ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 184

พวกเขาทำอะไรผิดไปหรือเปล่าที่ทำให้แม่นางคนนี้ไม่พอใจ ?

ถึงไม่ให้พวกเขาคอยบริการอย่างใกล้ชิด ?

ทั้งสามมองไปที่หน้าของลู่ยุ๋นหลัวด้วยความคับข้องใจ

เมื่อลู่ยุ๋นหลัวรู้สึกถึงการจ้องมองของพวกเขา นางก็คิดว่าเป็นเพราะนางให้เงินไม่เพียงพอ

ดังนั้นนางจึงใจกว้างควักตั๋วเงินอีกสองสามใบให้แก่พวกเขาแต่ละคน

พ่อหนุ่มทั้งห้ารู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลย แค่นี้พวกเขาแต่ละคนก็รับเงินรางวัลไปแล้วถึง 3,000 ตำลึง สายตาของพวกเขาดูที่จ้องมองลู่ยุ๋นหลัวก็ไม่สบายใจมากยิ่งขึ้นไปอีก

คนที่แสดงบนเวาทีก็ดีหน่อย เพราะได้แสดงทักษะเฉพาะตัวให้ลู่ยุ๋นหลัวได้เพลิดเพลินสุนทรีได้

เนื่องจากลู่ยุ๋นหลัวได้ตั้งข้อกำหนดขึ้นมา ทำให้พ่อหนุ่มที่อยู่ด้านล่างเวทีทั้งสามได้แต่เหลือบมองด้วยสายตารักใคร่ส่งไปให้ลู่ยุ๋นหลัว

ตราบใดที่ลู่ยุ๋นหลัวเหลือบมองดูพวกเขา พวกเขาก็จะตื่นเต้นขึ้นทันที

เมื่อจี้อู๋เจวี๋ยเข้ามาด้วยพระพักตร์ที่หมองหม่น ลู่ยุ๋นหลัวก็กำลังเพลิดเพลินกับการแสดงบนเวทีอย่างสบาย ๆ ในขณะที่รับประทานของว่างไปด้วย

สายพระเนตรกวาดไปทั่วห้อง

เมื่อเห็นว่าหญิงสาวคนนี้ยังคงสงวนเนื้อสงวนตัวรักษาระยะห่างจากโสเภณีชายเหล่านี้ภายในหอ ดวงพระเนตรที่แต่เดิมเป็นไฟลุกโชนด้วยความโกรธก็ผ่อนคลายลงเล็กน้อย

แต่ความโกรธยังคงแผดเผาอย่างรุนแรงในแววพระเนตร

หลังจากตระหนักว่ามีคนเข้ามา ลู่ยุ๋นหลัวก็หันศีรษะของนางไปมองและเห็นชายคนหนึ่งที่มีรูปลักษณ์ที่ราวกับปีศาจชั่วร้าย

สวมฉลองพระองค์เป็นผ้าไหมสีเขียวอ่อน

เพียงแสงที่ลอดผ่านไปยังบุคคลที่เพิ่งเข้ามาและยืนอยู่ตรงนั้น บรรยากาศอาฆาตนั้นก็แทบจะคร่าชีวิตเหล่าพ่อหนุ่มที่อยู่ในห้องก่อนหน้านี้ไปได้ทั้งหมด

นี่คือชายหนุ่มชั้นยอด !

ดวงตาของลู่ยุ๋นหลัวทั้งสองข้างเป็นประกาย

นางคาดไม่ถึงว่าจะมีชายหนุ่มรูปงามที่ไม่มีใครเทียบได้เช่นนี้ในหอชุนเฟิง!

เดี๋ยวก่อน

ทำไมชายรูปงามคนนี้นางดูเหมือนจะเคยเห็นที่ไหนมาก่อน !

อ้อ——

นางจำได้แล้ว

นางจำได้ว่าครั้งล่าสุด ดูเหมือนว่านางเคยใช้เงินจำนวนมากเพื่อนอนกับชายหนุ่มรูปงามคนนี้ !

ที่แท้เขาก็เป็นคนของหอชุนเฟิงนี่เอง !

