“พวกเจ้าก็อยากกินด้วยเหรอ ?”
ลู่ยุ๋นหลัวมองไปในจานที่มีขนมเหลืออยู่เพียงชิ้นเดียวด้วยความลำบากใจ "แต่ข้ามีแค่ชิ้นเดียวแล้ว ทำไมไม่ไปเรียกให้คนเอามาให้พวกเจ้าคนละจานกันล่ะ"
“แม่นาง !” พ่อชุดชมพูซึ่งอยู่ห่างออกไปทางขวาไม่กี่เมตรกล่าวด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ
สิ่งที่พวกเขาหมายถึงคือการให้แม่นางป้อนถึงปากของพวกเขาเอง
แต่ดูจากสีหน้าของแม่นางแล้ว ก็ไม่รู้ว่าไม่เข้าใจจริง ๆ หรือว่าแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจกันแน่
ลู่ยุ๋นหลัวยิ้มอ่อน ๆ ให้กับพวกเขา "ดูการแสดงเถอะ"
พ่อหนุ่มน้อยพวกนี้ กล้าท้านางหลายต่อหลายครั้งแต่อย่างไรนางก็ไม่กล้าอยู่ดี
แต่ว่าพ่อชุดเขียวที่อยู่ข้าง ๆ นางก็แตกต่างจากพวกเขาอยู่แล้ว
ตรงไหนที่ไม่เหมือนคนอื่นงั้นเหรอ นางก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเช่นกัน
บางที อาจจะ ประมาณว่าเป็นเพราะเหตุผลที่นางนอนหลับกับพ่อชุดเขียวคนนี้ในคราวก่อนรึเปล่านะ ?
ลู่ยุ๋นหลัวนึกถึงฉากเหตุการณ์ที่ถูกเขาโยนในคราวก่อน
ภาพสุดท้ายที่ตรึงอยู่ในหัวของนางคือฉากเหตุการณ์หลังจากที่ได้ถอดเสื้อผ้าของเขาออก
จนเวลานี้เองนางอดก็ไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอทันที
นางใช้สายตาแอบชำเลืองมองจี้อู๋เจวี๋ยที่อยู่ข้าง ๆ
จนเผอิญไปสบเข้ากับสายพระเนตรอันเย็นเชียบของเขาที่ยากจะหยั่งลึกถึงก้นบึ้งคู่นั้น
หัวใจนางเต้นแรงโครมครามในทันที
นางรีบหลบสายตามองไปทางอื่นพร้อมกับหยิบหาเหล้าบนโต๊ะรินใส่จอกตนเองแล้วดื่มลงไปรวดเดียวจนหมด
แปลกประหลาด
นางจะประหม่าอะไรกัน !
ไม่ใช่ว่าแค่หล่อกว่านิดหน่อยเองไม่ใช่เหรอ?
ใจเย็น ๆ
ลู่ยุ๋นหลัวพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสงบสติอารมณ์ จนเมื่อจู่ ๆ ก็มีดาบยาวแวววาวพุ่งเข้ามาหาตรงพระพักตร์จี้อู๋เจวี๋ย
ตั้งแต่ต้นจนจบพ่อชุดดำซึ่งมีใบหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็งเอาแต่จ้องมองไปที่จี้อู๋เจวี๋ยตลอด "ข้าอยากประลองกับเจ้า"
เขาพบว่า
ตั้งแต่หลังจากมีผู้มาเยือนใหม่คนนี้เข้ามา
แม่นางก็ไม่แม้แต่จะเหลียวมองมาที่เขาอีกเลย
ผู้มาเยือนใหม่คนนี้
เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่เกินไป
จี้อู๋เจวี๋ยหัวเราะอย่างเย็นชา
จากนั้นพ่อชุดดำก็หันไปมองที่ลู่ยุ๋นหลัวซึ่งนั่งอยู่ด้านข้าง
เขาไม่รู้ว่าแม่นางคนนี้ มาที่หอชุนเฟิงได้เพียงไม่นานก็ทำให้กลุ่มชายทั้งหมดตกเป็นเฉลยของนางไปได้แล้ว
สนมคนโปรดของเขาผู้นี้นี้ มักจะดึงดูดความชอบของหนุ่ม ๆ ได้เสมอ
เพียงพลิกบิดข้อมือ ก็ปรากฏเงาวาดในอากาศในอากาศเป็นเส้นซ้อนทับกัน ดาบยาวที่อยู่ในมือของพ่อชุดฟ้าเมื่อครู่ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ในพระหัตถ์ของจี้อู๋เจวี๋ยได้ตั้งแต่เมื่อใด
จากนั้นภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของทุกคน ด้ามดาบยาวก็ถูกขยำจนเป็นเศษเหล็ก !
