“หลังจากที่กินเข้าไป แม้แต่คนตายเจ้าก็สามารถนำกลับมาจากยมโลกได้ภายในเวลาแค่ธูปครึ่งก้าน ตอนนี้ยานี้มีราคาสูงแต่ก็ใช่ว่าจะซื้อขายกันได้ง่าย ๆ แม้แต่โรงประมูลของหอเซียนแพทย์ของพวกเราก็ถูกขายไปในราคาที่สูงเสียดฟ้า !”
“เจ้าเด็กน้อย เงิน 50,000 ตำลึงเงินแลกกับยาเม็ดนี้ได้ ยังไม่พอใจอีกเรอะ !”
“ยาเก้าฟื้นวิญญาณ !”
เป่ยถังหลิงเฟิงตกตะลึงอย่างขีดสุด!
แม่หญิงคนนั้นมีที่มาที่ไปยังไงกันแน่ ?
หลังจากที่ลู่ยุ๋นหลัวลงมาจากชั้นสองของหอเซียนแพทย์ นางก็ซื้อวัตถุดิบยาธรรมดาอีกหนึ่งถุงใหญ่ เมื่อกลับไปจะได้ทำยาเอาไว้ป้องกันตัวเอง
หลังจากออกมาจากหอเซียนแพทย์ นางก็หาสถานที่ที่ไม่มีผู้คนพร้อมกับนำยาที่ซื้อมาทั้งหมดใส่เข้าไปในมิติพิเศษ
ต่อจากนั้นนางก็เตรียมพร้อมที่จะจัดการธัญพืชในโกดังของมิติพิเศษต่อ
หากต้องการเอาธัญพืชในมือไปขาย ก็ต้องหาสถานที่เป็นโกดังเพื่อเก็บวางธัญพืชไว้ สถานที่นี้ทางที่ดีควรอยู่กันดารห่างไกลสักเล็กน้อย
ลู่ยุ๋นหลัวเดินไปรอบ ๆ เมืองหลวง จนในที่สุดก็ได้เช่าบ้านที่มุมหนึ่งของตอนใต้ของเมืองหลวง สถานที่นั้นล้อมรอบด้วยกำแพงสูง ซึ่งไม่มีทางที่จะเห็นสถานการณ์อะไรข้างในได้เลย
มีประตูหน้าหลังสองบ้าน ปากประตูหันไปทางถนนสายธรรมดา
หลังจากที่ลู่ยุ๋นหลัวเลือกสถานที่ดี ๆ ได้แล้วและจ่ายค่าเช่าพร้อมกับรับกุญแจมา นางก็นำข้าวสารและข้าวฟ่าง ที่สามารถขายได้จากในโกดังของมิติพิเศษออกมา
โกดังในมิติพิเศษมีระบบการคำนวนชั่งน้ำหนัก
ลู่ยุ๋นหลัวแค่ชำเลืองมอง ข้าวสารก็หนักราวประมาณ 37,500 กิโลกรัม ส่วนข้าวฟ่างหนักประมาณ 25,000 กิโลกรัม แปลงเป็นหน่วยชึที่ที่นี่ใช้กันก็จะมีข้าวสารประมาณ 750 ชึและข้าวฟ่าง 500 ชึ
อีกทั้งธัญพืชเหล่านี้ นางก็แค่ใช้พื้นที่เพาะปลูกบางส่วน 10 หมู่ในมิติพิเศษแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น
ความเร็วขนาดนี้ช่างน่ากลัวจริง ๆ
พื้นที่ในโกดังของมิติพิเศษก็โล่งไปเลยครึ่งหนึ่ง พืชผลในพื้นที่เพาะปลูกก็เริ่มกลับงอกเงยต่ออีกครั้ง โกดังก็เริ่มดำเนินการทำงานต่อในทันที
เมื่อลู่ยุ๋นหลัวเห็นว่าสัญญาณเตือนภัยบนหลังคาโกดังได้งอกขึ้นมาใหม่เกินครึ่งของตัวอุปกรณ์ จนนางรู้สึกปวดหัวในทันที
