เถ้าแก่เงยหน้าขึ้น ก็ได้เห็นแม่นางที่มีใบหน้างดงามที่ยากจะมีใครเทียบได้ที่กำลังจูงชายอีกคนหนึ่งที่หล่อเหลาไม่ต่างกันเดินเข้ามาในร้านของเขา
ทั้งสองมีบรรยากาศที่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอีกทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่งดงามน่าเชยชม เถ้าแก่เห็นเพียงแวบเดียวก็รู้สึกเวียนหัวตาลายกับความงามนั้น
เขารีบย่างก้าวสั้น ๆ เพื่อต้อนรับทั้งสองเข้ามา
พร้อมกับสีหน้าอัธยาศัยดีพาลู่ยุ๋นหลัวนำไปชั้นตู้เครื่องประดับของอิสตรี
ลู่ยุ๋นหลัวขมวดคิ้ว “ข้าอยากซื้อเครื่องประดับสำหรับผู้ชาย”
เถ้าแก่มองไปยังชายรูปงามคนนั้นที่กำลังถูกลู่ยุ๋นหลัวกุมมือไว้อยู่ด้วยสายตาที่เข้าใจถ่องแท้
พร้อมกับเอ่ยยิ้มออกมา “ซื้อให้สามีเจ้าล่ะซิ ?”
“ไม่ใช่ !” ลู่ยุ๋นหลัวยังไม่ทันคิดก็ปฏิเสธออกไปในทันที
เสียงคำพูดยังไม่ทันแว่วจางหาย นางก็ได้สัมผัสได้ถึงสายตาเตือนมาจากพ่อชุดเขียวที่อยู่ข้าง ๆ
นางรับรู้ได้ทันทีว่าสายอาชีพของพ่อหนุ่มชุดเขียวผู้นี้จะต้องอ่อนไหวกับสถานะของตนเองมาก
อีกอย่างนางก็พูดไม่ได้ว่า ว่าเป็นชู้รักที่นางเหมาเอาไว้ทั้งคืน ?
ในสมัยโบราณเช่นนี้คงจะเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างมากแน่
นางจึงรีบเปลี่ยนคำพูดพร้อมกับพยักหน้าและพูดตามน้ำไป “ใช่ ใช่ เจ้ารีบเอาประดับสำหรับชายออกมาให้ข้าดูหน่อยเถอะ”
เถ้าแก้มองทั้งสองคนอย่างสงสัย
รู้สึกราวกับว่าทั้งสองคนมีลับลมคมในอะไรสักอย่าง
แม่นางคนนี้เมื่อกี้ยังปฏิเสธอยู่เลย
พอต่อมาทำไมถึงเปลี่ยนคำพูดซะล่ะ
หรือว่าทั้งสองคนแอบเล่นชู้กันหรอกนะ ?
เถ้าแก่มองด้วยสายตาสงสัยไปยังคนทั้งสอง
ชายคนนั้นก็เอาแต่กุมมือของแม่นางคนนี้อยู่ตลอด ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ
จะต้องมีอะไรน่าสงสัยแน่
เถ้าแก่สงสายตาเป็นนัยให้กับเสี่ยวเอ้อ เสี่ยวเอ้อก็เข้าใจความหมายในทันที
พร้อมกับเข้าไปห้องด้านในเพื่อนำเครื่องประดับสำหรับชายสองกล่องออกมา
ภายในกล่องมีเข็มขัดจี้หยกของบุรุษ และยังมีปิ่นรวบผมของชายรวมถึงรัดเกล้า
ส่วนรูปแบบก็ยังมีหลากหลายชนิด
ลู่ยุ๋นหลัวแถบจะไม่ได้เลือกอะไร นางมองเพียงแวบเดียวก็ต้องตาให้กับมงกุฎหยกสีเขียวเข้ม
และยังมีปิ่นหยกสีเขียวที่เข้ากันอย่างดีอีก
ซึ่งเหมาะเข้ากับชุดเสื้อผ้าของพ่อหนุ่มชุดเขียวคนนี้อย่างมาก
อีกทั้งมงกุฎหยกไม่เพียงแต่ใหญ่และสะดุดตา สีเขียวของหยกนี้ยังเป็นสีเขียวที่ตรงตามมาตรฐาน ไม่มีสิ่งเจือปน ควรจะเป็นหยกชั้นดีมาก.....หรือเปล่า ?