"เพล้ง"
เศษเหล็กถูกโยนลงไปกองที่เท้า
จี้อู๋เจวี๋ยทรงลุกขึ้น ร่างเงาที่หล่อเหลาของเขาเหยียดยาวไปตามแสงที่ส่องผ่าน ความเย็นยะเยือกปกคลุมทั่วทั้งตัวของเขา
ดวงพระเนตรที่ลึกล้ำราวกับสระน้ำอันหนาวเหน็บก็ทรงจับจ้องไปที่ลู่ยุ๋นหลัว "ออกมากับข้า !"
ลู่ยุ๋นหลัวลุกขึ้นอย่างเชื่อฟัง
พูดอะไรไร้สาระ ขืนนางไม่ตามออกไป เศษโลหะที่กองตรงนั้นอาจเป็นจุดจบของนางไปแล้ว
ความรู้สึกไม่สบายใจที่รุนแรงก่อนหน้านี้ก็ได้ผุดขึ้นมาในใจอีกครั้ง
พ่อชุดเขียวคนนี้เป็นใครกันแน่ ?
ทำไมช่างน่ากลัวขนาดนี้ ?
ช่างไม่เหมือนกับพ่อชุดเขียวในครามทรงจำที่นางจำได้เมื่อคราวก่อนเลยแม้แต่น้อย
ส่วนพ่อหนุ่มคนอื่น ๆ ในห้องก็ตกใจกับการกระทำของจี้อู๋เจวี๋ยเมื่อสักครู่
ศิลปะการต่อสู้เก่งกาจขนาดนี้ไม่มีทางที่จะมาเป็นโสเภณีชายในที่แห่งนี้ได้
ชายคนนั้นเกรงว่าตัวตนภูมิหลังของเขาจะต้องยิ่งใหญ่มากเป็นแน่
ลู่ยุ๋นหลัวเดินตามจี้อู๋เจวี๋ยอยู่ด้านหลังอย่างช้า ๆ
รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง
พ่อชุดเขียวคนนี้ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีเป็นแน่ ?
นางควรหลบหนีไปก่อนดีไหม ?
รอให้เขาอารมณ์ดีขึ้นก่อนค่อยมาถามถึงเรื่องตัวตนของนางดีกว่าไหม ?
ด้วยเหตุนี้ ลู่ยุ๋นหลัวพอเห็นจังหวะที่เหมาะสม ก็หันหลังกลับและพุ่งเข้าไปในฝูงชน
แต่ขณะที่นางวิ่งอยู่ นางพบว่านางยังคงวิ่งอยู่ที่เดิม
ไม่รู้ว่าตอนไหนที่คอเสื้อของตนเองถูกคนดึงรั้งเอาไว้
ลู่ยุ๋นหลัวถอนหายใจ ดูเหมือนว่าจะหนีไม่พ้นแล้ว
พอหันกลับมา ก็สบเข้ากับสายตาเย็นชาคู่นั้น
“สนมคนโปรด เจ้าต้องการจะไปไหน ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...