ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 169

ท้ายที่สุดแล้ว ท่านตาครั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าถูกข้ารับใช้ในจวนวางยาหรอกเหรอ ?

นางเริ่มคิดทบทวนว่ายังมีเรื่องอะไรต้องทำอีกบ้าง ทางที่ดีที่สุดคือจัดเวลาให้ท่านน้าของนางให้ยุ่งไว้ก่อน

ตราบใดที่เขายังยุ่งกับงาน เขาก็จะได้ไม่มีเวลาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขามีหรือสิ่งเขาที่ไม่มีอีก

อีกไม่กี่วัน นางก็จะเริ่มรักษาขาให้เขาได้แล้ว

เมื่อขาเขาดีแล้ว ปัญหาทุกอย่างก็จะคลี่คลายลงเอง

"หลานหลัว เจ้ากลัวว่าน้าอย่างข้าไม่มีอะไรทำรึ ?" ซูโม่หลานเมื่อได้ยินลู่ยุ๋นหลัวจัดการงานให้เขาทำอย่างไม่หยุดหย่อน จนเขาอดที่จะยิ้มอย่างช่วยไม่ได้

ลู่ยุ๋นหลัวส่งสายตาที่แค่เขามองก็รับรู้ได้ด้วยตนเอง

ไม่ใช่ว่าว่างอยู่หรอกเหรอ ?

ในเมื่อกลับมาแล้วก็ต้องตั้งใจและดูแลจวนของท่านผู้อาวุโสให้ดีสิ

“ท่านน้า ขาของท่านสามารถยืนขึ้นได้อีกครั้งจริง ๆ ขอข้าจัดแจงเตรียมพร้อมให้ดีก่อน ข้าจะรักษาขาของท่านให้หาย ถึงตอนนั้นจะไปต่อสู้กับข้าศึกอีกครั้งก็ไม่มีปัญหา”

“เพราะฉะนั้นเจ้าก็เลิกคิดได้แล้วว่าตัวเองมีหรือไม่มีอะไร ไปใส่ใจดูแลบัญชีในจวนให้ดีจะดีกว่า รอขาหายดีแล้ว จากนั้นก็มีหลานตัวน้อยให้ข้าสักคน จวนกั๋วกงติ้งแห่งนี้ก็จะมีชีวิตชีวาขึ้นมาสักที"

ซูโมหลานมองไปที่ลู่ยุ๋นหลัวที่ยืนอยู่ริมสระน้ำพร้อมกับพูดภาพที่สวยงามในอนาคตให้เขาฟัง

เขาหวังว่าเป็นอย่างมากว่าทุกอย่างจะสามารถเป็นจริงได้

และคงไม่เป็นเพียงแค่คำปลอบเท่านั้น

น่าเสียดาย……

เขารู้ดี ว่าทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำปลอบโยนเท่านั้น

ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อคำพูดของลู่ยุ๋นหลัว แต่หลายปีที่ผ่านมาเขาได้หาหมอมาแล้วหลายต่อหลายคนต่างก็ล้วนไม่มีใครสามารถรักษาอาการขาของเขาได้

หมอทุกคนเมื่อเห็นอาการของเขา ท้ายที่สุดเขาก็ได้แต่ส่ายหัวถอนหายใจและจากไป

จนถึงตอนนี้เขาเลิกหวังกับขาคู่นี้ไปตั้งนานแล้ว

หากไม่มีความหวังก็จะไม่มีทางผิดหวัง

เพียงแต่การกลับมายังเมืองหลวงอย่างกระทันหันในครั้งนี้ เขาไม่ได้เตรียมพร้อมดีที่จะจัดการกับคำพูดซุบซิบที่น่าเกลียดภายนอกนั้นได้

ซึ่งสายเลือดของจวนกั๋วกงติ้งก็เหลือแต่เขาคนเดียวจริง ๆ !