เมื่อคิดถึงตรงนี้ นางก็รีบโบกมือให้จี้อู๋เจวี๋ยเข้ามา

"พ่อชุดเขียว ! ที่แท้เจ้าก็เป็นคนของหอชุนเฟิง ! มาดื่มกับข้าสักจอกสิ"

นางจำอะไรไม่ได้เลยตอนนี้

นางจำได้แค่พ่อชุดเขียวคนนี้เท่านั้น

ทันใดนั้นนางรู้สึกว่าพ่อชุดเขียวใจดีกับนางมากราวกับเหมือนญาติ

สายตาของคนอื่น ๆ ในห้องก็จับจ้องไปที่จี้อู๋เจวี๋ย

พ่อชุดเขียว ?

อาจเป็นหยุนเหนียงเพิ่งรับคนเข้ามาใหม่งั้นเหรอ ?

ผู้คนในห้องเมื่อเห็นอริยาบถที่ไม่ธรรมดาของจี้อู๋เจวี๋ยและพระพักตร์ที่ชั่วร้าย ทุกคนต่างก็รู้สึกถึงภัยอันตรายเป็นอย่างมาก

ทันใดนั้น สายตาพ่อนุ่มทุกคนที่จ้องก็ราวกับมีควันดินปืนที่มองไม่เห็นพวยพุ่งออกจากตาของพวกเขา

แต่เมื่อจี้อู๋เจวี๋ยทรงได้ยินลู่ยุ๋นหลัวเรียกเขาว่าพ่อชุดเขียว พระวรกายของเขาก็ทรงสั่น จนเขาเกือบจะทรงยับยั้งความโกรธไม่ไหวและอยากโยนนางออกไปอย่างรุนแรง

นางคนนี้แกล้งโง่อยู่งั้นรึ ?

พระวรกายที่เต็มไปด้วยความโกรธทรงย่างก้าวมาที่ด้านข้างของลู่ยุ๋นหลัว พร้อมกับทรงคิดว่าจะจัดการกับนางคนนี้อย่างไรดี ทันใดนั้นเขาก็ถูกนางดึงให้นั่งลงทันที

จากนั้นก็นำขนมชิ้นหนึ่งป้อนเข้าพระโอษฐ์ของเขา “เอาสิ อ้าปาก"

จี้อู๋เจวี๋ยทรงมองอย่างเย็นชาไปที่ใบหน้าที่งดงามยากจะมีใครเทียบได้ซึ่งเข้ามาใกล้เขา

เขาทรงพยายามที่จะมองหาร่องรอยพิรุธของความตื่นตระหนกบนใบหน้าของนาง

แต่กลับไม่มี

กลับกันภายใต้สายพระเนตรที่จับจ้องของเขา นางคนนี้กลับแสดงออกว่า เอ่อ กำลังหมกมุ่นอยู่กับเขา

ไม่พูดก็คงจะไม่ได้

ว่าเขาทรงพอใจมากกับสายตาที่นางมองเขาในตอนนี้

ดังนั้นความโกรธที่เดือดดาลเมื่อสักครู่ก็ดูเหมือนจะสงบลงได้อย่างง่ายดายในขณะนี้

เขาอ้าพระโอษฐ์อย่างว่านอนสอนง่ายและเสวยขนมที่นางป้อนลงไป

หวานมาก

เมื่อเทียบกับตอนที่นางป้อนของหวานแก่เขาในงานเลี้ยงคืนนั้นก็ช่างแตกต่างซะเหลือเกิน

"แม่นาง พวกข้าก็อยากกินเหมือนกัน !"

พ่อชุดชมพูเมื่อเห็นภาพฉากนี้ พ่อชุดม่วงและพ่อชุดดำก็เริ่มไม่พอใจพร้อมกับกล่าวอย่างน้อยใจ

เอาอะไรมาตัดสินให้พวกเขาต้องไปนั่งซะห่างไกลและดูแลนางอย่างใกล้ชิดไม่ได้

แต่ผู้มาใหม่คนนี้กลับสามารถกินขนมที่แม่หญิงป้อนเองกับมือได้ ?

พวกเขารับไม่ได้

จี้อู๋เจวี๋ยกวาดพระเนตรราวกับแสงอันเย็นเยียบ

เป็นอะไร ?

เดี๋ยวนี้ชายร่างใหญ่พวกนี้ไม่มีแม้แต่มือที่จะหยิบของกินเองรึไง ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น