ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 185

“พวกเจ้าก็อยากกินด้วยเหรอ ?”

ลู่ยุ๋นหลัวมองไปในจานที่มีขนมเหลืออยู่เพียงชิ้นเดียวด้วยความลำบากใจ "แต่ข้ามีแค่ชิ้นเดียวแล้ว ทำไมไม่ไปเรียกให้คนเอามาให้พวกเจ้าคนละจานกันล่ะ"

“แม่นาง !” พ่อชุดชมพูซึ่งอยู่ห่างออกไปทางขวาไม่กี่เมตรกล่าวด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ

สิ่งที่พวกเขาหมายถึงคือการให้แม่นางป้อนถึงปากของพวกเขาเอง

แต่ดูจากสีหน้าของแม่นางแล้ว ก็ไม่รู้ว่าไม่เข้าใจจริง ๆ หรือว่าแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจกันแน่

ลู่ยุ๋นหลัวยิ้มอ่อน ๆ ให้กับพวกเขา "ดูการแสดงเถอะ"

พ่อหนุ่มน้อยพวกนี้ กล้าท้านางหลายต่อหลายครั้งแต่อย่างไรนางก็ไม่กล้าอยู่ดี

แต่ว่าพ่อชุดเขียวที่อยู่ข้าง ๆ นางก็แตกต่างจากพวกเขาอยู่แล้ว

ตรงไหนที่ไม่เหมือนคนอื่นงั้นเหรอ นางก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดีเช่นกัน

บางที อาจจะ ประมาณว่าเป็นเพราะเหตุผลที่นางนอนหลับกับพ่อชุดเขียวคนนี้ในคราวก่อนรึเปล่านะ ?

ลู่ยุ๋นหลัวนึกถึงฉากเหตุการณ์ที่ถูกเขาโยนในคราวก่อน

ภาพสุดท้ายที่ตรึงอยู่ในหัวของนางคือฉากเหตุการณ์หลังจากที่ได้ถอดเสื้อผ้าของเขาออก

จนเวลานี้เองนางอดก็ไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอทันที

นางใช้สายตาแอบชำเลืองมองจี้อู๋เจวี๋ยที่อยู่ข้าง ๆ

จนเผอิญไปสบเข้ากับสายพระเนตรอันเย็นเชียบของเขาที่ยากจะหยั่งลึกถึงก้นบึ้งคู่นั้น

หัวใจนางเต้นแรงโครมครามในทันที

นางรีบหลบสายตามองไปทางอื่นพร้อมกับหยิบหาเหล้าบนโต๊ะรินใส่จอกตนเองแล้วดื่มลงไปรวดเดียวจนหมด

แปลกประหลาด

นางจะประหม่าอะไรกัน !

ไม่ใช่ว่าแค่หล่อกว่านิดหน่อยเองไม่ใช่เหรอ?

ใจเย็น ๆ

ลู่ยุ๋นหลัวพยายามอย่างเต็มที่ที่จะสงบสติอารมณ์ จนเมื่อจู่ ๆ ก็มีดาบยาวแวววาวพุ่งเข้ามาหาตรงพระพักตร์จี้อู๋เจวี๋ย

ตั้งแต่ต้นจนจบพ่อชุดดำซึ่งมีใบหน้าเย็นชาราวกับน้ำแข็งเอาแต่จ้องมองไปที่จี้อู๋เจวี๋ยตลอด "ข้าอยากประลองกับเจ้า"

เขาพบว่า

ตั้งแต่หลังจากมีผู้มาเยือนใหม่คนนี้เข้ามา

แม่นางก็ไม่แม้แต่จะเหลียวมองมาที่เขาอีกเลย

ผู้มาเยือนใหม่คนนี้

เป็นภัยคุกคามที่ใหญ่เกินไป

จี้อู๋เจวี๋ยหัวเราะอย่างเย็นชา

จากนั้นพ่อชุดดำก็หันไปมองที่ลู่ยุ๋นหลัวซึ่งนั่งอยู่ด้านข้าง

เขาไม่รู้ว่าแม่นางคนนี้ มาที่หอชุนเฟิงได้เพียงไม่นานก็ทำให้กลุ่มชายทั้งหมดตกเป็นเฉลยของนางไปได้แล้ว

