“เสด็จแม่ บุตรคนแรกของข้าจะต้องเป็นบุตรที่ราชสมภพจากฮองเฮาเท่านั้น ข้าหวังว่าเสด็จแม่จะมิทรงบังคับข้าอีก !” จี้อู๋เจวี๋ยเอ่ยทูลด้วยแววตาอันเย็นชา
"บังอาจนัก !" พระพันปีพิโรธจนเขวี้ยงถ้วยชาลงจนเศษถ้วยแตกกระจัดกระจายไปทั่ว น้ำชาหกเลอะเถอะทั่วพื้น
นางข้าหลวงภายในตำหนักตกใจจนก้มคุกเข่าหมอบลงที่พื้นทันที
“เจ้าอยากไร้ลูกหลานในวันข้างหน้างั้นรึ เช่นนั้นเจ้าพร้อมที่จะเพิกเฉยต่อตำหนักในแห่งนี้รึ ?เลือดองค์จักรพรรดิในตัวเจ้าจะต้องสืบทอดต่อไป !”
"ภายในค่ำนี้หากเจ้ายังเพิกเฉยต่อพวกนาง หลังจากนี้ก็อย่ามาเรียกข้าว่าเสด็จแม่อีก !" พระพันปีหลวงกล่าวอย่างหนักแน่น ทุกคำที่กล่าวมานั้นแฝงไปด้วยการให้จำยอม
กระบังลมของจี้อู๋เจวี๋ยยังคงกระเพื่อมหายใจอย่างต่อเนื่อง เหมือนกลับพยายามอดกลั้น “ข้ามิบังอาจ !”
"ในเมื่อเจ้ามิบังอาจต่อข้า นางกุ้ยเหรินสองนางนั้นเจ้าต้องเลือกมาหนึ่งคนภายในวันนี้" สีหน้าของพระพันปีหลวงเริ่มผ่อนคลายลง อีกทั้งพระพันปีหลวงก็ทรงรับน้ำชาที่นางข้าหลวงมาถวายให้ใหม่อีกครั้ง
"ข้าจะไป !" จี้อู๋เจวี๋ยดูเหมือนกำลังจะถูกบีบบังคับจากพระพันปีหลวง เขาสะบัดแขนเสื้อและเดินจากไป
พระพันปีหลวงทรงจิบชาร้อน นางทอดสายตาไปยังนางข้าหลวงที่กำลังก้มศรีษะอยู่ที่มุมมืด "เจ้าไปได้แล้ว"
"พะยะค่ะ พระพันปีหลวง"
หลังจากจี้อู๋เจวี๋ยกลับมาจากวังหนิงซิน ขันถีเฉาจงฉวนที่ตามติดพระวรกายอยู่ตลอดซึ่งรออยู่ด้านนอกมาโดยตลอด
"องค์จักพรรดิ เจ้าเสี่ยวลี่จึหลบหนีไปได้ตามที่พระองค์คาดไว้ บ่าวได้ส่งคนติดตามไปอย่างลับ ๆ แล้วพะยะค่ะ"
"อืม" จี้อู๋เจวี๋ยพยักหน้า ข้ารู้อยู่แล้วว่านางจะไม่มีทางที่นิ่งนอนใจยอมจับอยู่ในตำหนักซู่ซินได้ แต่ว่านางหนีไปได้ก็ดี เพราะเขาคืนนี้ก็มีบางสิ่งที่จะต้องทำ
"ทางหลันกุ้ยเหรินทางนั้นเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้วรึ ?"
"องค์จักรรพรรดิ ทุกอย่างทางนั้นเตรียมพร้อมอย่างดีเยี่ยมพะยะค่ะ ขนาดเรือนหอและผ้าเครื่องบรรทมก็เตรียมพร้อมไว้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกันพะยะค่ะ รับรองว่าไร้ข้อตำหนิแน่นอนพะยะค่ะ" หน้าของขันทีเฉาจงฉวนเต็มไปด้วยความเคารพ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยคำถามนานา เหยากุ้ยเหรินจะดีชั่วเช่นไรก็เป็นพระราชธิดาของอาณาจักรหลิว แม้ว่าบุคลิกของนางจะหยิ่งยโสและจ้าวบงการไปบ้าง แต่รูปลักษณ์ของนางกลับถือว่างามที่หนึ่งในบรรดาที่หนึ่งของที่หนึ่งทั้งหมดสะอีก ซึ่งองค์จักรพรรดิคืนนี้เหมือนต้องการเสด็จไปประทับวังหลิวหยุน แต่องค์จักรพรรดิกลับดูเหมือนไม่เต็มใจ เขาก็ยังคงไม่เข้าใจองค์จักรพรรดิว่ากำลังคิดอะไรอยู่
จี้อู๋เจวี๋ยพยักหน้าหนึ่งครั้ง มุมปากกระตุกยิ้มอย่างมีนัยยะ "เคลื่อนขบวนเสด็จไปที่วังหลิวหยุนได้"
ตอนนี้หลันกุ้ยเหรินได้รับโอกาสแรกนี้ไปแล้ว แล้วถ้าโอกาสครั้งนี้ทำให้นางตั้งครรภ์ของทายาทมังกร(ทายาทมังกร หมายถึง ทายาทขององค์จักรพรรดิ)ขึ้นมา...
นั่นจะไม่เป็นผลดีต่อเหยากุ้ยเหริน
"บิดาของข้าซึ่งเป็นแม่ทัพอันดับหนึ่ง กำลังทหารในมือถึง 500,000 นาย ถ้าองค์จักรพรรดิจะรู้สึกพะว้าพะวังก็มิใช่เรื่องแปลก" เหยากุ้ยเหรินเอ่ยขณะพัดโบกพัดในมือเบา ๆ
"นายหญิงจะบอกว่า องค์จักรพรรดิรู้สึกกังวลต่อแม่ทัพไป๋ ?" แม่นมเฉินสีหน้าฉงน ซึ่งในความเป็นจริงนี้ไม่ว่าจะองค์จักรพรรดิองค์ไหนก็ต้องมีความหวาดระแวงต่อแม่ทัพที่มีนายทหารในบริวารถึง 500,000 อยู่แล้ว “แล้วเรื่องนี้มันผลดีอย่างไร เนื่องด้วยเหตุผลนี้อยู่ดีดีองค์จักรพรรดิจึงจงใจทอดทิ้งนายหญิงขึ้นมาและไม่มาดูมาแลนายหญิงเลยงั้นรึ นั่นไม่ใช่หมายความว่านายหญิงไร้ซึ่งวันข้างหน้าแล้วรึ ?”
"เรื่องนั้นหาต้องกังวลไม่ องค์จักรพรรดิไม่มากก็น้อยก็ต้องทรงเห็นแก่พ่อของข้า ยังไงก็ต้องทรงไว้ข้าให้มีหน้ามีตาบ้างอยู่แล้ว"
"นายหญิง ทำไมท่านถึงไม่กังวลเลยรึ ถ้าอยู่ดีดีช่วงนี้หลันกุ้ยเหรินตั้งครรภ์ขึ้นมามันจะเป็นเรื่องดีไปได้เยี่ยงไร ?"
เหยากุ้ยเหรินลุกขึ้น รอยยิ้มเย็นชาเริ่มปรากฏ "นางคนนี้ถ้าคิดจะตั้งครรภ์หละก็ มันไม่ใช่เรื่องง่ายขนาดนั้นหรอกจริงมั๊ย แม่นมเฉิน ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...