เมื่อดูจากธุรกิจขนาดใหญ่ของพวกเขา ยังไงก็สามารถเอาทุนคืนมาได้
หลังจากคิดเรื่องนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า สนมเหยาก็ให้ไฉ่เหอนำตั๋วเงินจำนวน 100,000 ตำลึงมา
ลู่ยุ๋นหลัวหลังตรวจสอบรายละเอียดว่าไม่มีอะไรผิดพลาดแล้วก็เก็บไปในทันที จากนั้นก็เหลือบสายตาอันอ่อนโยนและนุ่มนวลพร้อมกับยิ้ม "งั้นต่อไป เราก็มาพูดถึงราคาของยาแก้พิษกันต่อ"
สนมเหยาหายใจเข้าจนลึกเพื่อระงับความโกรธในใจของนาง
นางตอนแรกคิดว่าหลังจากนางจ่ายเงินมากขนาดนี้เพื่อซื้อสูตรชานมและน้ำแข็งไปแล้ว นางลู่ยุ๋นหลัวจะเอายาแก้พิษให้กับนาง ไม่คาดคิดมาก่อนว่ายาแก้พิษนางจะต้องเสียเงินซื้ออีก ?
เมื่อนึกถึงจุดนี้ สายตาอันอ่อนโยนก็ถลึงมองใบหน้าที่ยิ้มเยาะอยู่ต่อหน้านาง
“เจ้าว่าราคามาเถอะ”
ลู่ยุ๋นหลัวยิ้มอย่างสดใส "หยินซวาง เจ้าคิดว่าชีวิตของนางสนมเหยาท่านนี้ควรมีค่าสักเท่าไหร่ดี ?"
หยินซวางที่ยืนอยู่ข้างหลังลู่ยุ๋นหลัวมาโดยตลอดก็ให้ความร่วมมือคิดพิจารณาคำถามนั้นอยู่ครู่และตอบกลับอย่างจริงจัง "นายหญิงสนมเหยาออกจะสูงส่งถึงเพียงนั้น ชีวิตของนางแน่นอนว่าต้องประเมินค่ามิได้"
ลู่ยุ๋นหลัวยิ้มเยอะมองไปที่ใบหน้าตรงข้ามที่ถูกจุดแดงขึ้นจนหน้าพังไปไม่น้อยพร้อมกับเอ่ยกล่าว "เสด็จน้องเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม ? ว่าชีวิตของเจ้านั้นประเมินค่ามิได้ เสด็จพี่เองก็มิกล้าเสนอราคาสุ่มสี่สุ่มห้า ตั้งสูงไปก็หาว่าข้าขูดรีด ตั้งต่ำไปก็เกรงว่าคนอื่นจะหาว่าชีวิตเจ้าไม่คุ้มค่า เห้อ เจ้าบอกข้าทีว่าข้าควรทำเช่นไร ?"
ลู่ยุ๋นหลัวเบือนหน้าซ้ายทีขวาทีอย่างลำบากใจมองไปสนมเหยาที่ขณะนี้เพลิงโทสะยิ่งสะสมปะทุขึ้นเรื่อย ๆ
ลำบากใจอะไร ?
เห็นได้ชัดว่าลู่ยุ๋นหลัวต้องการขูดรีดไถเงินจากนางมากกว่าเดิม
หากวันนี้นางไม่ได้ตกอยู่ในเงื้อมมือของลู่ยุ๋นหลัว มีหรือนางจะปล่อยให้ตัวเองขายหน้าต่อหน้าลู่ยุ๋นหลัวแบบนี้ ?
สนมเหยาขบเขี้ยวเคี้ยวฟันและถลึงมองลู่ยุ๋นหลัวที่อยู่ตรงข้าม
"แบบนี้ละกันเสด็จน้อง เจ้าบอกราคาตัวเจ้ามาก่อนสิ ถ้าราคาไม่ถูกใจข้า เราก็ค่อยมาเจรจากันใหม่ดีไหม ?" จุดสำคัญของลู่ยุ๋นหลัวคือนางประเมินเงินในมือสนมเหยาที่มีเหลืออยู่อย่างแม่นยำไม่ได้
ถ้าเปิดราคาน้อยไป ไม่ใช่ว่านางขาดทุนเงินก้อนใหญ่หรอกเหรอ ?
