นางไม่รู้ได้เยี่ยงไร นายหญิงของพวกนางเคยแต่งวาดเช่นนี้มาก่อนเหรอ ?
ไม่แปลกที่ลู่ยุ๋นหลัวจะได้ยินน้ำเสียงถากถางเสียดสีราวกับไม่อยากจะรู้จักนางของหญิงสาวในชุดสีเขียวตรงหน้า ดังนั้นนางจึงเดินไปด้านข้างเพื่อเลือกที่ทาแก้มชนิดน้ำ
การเคลื่อนไหวตรงนี้ดึงดูดความสนใจของคนในร้านไม่น้อย
ในหมู่คนพวกนั้นก็มีเจียงจึหรูและหวังไฉ่ซวนร่วมอยู่ด้วย
"จึหรู เจ้ามาดูเร็ว นางคนนั้นคือท่านลู่ยุ๋นหลัวหรือเปล่า ?" หวังไฉ่ซวนเพียงหันนหน้าไปมองก็ตกตะลึงทันที พร้อมกับรีบสะกิดเจียงจึหรูที่อยู่ข้าง ๆ
เจียงจึหรูก็มองตามสายตาของหวังไฉ่ซวนที่กำลังจ้องมองอยู่ จากนั้นใบหน้าของนางเป็นสุขทันใด นึกไม่ถึงว่าจะเป็นนางจริง ๆ !
นี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้ใกล้ชิดกับเทพธิดามากถึงเพียงนี้
ทั้งสองรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อถวายคำนับ "หม่อมฉันหวังไฉ่ซวน หม่อมฉันเจียงจึหรู ขอคารวะนายหญิง !"
ลู่ยุ๋นหลัวหันกลับมาก็เห็นหญิงสาวหน้าตาสละสลวยทั้งสองคน คนหนึ่งเป็นหญิงสาวในชุดสีเหลืองดูโอนโยนและมีเสน่ห์และมีกลิ่นอายอันโดดเด่น อีกคนหนึ่งด้านข้างเป็นหญิงสาวในชุดสีชมพูแต่กลับมีบรรยากาศของสุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์
ลู่ยุ๋นหลัวดูเหมือนจะคุ้นหน้าคุ้นตากับหญิงสาวในชุดสีชมพูคนนี้ วันนั้นภายในปีกห้องโถงภายในวัง ขณะที่นางกำลังแจกจ่ายเครื่องสำอาง หญิงสาวที่สวมชุดสีชมพูคนนี้มองจ้องนางโดยสายตาที่แปลก ๆ
"ลุกขึ้นเถอะ" ลู่ยุ๋นหลัวไม่คาดคิดมาก่อนว่านางจะถูกมองออกแม้ว่านางจะมาเดินซื้อของก็ตาม
“ขอบพระทัยนายหญิง” ทั้งสองลุกขึ้นยืนอย่างมีความสุข
คนอื่น ๆ ในร้านต่างก็ตกตะลึง
หญิงสาวท่านนี้ที่งดงามจนยากจะหาใดเทียบที่เพิ่งเข้ามาในร้านคือนายหญิงภายในวัง ?