เห้อ

ลู่ยุ๋นหลัวรู้สึกว่าสิ่งที่พูดไปนั้นเปล่าประโยชน์ ท่านน้าเขาเองไม่เชื่อสิ่งที่นางพูดเลยแม้แต่น้อย

ในขณะที่พูดคุย ข้ารับใช้ก็มาบอกว่าลุงหวังด้านนั้นได้เตรียมสมุดบัญชีไว้เรียบร้อยแล้ว ขอให้ท่านชายน้อยไปตรวจสอบบัญชีด้วย

ซูโม่หลานรู้ว่าลู่ยุ๋นหลัวกลัวว่าเขาจะว่างจนคิดมากฟุ้งซ่าน ผนวกกับจวนของท่านผู้อาวุโสช่วงนี้ก็ต้องการความช่วยเหลือจากเขา ดังนั้นเขาจึงไม่ได้พูดอะไร

ขณะที่เขากำลังจะเดินจากไปก็นึกถึงเรื่องบางอย่างได้

"ใช่แล้วหลัวเอ๋อร์ ข้าได้ยินมาว่ายาถอนพิษที่ท่านพ่อข้าทานไปเป็นของท่านอ๋องเฉินที่ส่งคนมามอบให้ และก็ยังมีบัวโลหิตที่ช่วยยื้อประทังชีวิตนั้นก็เป็นท่านอ๋องเฉินออกค่าใช้จ่ายมหาศาลและแรงคนจำนวนมากถึงจะหามาได้ จวนกั๋วกงติ้งเป็นหนี้บุญคุณอย่างมากต่อท่านอ๋องเฉิน ตัวข้าที่อยู่ในสภาพนี้คงไม่สะดวกที่จะออกไปหานัก ข้าได้เตรียมของขวัญตอบแทนเอาไว้แล้ว เจ้าไปหาท่านอ๋องเฉินแทนให้ข้าสักหน่อยเถอะ”

ลู่ยุ๋นหลัวพยักหน้า การไปเยี่ยมเพื่อเคารพขอบคุณเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้ว

นี่คือบุญคุณที่ได้ช่วยชีวิตไว้

เมื่อนึกถึงท่านอ๋องผู้อ่อนโยนคนนั้น หัวใจของลู่ยุ๋นหลัวก็เจ็บปวดทันใด เขาเป็นชายที่หล่อเหลาและแสนดีคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าได้รับพิษชนิดไหนมากันแน่ถึงได้มีพระชนม์ได้ไม่ถึง 30 พรรษา ?

นางนำของขวัญมากมายมหาศาลสำหรับขอบคุณที่ซูโม่หลานเตรียมไว้สองเกวียนใหญ่และมุ่งหน้าไปยังจวนของท่านอ๋องเฉิน

จวนของท่านอ๋องเฉินตั้งอยู่ค่อนข้างห่างไกลซึ่งบริเวณถนนแทบจะไม่มีผู้คนเลย

เมื่อนางมาถึงประตูใหญ่ ผู้ดูแลจวนของท่านอ๋องเฉินก็มาต้อนรับที่ประตู เมื่อเห็นเป็นลู่ยุ๋นหลัวเขาก็ต้อนรับอบอุ่นอย่างดีให้นางเข้ามาภายในจวน

"แม่หญิงลู่ ท่านได้มาถึงแล้ว เอ่อ ท่านทราบรึไม่ว่า ท่านอ๋องเฉินของเรา..."

“ลุงฟู !” เสียงไม่พอใจดังขัดคำพูดถัดไปของผู้ดูแลจวนคนนี้

ลู่ยุ๋นหลัวมองหาต้นตอเสียงรอบ ๆ และเห็นชายคนหนึ่งที่แต่งตัวเป็นทหารอารักขาพร้อมกับถือดาบยาวโดยมีสีหน้ายิ้มแห้ง ๆ มองมาจากที่ไม่ไกลจากตรงนี้นัก "นางไม่ได้เป็นแม่หญิงลู่แล้วลุง แต่เป็นนายหญิงผู้สูงศักดิ์หาที่ใดเปรียบได้ในวังแล้ว เจ้ารู้ไหม ? "

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น