ลู่ยุ๋นหลัวนำมาเทียบกับที่พระเศียรของจี้อู๋เจวี๋ย พบว่าเข้ากันได้อย่างพอดีมาก
นางจึงรีบเอ่ยไป “งั้นก็อันนี้แหละ เปิดราคามาเลย”
เถ้าแก่คนนั้นคอยแอบสังเกตุทั้งสองคนอยู่ตลอดขณะที่ลู่ยุ๋นหลัวกำลังเลือกเครื่องประดับอยู่
จนสุดท้ายก็ได้ข้อสรุปที่มั่นใจว่า
สองคนนี้จะต้องเป็นชู้กันแน่นอน
เมื่อสักครู่ที่เขาให้เสี่ยวเอ้อไปยังห้องด้านในเพื่อไปหยิบเครื่องประดับมานั้นล้วนเป็นของปลอมทั้งหมด
เขาคนนี้เป็นคนที่เกลียดพวกชิงสุกก่อนห่ามมากที่สุด
ตอนนี้ได้มาอยู่ในกำมือเขา เถ้าแก่จึงหลอกโกงพวกเขาอย่างโหดร้าย
ต่อให้หลังจากนี้พวกเขาพบว่านี่เป็นของปลอม แต่ก็คงไม่กล้าที่จะมาหาเรื่องถึงหน้าร้านเขา
เรื่องพวกนี้ถ้าถูกเปิดเผยออกมา ก็คงต้องถูกเอาไปขังกรงหมูถ่วงน้ำเป็นแน่ (ขังกรงหมูถ่วงน้ำ เป็นการลงโทษโดยเอาไปใส่ในกรงหมูแล้วโผล่พ้นน้ำเพียงน้อยนิดเพื่อลงโทษ)
ดูจากคำพูดคำจาของแม่นางคนนี้ดูเหมือนคงจะมีเงินอยู่มาก
ด้วยเหตุนี้เถ้าแก่จึงเอ่ยพูดผ่อนคลายแต่หนักแน่นราวกับราชสีห์ด้วยราคาที่สูงระฟ้า “2,000 ตำลึง ไม่ต่อราคา”
ลู่ยุ๋นหลัวสีหน้าปลื้มใจ “ถูกขนาดนี้เลยเหรอ ?”
2,000 ตำลึงก็คือตั๋วเงินที่ซุกไว้ในอกนางแค่สองใบเองมิใช่หรือ ?
ก็คือค่าที่พักแค่สองคืน
ไม่คิดมาก่อนว่าราคาของในสมัยโบราณจะสูงถึงระดับนี้ไปแล้ว
เถ้าแก่เมื่อได้ยินสิ่งที่ลู่ยุ๋นหลัวกล่าว ทันใดนั้นกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาก็กระตุกในทันที
2,000 ตำลึงนี่ยังถูกอีกเหรอ ?
ในใจของเขาก็รู้สึกเสียดายเป็นอย่างมาก
ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้พูดราคาไว้สูงกว่านี้สักหน่อยดีกว่า
แต่ว่าเขาก็ได้บอกเปิดราคาไปแล้ว ไม่มีทางแก้ไขได้อีก
หลังจากที่เขารับตั๋วเงินของลู่ยุ๋นหลัวมาแล้ว ก็แอบสบถด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “ฝากไว้ก่อนเถอะ”
เถ้าแก่นำมงกุฎหยกที่ลู่ยุ๋นหลัวเลือกมาส่งให้กับเสี่ยวเอ้อ เสี่ยวเอ้อก็รับมาบรรจุห่อใส่กล่องและส่งให้กับนาง
ลู่ยุ๋นหลัวรับกล่องนั้นมาอย่างสบายอกสบายใจพร้อมกับคล้องแขนของจี้อู๋เจวี๋ยเดินออกจากร้านไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...