ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 149

ควักตั๋วเงินออกมาอีก 100,000 ตำลึง จนในที่สุดก็รวบรวมเงินครบเพื่อซื้อวัตถุดิบยาได้

ใครก็ตามที่ซื้อยาที่หอเซียนแพทย์ล้วนต้องให้ลูกค้าเซ็นเอกสารการขาย

ลู่ยุ๋นหลัวเซ็นชื่ออย่างตรงไปตรงมา ในที่สุดก็ซื้อตัวยาทั้งสองนี้ได้แล้ว

ใจที่ต้องแบกรับภาระเอาไว้ตลอดก็ปลดปล่อยลงมาได้

เมื่อลู่ยุ๋นหลัวกำลังจะเดินจากไปก็หันไปมองที่เป่ยถังหลิงเฟิง เมื่อเห็นว่าเขายังคงนั่งขัดสมาธิเพื่อขับพิษออกอยู่ นางก็โยนขวดยาแก้พิษให้กับเขา "ยาขวดนี้ถือว่าเจ้าใช้เงิน 50,000 ตำลึงซื้อไปก็แล้วกัน"

หลังจากพูดจบ นางก็หันหลังจากไปโดยไม่ลังเล

เป่ยถังหลิงเฟิงถูกทิ้งให้นั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่บนพื้นคนเดียว

ข้าฝากเจ้าไว้ก่อนเถอะ

อย่าให้ข้าจอมยุทธผู้นี้เจอเจ้าอีก !

ไม่อย่างนั้นข้าจะจับเจ้ามาเป็นสาวรับใช้ให้ได้แน่ ๆ !

เชี้ย !

นี่คือยาพิษอะไรเนี่ย นี่ก็ครึ่งวันแล้วทำไมยังขับไม่ออกอีก ?

ชายชราเมื่อสักครู่ที่เพิ่งเจรจาค้าขายเป็นเงินจำนวนมากก็ได้ส่งมอบเอกสารการขายที่ลู่ยุ๋นหลัวเพิ่งเซ็นให้กับเสี่ยวเอ้อที่ดูแลบัญชีโดยเฉพาะที่อยู่ข้าง ๆ เอาไปบันทึกบัญชี

เมื่อเสี่ยวเอ้อได้รับเอกสารการขายมาก็มักเอามาเปรียบเทียบกับเอกสารที่ติดอยู่บนโต๊ะก่อนทุกครั้งจนเป็นนิสัย

เอ๋ ?

ดูเหมือนลายมือสองคนนี้ค่อนข้างคล้ายกัน ?

"ผู้เฒ่าถัง ท่านรีบมาดู ลายมือสองคนนี้คล้ายกันใช่หรือไม่ ?" เสี่ยวเอ้อรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

หนึ่งปีที่แล้ว หัวหน้าเอาแต่หาคนคนหนึ่งอยู่ตลอด คน ๆ นี้ไม่มีแม้แต่รูปเหมือนหรือข้อมูลอื่นใด มีเพียงแผ่นกระดาษที่มีบทกวีเขียนไว้อยู่ นอกจากลายมือแล้ว ก็ไม่มีข้อมูลอื่นใดที่สามารถระบุตัวตนได้

กว่าหนึ่งปีที่ผ่านมานี่เป็นครั้งแรกที่พบว่าลายมือทั้งสองแทบคล้ายกันราวกับเป็นลายมือเดียวกัน

ผู้เฒ่าถัง หรือก็คือชายชราที่ดูแลเจรจากับลู่ยุ๋นหลัวไปเมื่อสักครู่ เมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็พบว่าเหมือนกันจริง ๆ แต่ทำไมชื่อถึงเขียนว่า "ลู่ลู่"

“เร็ว รีบไปแจ้งหัวหน้าโดยด่วนเลย !”

" ขอรับ !"

