิษย์ของขันทีเฉิงที่ทำงานอยู่ในห้องปรุงพระกระยาอาหารเช่นเดียวกัน ทุกครั้งที่ลู่ยุ๋นหลัวแวะไปมักจะมาร่วมทานอาหารด้วยเสมอ

เมื่อพูดถึงเหล้าดอกบัว ลู่ยุ๋นหลัวก็นึกได้ว่าที่นางมาห้องปรุงพระกระยาอาหารมีเป้าหมายอะไร นางนำเหล้าดอกบัวติดตัวมาด้วยถึง 6 กาพร้อมกับวางไว้บนโต๊ะที่เรือนรับรอง

นางลุกขึ้นไปหยิบกาเหล้าดอกบัวเหล่านั้น "ข้ามีเหล้าดอกบัวที่หมักแล้ว 1 เดือน กาเหล้า 3 ใบนี้ข้าพวกเจ้านำไปไว้ที่ห้องปรุงพระกระยาอาหารพร้อมกับถวายให้องค์จักรพรรดิ อีก 3 กาที่เหลือข้ารบกวนพวกเจ้าหาคนนำไปส่งที่วังหลิวหยุนให้ที เมื่อถึงเวลานั้นหลันกุ้ยเหรินมอบตำลึงเป็นของตอบแทนแล้ว ข้ากับพวกเจ้าแบ่งกันคนละครึ่งส่วน"

ลู่ยุ๋นหลัวนางคิดมาเสร็จสรรพก่อนแล้ว นางขาดเพียงแค่ 2,000 พันตำลังก็เป็นที่เพียงพอเป็นค่าใช้จ่ายในการทำเรื่องออกจากวังแห่งนี้ได้แล้ว

พูดไม่ทันขาดคำ ขันทีเฉิงตะลึงไปชั่วขณะ ยกกาเหล้าดอกบัวที่ลู่ยุ๋นหลัวส่งมาเปิดออกดม เขาไม่คิดมาก่อนว่ากลิ่นที่หอมอบอวลเข้มข้นที่กระทบจมูกจะหอมถึงขนาดนี้ นี่ต้องเป็นเหล้าดอกบัวที่หมักมาเป็นแรมเดือนแน่นอน

ขันทีเฉิงประทับใจจนน้ำตาไหลรินออกมา

น้ำตาที่พรั่งพรู ทำให้นึกถึงช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาต้องหาวิธีทำเหล้าถวายแก่องค์จักรพรรดิวันแล้ววันเล่าราวกับถูกทรมานทั้งเป็น โดยเฉพาะเมื่อข่าวของหลันกุ้ยเหรินเรื่องการรับซื้อเหล้าดอกบัวแพร่งพรายไป ทั้งพระราชวังก็หาได้มีดอกบัวหลงเหลืออีกไม่

เดิมทีก็กังวลเรื่องวันรุ่งขึ้นหากองค์จักรพรรดิต้องการเสวยเหล้าดอกบัวแล้วเขาคงอับจนหนทาง เสี่ยวลู่จึนำเหล้าดอกบัวมาให้ช่างเป็นเวลาเหมาะเจาะเสียจริง

แล้วยังเป็นเหล้าดอกบัวที่หมักแรมเดือนอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น