“มากสุด 70,000 ตำลึงมากกว่านี้ข้าก็จ่ายไม่ไหวแล้ว” สนมเหยาพูดอย่างเย็นชา
เงินพวกนี้ เป็นเงินที่ตระกูลของนาส่งมาให้นางก่อนที่จะเข้ามาในวังเพื่อมาจัดการเรื่องความสัมพันธ์และเพื่อเป็นเงินวางแผนสำหรับตำแหน่งฮองเฮา
ใครจะรู้ ยังไม่ทันที่นางจะขับไล่ลู่ยุ๋นหลัวออกจากตำหนักเย็น เงินพวกนี้ก็ถูกใช้อย่างไร้ประโยชน์แถบไม่เหลือแล้ว
ลู่ยุ๋นหลัวคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็คิดว่าไม่ควรจะบีบคั้นนางอีก นางจึงพยักหน้าอย่างสบายอารมณ์ "งั้นตกลง"
เงินก้อนใหญ่เข้าบัญชีอีกครั้ง
ลู่ยุ๋นหลัวตั้งแต่ต้นจนจบ นางรับเงินมาแล้วทั้งหมดสามครั้ง เมื่อรวมเข้าด้วยกันก็รวมเป็นเงินถึง 170,000 ตำลึง
ส่วนเงินรายได้อันเล็กน้อยน่าสงสารของร้านขายของชำนั้นไม่ต้องเอามาคิดรวมก็ได้
แน่นอนว่าการขูดรีดเงินให้ได้มาก็ต้องไวกว่าเล็กน้อยเป็นธรรมดา
"เสด็จพี่ ตอนนี้ยาถอนพิษเอาให้กับข้าได้แล้วหรือยังเพคะ ?" สนมเหยามองไปที่ตั๋วเงินในมือปึกหนาของลู่ยุ๋นหลัว แค่เห็นก็รู้สึกเจ็บปวดร้าวในใจ
นั่นเป็นเงินที่ตระกูลของนางให้นางมาเพื่อใช้สำหรับขึ้นตำแหน่งฮองเฮาและยังเป็นที่รวบรวมมาเพื่อมอบแก่นางโดยเฉพาะ
ตั๋วเงินเหล่านี้เดิมทีก็ควรที่จะเอาไว้ต่อกรกับลู่ยุ๋นหลัวถึงจะถูก
แต่เพราะความสะเพร่าชั่วขณะของนาง จนนางต้องมอบเงินทั้งหมดให้กับลู่ยุ๋นหลัว ช่องว่างดังกล่าวนี้ ทำให้สนมเหยารู้สึกรำคาญอย่างมาก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ในท้ายที่สุดนางก็ได้แต่ระงับเพลิงโทสะนั้นไว้ในใจ และได้แต่มองใบหน้าที่งามล้นจนนางอิจฉาด้วยสายตาจงเกลียดจงชัง
ลู่ยุ๋นหลัวต้องการเงิน นางเองก็ให้ไปทั้งหมดโดยไม่ขาดแม้แต่เหวินเดียว
ยาแก้พิษนี้ ไม่ว่านางจะพูดเช่นไรก็ควรมอบออกมาให้นางไม่ใช่เหรอ ?
ลู่ยุ๋นหลัวสบมองไปที่ดวงตาของสนมเหยาพร้อมกับหยิบถ้วยชาขึ้นมาอย่าไม่รู้ร้อนรู้หนาว หลังจากจิบลิ้มรส ก็พูดเอ่ยขึ้นมา "เรื่องยาแก้พิษยังไม่ต้องรีบร้อน เรามาพูดถึงเรื่องเงินที่บริจาคแก่กระทรวงครัวเรือนกันต่อดีกว่า ข้าคิดดูแล้ว เมื่อสักครู่ที่เสด็จน้องกล่าว ข้าก็รู้สึกว่าสมเหตุสมผล พวกเราเป็นถึงสนม จะมากจะน้อยก็ต้องช่วยเหลือสักหน่อย ข้าเองก็ไม่ทราบว่าเสด็จน้องเตรียมเงินไว้เผื่อแผ่ต่อพสกนิกรไว้เท่าไหร่กัน ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...