เมื่อเป่ยถังหลิงเฟิงลืมตาขึ้นก็พบว่ามีคนกลุ่มใหญ่อยู่ล้อมรอบตัวเขาจนเขาตกใจในชั่วขณะ

"พวกเจ้าทำอะไรน่ะ บนตัวข้ามีเงินเหลืออยู่น้อยนิดแล้ว เลิกสนใจมองข้าสักทีเถอะ" เป่ยถังหลิงเฟิงใช้สองมือกุมไปตรงอกที่มีตั๋วเงินเหลืออยู่ด้วยสีหน้าที่หวาดกลัวและมองผู้คนโดยรอบ

ผู้เฒ่าถังมองเขาด้วยสีหน้าที่จริงจัง "ข้าถามเจ้าหน่อย คุณชายเมื่อสักครู่ท่านนั้นที่มากับเจ้า เจ้ารู้จักนามของเขารึไม่ ?"

เป่ยถังหลิงเฟิงส่ายหัวและเพิ่งจะตระหนักได้ว่าตนเองไม่ได้ถามแม้กระทั่งชื่อ

แม้ว่าวันนี้ตอนเช้าเขาจะเห็นสาวน้อยคนนั้นมุดออกมาจากโพรงสุนัขในจวนกั๋วกงติ้ง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสาวน้อยคนนั้นเป็นคนของจวนกั๋วกงติ้ง

ไม่อย่างนั้นเดินออกประตูใหญ่ไปดี ๆ ก็ได้ไม่จำเป็นที่ต้องไปมุดโพรงสุนัขเลย

นอกจากผู้อาวุโสในจวนกั๋วกงติ้งแล้ว คนอื่น ๆ ถ้าไม่พิการก็ล้มหายตายจากกันไปแล้วทั้งนั้น แทบไม่มีสตรีคนใดที่ดูอายุรุ่นราวคราวเดียวกับหญิงสาวคนนั้นเลย

เว้นแต่จะเป็นสาวใช้

แต่เมื่อเขามองไปที่ผู้หญิงคนนั้น ทั้งเนื้อทั้งตัวก็ไม่เห็นมีวี่แววรูปพรรณที่จะเป็นสาวใช้ไปได้เลย ?

แต่เงินของเขากว่า 50,000 ตำลึงที่สูญไปก็ช่างน่าเศร้าเช่นกันที่ต้องถูกสตรีคนนี้หลอกเข้าให้

และการจะหานางคนนั้นมาสะสางบัญชีก็ทำไม่ได้อีก

ทันใดนั้นสีหน้าก็เจ็บปวดขึ้นในทันทีพร้อมกับกล่าว "ข้าจอมยุทธผู้นี้ก็เพิ่งพบเขาในวันนี้ พวกเจ้าก็เห็นอยู่ว่าเขาเพิ่งปล้นเงินของข้าไป 50,000 ตำลึง!"

“ข้าจอมยุทธผู้นี้จะต้องการสะสางบัญชีกับเขาให้ได้ !”

เมื่อผู้เฒ่าถังได้ยินว่าชายคนนี้ก็ไม่รู้จักคุณชายเมื่อสักครู่เช่นกัน เขาก็ไม่สนใจในทันที

อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินเป่ยถังหลิงเฟิงพูดว่าคุณชายคนนั้นได้ขโมยเงินเขาไป 50,000 ตำลึงก็ไม่พอใจเป็นอย่างมาก

“คุณชายท่านนี้ เจ้าพูดเช่นนั้นก็ไม่ถูกนัก เจ้ารู้ไหมว่าคุณชายให้ยาอะไรแก่เจ้าก่อนที่เขาจะจากไป ?”

"ยาอะไร?" เป่ยถังหลิงเฟิงเปิดขวดหยกออก ทันใดนั้นก็มีกลิ่นหอมโชยมาเข้าจมูกของเขา เขาถามอย่างสงสัย "ยาแก้พิษของยากล่อมประสาทของเขาเมื่อสักครู่รึ ?"

ผู้เฒ่าถังโกรธมากจนเป่าหนวดตาถลึงใส่ "ที่เขาทิ้งไว้ให้เจ้าก็คือยาเก้าฟื้นวิญญาณ !"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น