หากวันนี้นางยังไม่จัดการให้โกดังของมิติพิเศษโล่งออกบางส่วน ถ้าอ้างอิงอัตราการเติบโตการงอกขึ้นใหม่ของสัญญาณเตือนภัยแล้ว เกรงว่าอีกไม่นานนักนางคงจะต้องทนทรมานกับสัญญาณเตือนภัยที่ปลุกขึ้นในกลางดึกก็ได้
ดูเหมือนเมื่อรอจนถึงตอนที่นางจัดการเรื่องของท่านตาเสร็จสิ้น นางจะต้องเร่งวิวัฒนาการมิติพิเศษนี้ได้แล้ว
มิฉะนั้นไม่ช้าก็เร็วนางจะถูกไอสัญญาณเตือนภัยนี่ทรมานจนตายเป็นแน่
นางล็อคประตูใหญ่
บ้านที่วันนี้นางเพิ่งเช่ามา หากนางไปหาผู้ซื้อธัญพืชให้มาที่นี่ในทันที ก็คงจะกระตุ้นให้คนอื่นสงสัยได้อย่างง่ายดายมากขึ้น
ควรทิ้งเรื่องนี้ไว้สักสองวันก่อนดีกว่า
หลังจากกลับมาที่จวนกั๋วกงติ้งก็เริ่มเตรียมยาแก้พิษในทันที
หยินซวางดูผิดไปจากปกติ นางกระวนกระวายไปมาอยู่ด้านหน้าของลู่ยุ๋นหลัวอยู่ตลอด
ลู่ยุ๋นหลัวชำเลืองมองไปที่นาง สาวใช้คนนี้เก็บเรื่องเอาไว้ในใจไม่มิดจริง ๆ ต้องมีบางอย่างที่ปกปิดหลบซ่อนจากนางเป็นแน่
"เจ้ามีอะไรก็บอกข้าเถอะ"
หัวของนางวิงเวียนจนจะเป็นลมอยู่แล้ว
เมื่อลู่ยุ๋นหลัวเห็นท่าทีที่ลังเลของหยินซวางก็ยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากไปอีก
เรื่องอะไรกันแน่ที่ทำให้หยินซวางมีท่าทีลำบากใจได้ถึงเช่นนี้?
เป็นไปได้ไหมว่าสาวใช้คนนี้เผชิญกับปัญหาอะไรเข้า ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ลู่ยุ๋นหลัวก็เดินเข้ามาหาด้วยสีหน้าที่สงสัยพร้อมกับจ้องมองไปที่หยินซวาง "เจ้าบอกข้ามาเร็ว ๆ ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ ?"
หยินซวางดูเหมือนจะทนเงียบไม่ได้อีกต่อไป ในที่สุดก็ยอมเปิดปากพูดออกมา "เป็นเช่นนี้เพคะ วันนี้ท่านอ๋องเฉินเสด็จมาหานายหญิง แต่ว่า พอท่านอ๋องเฉินได้ยินว่านายหญิงขอไม่พบแขกคนใดก็กลับไปในทันทีเพคะ"
"แค่นี้ ?"
ลู่ยุ๋นหลัวเลิกคิ้ว นางรู้สึกว่ากางเกงของนาง(กางเกงของนาง ประโยคเต็มคือ"กางเกงถอดแล้ว แต่มีแค่นี้ ?" หมายถึงการสนองต่ออารมณ์ที่ไม่เพียงพอหรือผิดหวัง)...กระแอ่ม กระแอ่ม หูของนางก็ผึ่งทันที ที่แท้ก็มีแค่นี้ ?
เรื่องแค่นี้ทำให้นางลำบากใจราวกับเกิดสงครามระหว่างสวรรค์กับมนุษย์เลยเหรอ ?
"ตอนที่ท่านอ๋องเฉินเสด็จจากไป เขาฝากของบางอย่างไว้ให้แก่ท่านด้วย" หลังจากพูดจบหยินซวางก็หยิบกล่องไม้ออกมาและยื่นส่งให้กับลู่ยุ๋นหลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...