“แกก็แค่อีบ่าวไพร่เยี่ยงหมา ยังจะมีหน้ามาหานายหญิงอีกงั้นรึ ?”
“ท่านผู้อาวุโสเลี้ยงดูเจ้ามากี่สิบปี แต่เจ้ากลับอาศัยเวลาที่ท่านผู้อาวุโสป่วยกระทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ !”
“นายหญิงของพวกข้าไม่อยากพบเจ้า ไสหัวออกไป !”
“อย่ามารบกวนความสงบของท่านผู้อาวุโส !”
“พวกเจ้าตรงนั้นน่ะ เอาไม้กวาดมาฟาดไล่มันออกไปซิ !”
เห็นเพียงแต่เงาดำที่ถูกคนในเรือนขับไล่ออกมา
เงาดำนั้นถูกผลักจนล้มลง เมื่อลุกขึ้นก็จากไปอย่างน่าเวทนา
เด็กรับใช้ที่สังเกตุการณ์ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็หัวเราะเยอะเย้ย ลุงหวังคนนี้แต่ก่อนอาศัยที่ตนเองเป็นหัวหน้าผู้ดูแลและมักจะทำตัวเหมือนผู้เฒ่าอบรมสั่งสอนเขา ไม่คาดคิดว่าลุงหวังจะมีวันที่ลำบากเลวร้ายเช่นนี้
หลังจากที่ลู่ยุ๋นหลัวปลอมตัวเป็นลุงหวังจนถูกขับไล่ออกมาแล้ว ขณะที่นางวิ่งตรงไปที่ประตูหลัง ป้าจางก็ถูกคนยัดเข้าไปในรถม้าแล้ว
เด็กรับใช้สองคนและท่านแม่เฒ่ากำลังยืนล้อมเป็นวงหันหลังให้กับนาง ทั้งสามคนกระซิบกระซาบคุยกันโดยไม่รู้ว่าคุยอะไรกันอยู่ อาจเป็นเพราะช่วงกลางคืนซึ่งท้องถนนร้างและไร้ผู้คนอีกทั้งค่อนข้างเงียบ เสียงของพวกเขาจึงทุ้มต่ำเป็นอย่างมาก
ลู่ยุ๋นหลัวจึงใช้โอกาสนี้แอบย่องไปที่ด้านข้างของรถม้า ป้าจางที่ถูกมัดไว้พร้อมกับถูกปิดปาก หลังจากที่เห็นลู่ยุ่นหลัว ขึ้นมาตาของนางก็ถลึงเบิกกว้าง แต่ยังไม่ทันที่นางจะตอบโต้อะไรก็ถูกเข็มเงินฝังลงไป ป้าจางผู้นั้นก็หมดสติวูบไปในทันที
ขณะที่นางกำลังคิดอยู่ว่าจะพาป้าจางออกไปเช่นไร ดูเหมือนว่าด้านนอกก็เจรจากันเสร็จเรียบร้อยแล้ว
หลังจากไม่กี่คนตรงนั้นล่ำลากันเสร็จ ท่านแม่เฒ่าค้ามนุษย์ผู้นั้นก็ขึ้นนั่งบนรถม้าพร้อมกับควบจากออกไป
ผ่านไปไม่นานนัก ท่านแม่เฒ่าคนนั้นก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
ทำไมไม่มีการเคลื่อนไหวบนรถม้าเลย ?
แม้ว่ามือและเท้าจะถูกมัดและผ้าปิดปากเอาไว้ แต่โดยปกติคนที่ถูกมัดเอาไว้มักจะดิ้นรนอยู่บ้าง จะเงียบสงบเช่นนี้ไปได้เยี่ยงไร ?