โดยเฉพาะผู้หญิงในชุดสีเขียวที่กล่าวเยาะเย้ยนางเมื่อสักครู่ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่เชื่อและอาการของความตื่นตระหนก
นางจึงถามผู้หญิงอีกคนที่อยู่ข้าง ๆ "ไม่ใช่ว่าคราวก่อนเจ้าก็เข้าวังไปร่วมงานเลี้ยงไม่ใช่เหรอ ? นางคือนายหญิงจริง ๆ งั้นเหรอ" คราวก่อนเนื่องจากนางเป็นไข้หวัด ดังนั้นนางจึงไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงภายในวัง
ผู้หญิงที่ถูกถามคนนั้นก็มองพิจารณาลู่ยุ๋นหลัวไกลไกลและพยักหน้าพูด "ดูเหมือนนางท่านนั้นจะเป็นนายหญิงแห่งตำหนักเย็น การแต่งวาดที่หน้าผากคือนางเป็นผู้ริเริ่มแต่งวาดคนแรก" เมื่อผู้หญิงคนนั้นพูดจบก็ไม่ได้สังเกตุว่าหญิงสาวในชุดสีเขียวใบหน้าเริ่มค่อย ๆ เปลี่ยนสีจนซีดขาวอย่างเห็นได้ชัด
หญิงสาวในชุดสีเขียวรู้สึกใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวในทันใด
การแต่งวาดหน้าผากนี้ที่แท้ก็คือนายหญิงท่านนี้ซึ่งเป็นคนแรกในการแต่งวาดจนแพร่หลายออกมานอกวัง
นึกไม่ถึงเลยว่านางจะกล้าพูดได้เต็มปากต่อหน้านางว่าไม่รู้จักการแต่งวาดรี้รึไง
ยิ่งกว่านั้นนางยังเป็นถึงนายหญิงภายในวัง แน่นอนว่าบรรดาศักดิ์เมื่อเทียบกับนางก็คงราวฟ้ากับเหว
ไม่ต้องพูดถึงการเหน็บแนมของนางเมื่อสักครู่ แม้ว่าปกติที่จะไม่ได้ตั้งใจเสียมารยาทไป แต่ก็ยังพอที่จะละเว้นโทษได้บ้าง
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ใบหน้าของหญิงสาวในชุดสีเขียวก็ซีดขาวทันที
"ถวายบังคม นายหญิง !" คนอื่น ๆ ในร้านต่างก็ทยอยคุกเข่าลงและถวายคำนับหลังจากได้ยินว่าลู่ยุ๋นหลัวเป็นนายหญิงภายในวัง
หญิงสาวในชุดสีเขียวก็รีบคุกเข่าลงไปเช่นกัน
ลู่ยุ๋นหลัวหันมองไปที่ผู้คนที่เต็มอยู่ภายในห้อง นางรู้ทันทีว่านางจะซื้อของที่นี่ไม่ได้แล้ว "ลุกขึ้นเถอะ"
หลังจากที่ทุกคนลุกขึ้น นางก็รีบพาหยินซวางและแม่นมโจวออกมาทันที
ส่วนหญิงสาวหลายคนภายในร้านก็กำลังคุยกันอย่างตื่นเต้น
"ที่แท้นางก็คือลู่ยุ๋นหลัว ถึงว่ามีรูปลักษณ์หน้าตาน่าเย้ายวนขนาดนั้น"
"ใช่ ช่างสวยงดงามมาก !"
“ถ้าข้าสวยได้เท่านางสักครึ่งหนึ่งก็คงจะดี”
“พวกเจ้าดูสิ เมื่อสักครู่คุณหนูสามของหัวหน้ากระทรวงพิธีการหลุดปากถากถางนายหญิงด้วยแหละ”
หวังไฉ่ซวนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ใช่น่ะสิ เมื่อกี้ข้าก็ได้ยินเหมือนกัน นางปกติก็มักพึ่งพาอิทธิพลของตระกูลนางเองดูถูกคนอื่น ไม่คิดมาก่อนว่าคราวนี้ นางจะถากถางเยาะเย้ยลามไปถึงนายหญิง"
เจียงจึหรูก็ไม่ชอบคุณหนูสามของหัวหน้ากระทรวงพิธีการคนนี้
เพราะนางพอดูถูกคนอื่นทีไร สายตาก็แทบจะอยู่สูงเหนือหัวเลยไปอีก
คราวนี้เป็นเพราะนายหญิงใจกว้างไม่เอาเรื่องนาง มิฉะนั้นโทษสูงสุดเหนือหัว นางคงจะต้องทนรับผลโทษไปแล้ว หากนิสัยแย่ ๆ ของนางแบบนี้ยังคงไม่แก้ไข ไม่ช้าก็เร็วจะต้องเกิดเรื่องเข้าสักวัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...