สนมคนโปรดของเขาผู้นี้นี้ มักจะดึงดูดความชอบของหนุ่ม ๆ ได้เสมอ

เพียงพลิกบิดข้อมือ ก็ปรากฏเงาวาดในอากาศในอากาศเป็นเส้นซ้อนทับกัน ดาบยาวที่อยู่ในมือของพ่อชุดฟ้าเมื่อครู่ก็ไม่รู้ว่าไปอยู่ในพระหัตถ์ของจี้อู๋เจวี๋ยได้ตั้งแต่เมื่อใด

จากนั้นภายใต้สายตาที่ตกตะลึงของทุกคน ด้ามดาบยาวก็ถูกขยำจนเป็นเศษเหล็ก !

"เพล้ง"

เศษเหล็กถูกโยนลงไปกองที่เท้า

จี้อู๋เจวี๋ยทรงลุกขึ้น ร่างเงาที่หล่อเหลาของเขาเหยียดยาวไปตามแสงที่ส่องผ่าน ความเย็นยะเยือกปกคลุมทั่วทั้งตัวของเขา

ดวงพระเนตรที่ลึกล้ำราวกับสระน้ำอันหนาวเหน็บก็ทรงจับจ้องไปที่ลู่ยุ๋นหลัว "ออกมากับข้า !"

ลู่ยุ๋นหลัวลุกขึ้นอย่างเชื่อฟัง

พูดอะไรไร้สาระ ขืนนางไม่ตามออกไป เศษโลหะที่กองตรงนั้นอาจเป็นจุดจบของนางไปแล้ว

ความรู้สึกไม่สบายใจที่รุนแรงก่อนหน้านี้ก็ได้ผุดขึ้นมาในใจอีกครั้ง

พ่อชุดเขียวคนนี้เป็นใครกันแน่ ?

ทำไมช่างน่ากลัวขนาดนี้ ?

ช่างไม่เหมือนกับพ่อชุดเขียวในครามทรงจำที่นางจำได้เมื่อคราวก่อนเลยแม้แต่น้อย

ส่วนพ่อหนุ่มคนอื่น ๆ ในห้องก็ตกใจกับการกระทำของจี้อู๋เจวี๋ยเมื่อสักครู่

ศิลปะการต่อสู้เก่งกาจขนาดนี้ไม่มีทางที่จะมาเป็นโสเภณีชายในที่แห่งนี้ได้

ชายคนนั้นเกรงว่าตัวตนภูมิหลังของเขาจะต้องยิ่งใหญ่มากเป็นแน่

ลู่ยุ๋นหลัวเดินตามจี้อู๋เจวี๋ยอยู่ด้านหลังอย่างช้า ๆ

รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง

พ่อชุดเขียวคนนี้ดูเหมือนจะอารมณ์ไม่ดีเป็นแน่ ?

นางควรหลบหนีไปก่อนดีไหม ?

รอให้เขาอารมณ์ดีขึ้นก่อนค่อยมาถามถึงเรื่องตัวตนของนางดีกว่าไหม ?

ด้วยเหตุนี้ ลู่ยุ๋นหลัวพอเห็นจังหวะที่เหมาะสม ก็หันหลังกลับและพุ่งเข้าไปในฝูงชน

แต่ขณะที่นางวิ่งอยู่ นางพบว่านางยังคงวิ่งอยู่ที่เดิม

ไม่รู้ว่าตอนไหนที่คอเสื้อของตนเองถูกคนดึงรั้งเอาไว้

ลู่ยุ๋นหลัวถอนหายใจ ดูเหมือนว่าจะหนีไม่พ้นแล้ว

พอหันกลับมา ก็สบเข้ากับสายตาเย็นชาคู่นั้น

“สนมคนโปรด เจ้าต้องการจะไปไหน ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น