เมื่อนึกถึงตรงนี้ ท่านแม่เฒ่าคนนั้นก็รีบหยุดรถม้าในทันที เมื่อเปิดผ้าที่คลุมไว้ออก ก็สบเข้ากับดวงตาที่สุกสกาวอยู่คู่หนึ่ง
"สวัสดี !" ลู่ยุ่นหลัวฉีกยิ้มอย่างอ่อนหวานให้กับนาง จากนั้นก็ดีดเข็มเงินในมือของนางปักเข้าไปอย่างไม่เกรงใจ
ท่านแม่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงล้มลงไปในทันใด
ลู่ยุ๋นหลัวมองไปที่คนทั้งสองที่สลบอยู่ตอนนี้ก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย
นางไม่มีแม้แต่กำลังคนสักคน แล้วจะเอาสองคนนี้ไปไว้ที่ไหน ?
สองคนนี้เป็นถึงพยาน นางจะต้องจับกุมเอาไว้ให้แน่นด้วยมือของนางเอง
ไม่รู้ว่ามิติพิเศษจะสามารถใส่คนที่มีชีวิตเข้าไปได้รึไม่ ?
นางจำได้ว่าเมื่อก่อนตอนที่นางอยู่ในตำหนักเย็น นางก็ได้จับไก่ไม่กี่ตัวโยนเข้าไปในมิติพิเศษเพื่อเลี้ยงพวกมัน นางก็ไม่รู้ว่าคนที่มีชีวิตจะโยนเข้าไปได้รึไม่ ?
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ นางจึงใช้มือข้างหนึ่งจับหญิงชราคนนั้น และเพียงแค่นึกคิด ทันใดนั้น หญิงชราก็หายไปจากที่เดิมทันที !
ลู่ยุ๋นหลัวก็อุทานอีกครั้งให้กับฟังก์ชั่นมิติพิเศษที่โคตรเจ๋ง
นอกเหนือจากการที่ต้องกินผลไม้วิวัฒนาการที่ไม่รู้ถึงผลข้างเคียงเป็นครั้งคราวกับเสียงเตือนภัยที่แสบแก้วหูแล้ว มิติพิเศษของนางนี้อาจพูดได้ว่า ช่างสมบูรณ์แบบมาก !
นางยื่นมือออกไปแล้วจับป้าจางโยนเข้าไปในมิติพิเศษ เพื่อเป็นกันปกปิดความลับของมิติพิเศษที่จะถูกพบเห็น เกรงว่าฤทธิ์ยากล่อมประสาทที่ใช้จะไม่แรงพอจนพวกเขาอาจจะตื่นก่อนกำหนด ลู่ยุ๋นหลัวจึงฝังเข็มให้พวกเขาคนละสองเล่ม หากไม่ครบหนึ่งวันหนึ่งคืน ไม่มีทางที่จะตื่นขึ้นมาได้แน่นอน
หลังจากแก้ปัญหาเสร็จสิ้น นางก็ควบรถม้านี้กลับจวนไปอย่างสบายอารมณ์
แต่ประตูหน้าหลังของจวนกลับเข้าไม่ได้ นางจึงได้แต่ต้องมุดโพรงสุนัขเข้าไป
หลังจากเข้าไปแล้ว นางก็กลับไปที่เรือนของตนเองก่อน
นางนำคนทั้งสองออกจากมิติพิเศษแล้วมัดแขนขาเอาไว้ทั้งหมดไว้กับเสา จากนั้นก็ออกมาพร้อมกับล็อคประตูเอาไว้
ต่อมาจึงค่อยไปเรือนของท่านตาเพื่อรายงานเรื่องความปลอดภัย
ทุกคนหลังจากเมื่อเห็นลู่ยุ๋นหลัวปลอดภัยกลับมาก็ถอนหายใจโล่งอก ส่วนลุงหวังตัวจริงก็ถูกแม่นมโจวด่าไล่ตะเพิดออกจากเรือนไปอีกครั้ง
เนื่องจากลู่ยุ๋นหลัวยังคงคิดถึงป้าจางและท่านแม่เฒ่าคนนั้น ผ่านไปสักพักหนึ่ง นางก็พาหยินซวางและนางข้าหลวงหนึ่งนางกลับไปยังเรือนของตนเอง
เพื่อเตรียมสอบปากคำสองคนนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...