ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 189

เขายื่นตั๋วเงินปึกนั้นกลับไป "แม่นาง การซื้อขายครั้งนี้ข้าไม่สามารถทำต่อไปได้แล้ว"

ขณะที่เขาพูดอยู่ก็ขอให้เสี่ยวเอ้อเอาของเหล่านี้ขนกลับเข้าไป

ลู่ยุ๋นหลัวไม่เป็นสุขทันที

นางรีบหยิบกล่องเครื่องประดับสองกล่องกอดไว้ในอ้อมอกของนาง "ไม่ได้ ยังไงข้าก็ต้องซื้อมันวันนี้"

เถ้าแก่ร้อนรนทันที "เจ้าทำไมถึงเป็นแม่นางแบบนี้ ? ข้าไม่ขายแล้ว เจ้ายังดื้อรั้นจะซื้อให้ได้อีกรึ ?"

"พ่อชุดเขียว ลุยเลย ! ใช้ทักษะฝ่ามือกรอกแกรกชั้นยอดของเจ้าเลย !" ลู่ยุ๋นหลัวไม่ได้สนใจอะไรมากนัก พร้อมกับส่งสายตาไปให้จี้อู๋เจวี๋ยที่อยู่ด้านหลังนาง

จี้อู๋เจวี๋ยก็ทรงให้ความร่วมมือพร้อมกับทรงก้าวไปข้างหน้าทันที สายพระเนตรของเขาทรงมองไปรอบ ๆ จนในที่สุดก็ทรงหยิบกล่องเหล็กบนโต๊ะคิดเงินขึ้นมา

เขาทรงขยำกล่องเหล็กนั้นจนเสียงดังกรอกแกรกจนกลายเป็นก้อนกลม

เขาทรงทำให้เถ้าแก่และเสี่ยวเอ้อประหลาดใจได้สำเร็จ

ลู่ยุ๋นหลัวแผดเสียงอย่างมีชัย "เป็นไงล่ะ ? จะขายไม่ขายให้ข้า ?"

เถ้าแก่สีหน้าสิ้นหวังขึ้นมา

ไอเรื่องแปลกมีทุกปี ปีนี้เยอะเป็นพิเศษจริง ๆ

เขาก็เคยเห็นคนโง่ที่ถูกหลอกเสียเงินมาบ้าง

แต่ก็ยังไม่เคยเห็นใครที่ดึงดันจะถูกหลอกเสียเงินอยู่อีก

ดูจากท่าทีตอนนี้แล้ว การค้าขายครั้งนี้ จะให้ทำก็ไม่ได้ จะไม่ทำก็ไม่ได้

ตั้งแต่ข้าขายมานมนานหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถูกลูกค้าบังคับให้ขูดรีดลูกค้า

ในที่สุดข้อตกลงก็เสร็จสิ้น

จี้อู๋เจวี๋ยทรงยกกล่องไม้สองกล่องพร้อมกับทรงเดินติดตามอยู่ข้างกายลู่ยุ๋นหลัว

ลู่ยุ๋นหลัวสองมือกอดอกพร้อมกับเดินออกไปอย่างสบายอารมณ์

ในที่สุดก็ซื้อหยกทั้งหมดมาได้

ส่วนตั๋วเงินที่นางตอนนี้น่ะเหรอ ก็ใช้ไปจนหมดเพื่อทำตามความหวังของนางหมดไปแล้วล่ะ

ความรู้สึกในการเสียเงินซื้อในครั้งนี้โคตรคุ้ม !

บนตัวนางเองเหลือเงินแค่ไม่กี่เหรียญทองแดง ลู่ยุ๋นหลัวจึงซื้อขนมปิงถางหูลู่(ปิงถางหูลู่ คือ ผลไม้เคลือบน้ำตาล)มาสองไม้ อีกไม้หนึ่งก็แบ่งให้จี้อู๋เจวี๋ย

จี้อู๋เจวี๋ยทรงจ้องมองที่ไม้ขนมปิงถางหูลู่สีแดงสด จนพระขนงขมวดเข้าหากัน

นี่มันไม่ใช่ขนมที่เด็กกินกันหรอกเหรอ ?

“เอาไปสิ ข้าเลี้ยงเจ้า”

ลู่ยุ๋นหลัวยังคิดว่าจี้อู๋เจวี๋ยเกรงใจ นางเลยยัดขนมปิงถางหูลู่ใส่มือเขาไป

ด้วยเหตุนี้ จักรพรรดิผู้สง่างามแห่งอาณาจักรตงหลานที่กำลังทรงถือขนมปิงถางหูลู่พร้อมกับทรงพระราชดำเนินอยู่ท่ามกลางฝูงชนอย่างเก้เก้กังกัง

ผู้คนรอบ ๆ จึงแอบมองอย่างไม่ขาดช่วง

จริงอยู่ว่าภาพลักษณ์ของจี้อู๋เจวี๋ยช่างดึงดูดสายตาของผู้คนมาก อีกทั้งในพระหัตถ์ก็ยังถือขนมปิงถางหูลู่ ไม่ว่าจะดูเช่นไรก็รู้สึกแปล ๆ

ลู่ยุ๋นหลัวเมื่อมองที่สีของผืนฟ้าแล้วเวลาก็ดึกมากแล้ว อีกอย่างพ่อหนุ่มชุดเขียวคนนี้ก็ไม่ได้หงุดหงิดอะไรอีกแล้วด้วย ทางที่ดีพาเขากลับไปหอชุนเฟิงโหลวนั่งคุยกันเพื่อสอบถามตัวตนของนางสักหน่อยจะดีกว่ารึไม่ ? 

นางจำได้ว่าเหมือนเมื่อสักครู่พ่อหนุ่มชุดเขียวคนนี้เรียกนางว่าแม่นมคนโหดอะไรสักอย่างเนี่ยแหละ ?

แม่นมที่โหดร้ายในยุคนี้คงจะไม่เยอะหรอกมั้ง ?

ลู่ยุ๋นหลัวเดินไปพลางคิดไปพลางว่าจะเริ่มพูดคุยเช่นไรดี

จนในตอนนี้นางก็ปวดหัวขึ้นมาในทันใด

ความเจ็บปวดอันท่วมท้นเกิดขึ้นโดยไม่มีแม้การเตือนล่วงหน้า ขนมปิงถางหูลุ่ในมือก็หล่นลงพื้นดัง "ตุบ" กลิ้งอยู่ข้างตัวนาง ภาพตรงหน้าของลู่ยุ่นหลัวดำมืดขึ้นจนนางล้มลงไป

ณ จวนกั๋วกงติ้ง

ท่านผู้อาวุโสเดินกระวนกระวายไปมาอยู่ในห้องโถงด้านหน้า

ข้ารับใช้ที่ส่งออกไปตามหาตอนนี้ไม่มีแม้ใครสักคนกลับมาบอกข่าว

เขากระวนกระวายจะตายอยู่แล้ว

ส่วนซูโม่หลานกลับนั่งอยู่ที่ด้านข้างอย่างไม่ร้อนอกร้อนใจ พร้อมกับรินชาที่เพิ่งชงสดใหม่ให้กับตัวเองด้วยสีหน้าอันหล่อเหลาและสงบนิ่ง

"ข้าอยากจะพูดจริง ๆ ว่าทำไมเจ้าถึงดูไม่รีบร้อนนัก นั่นคือหลานสาวของเจ้าเลยเชียวนะ !"

ท่านผู้อาวุโสเอามือไพล่หลังเดินไปมา ทันใดนั้นก็พบว่าลูกชายของเขายังคงดื่มชาอย่างสบายอารมณ์ด้านข้าง ก็เลยโกรธขึ้นมาในทันใด

ซูโม่หลานยิ้มเล็กน้อย "ท่านพ่อ ก็ไม่ใช่ว่าท่านไม่รู้จักหลานหลัวสาวน้อยคนนี้ซะที่ นางมีความคิดของตัวเองอย่างมาก"

เช้าวันนี้ ตอนที่นางรักษาขาให้กับเขานั้น เขาพบว่านางดูเหมือนจะรีบร้อนออกไปข้างนอก เขาได้ยินจากข้ารับใช้มาว่านางเองก็เตรียมของไม่น้อยที่จะออกไปข้างนอก

แม้จะไม่มีใครเห็นนางเตรียมของอะไรออกไปนอกจวน แต่ของพวกนั้นเองก็ล้วนไม่มีใครเห็น

ถ้าจะบอกว่าสาวน้อยคนนี้ไม่ได้ทำอะไรลับหลังเขา เขาก็คงไม่เชื่อ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น