ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 209

ใบหน้าของสนมเหยายิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อย ๆ ความหมายของคำพูดของลู่ยุ๋นหลัวเห็นได้ชัดว่ากำลังบอกนางว่าถ้านางต้องการยาแก้พิษ นางก็ต้องจ่ายเงินอีกก้อนหนึ่ง !

“เสด็จพี่ วันนี้เงินทั้งหมดที่ตัวข้าก็ให้เจ้าไปทั้งหมดแล้ว เจ้ายังจะให้ข้าเอาเงินอะไรไปบริจาคให้กระทรวงครัวเรือนอีกหรือ ?”

“ไม่มีเงินแล้วหรอ ? ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจได้ งั้นคงไม่เป็นไร ถ้าข้าเอาเงินที่เจ้าซื้อยาถอนพิษเมื่อสักครู่ช่วยเจ้านำไปบริจาคก็ได้แล้ว เราทั้งสองเป็นถึงสนม ยังไงก็ต้องช่วยเหลือสักหน่อย ส่วนเรื่องยาแก้พิษ ไว้ข้ารอเสด็จน้องมีเงินเมื่อไหร่ค่อยเอามาให้เสด็จพี่ก็ได้ เจ้าคิดว่าเป็นเช่นไร ?” หลู่หยุนหลัวพูดอย่างสมเหตุสมผล นางไม่ใช้คนที่ไม่รู้จักพลิกแพลง เมื่อไม่มีเงิน เราทั้งสองก็คงต้องยืดหยุ่นให้กันสักเล็กน้อย

รอจนกว่านางจะมีเงินค่อยมาหาลู่ยุ๋นหลัวเพื่อซื้อยาถอนพิษมันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ

และยังไม่กระทบต่อเงินบริจาคอีก

ดูสิดีแค่ไหน

สนมเหยาถูกคำพูดนั้นของลู่ยุ๋นหลัวทำให้โกรธจนเลือดจะจุกอกตายจนอีกนิดเดียวนางก็แทบจะขาดใจตายล่ะ

เงิน 70,000 ตำลึงนั่น นางใช้ไปเพื่อซื้อยาแก้พิษ ไม่ใช่เอาไปบริจาคให้เสียเงินโง่ ๆ แบบนั้น !

นางสนมเหยาคงขาดเงินที่จะซื้อยาแก้พิษอยู่สินะ ?

แต่กลายเป็นนางเปลี่ยนไปเป็นขาดเงินบริจาคซะเอง !

แต่ยาแก้พิษนั่นยังอยู่ในมือของลู่ยุ๋นหลัว การที่นางจะได้มันมาก็คงได้แต่ต้องฟังลู่ยุ๋นหลัวเท่านั้น

นางสนมเหยาหายใจเข้าจนลึก หลังจากเวลาผ่านไปอยู่นานแสนนานถึงจะสงบลงได้

จนในที่สุดก็คงต้องประนีประนอม

นางหยิบตั๋วเงินออกมาอีก 43,500 ตำลึง

อย่างงั้นแหละ

นี่สิถึงจะเป็นเงินทรัพย์สินที่มีทั้งหมดของนาง

"ตอนนี้เจ้าควรจะหยิบยาแก้พิษออกมาได้แล้วใช่ไหม ?" ความรู้สึกของสนมเหยาตอนนี้ราวกับใกล้จะสิ้นใจแล้ว นางถลึงตามองไปที่ลู่ยุ๋นหลัวอย่างอาฆาต

ขอเพียงนางกล้าเอ่ยจะเอาเงินอะไรอีกแม้แต่ประโยคเดียว นางจะไม่ลังเลพุ่งเข้าหาอย่างแน่นอน

อย่างมากก็แค่ชิบหายไปด้วยกัน

นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่นางมีความคิดบ้าบิ่นเช่นนี้

ลู่ยุ๋นหลัวรู้สึกว่านางล้วงทรัพย์จากสนมเหยามามากพอแล้ว นางจึงรีบลุกขึ้นและเผยยิ้มเล็กน้อย "ข้าลืมบอกเสด็จน้องไปอย่าง เจ้าก็แค่แพ้อาหารจากยางของพวกไม้ยืนต้นเลยมีอาการแพ้ก็เท่านั้น"

“ไม่จำเป็นต้องใช้ยาแก้พิษใด ๆ หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วยาม อาการก็จะหายไปเอง หากจุดแดงยังไม่หายไป ข้าก็ยินดีที่เจ้าจะไปหาข้าที่ห้องข้าง ๆ”

ลู่ยุ๋นหลัวหยิบพัดออกมาจากอกของนาง พร้อมกับเขย่าพัดเบา ๆ และเดินจากไปอย่างสง่างาม "หยินซวางพวกเราไปกันเถอะ !"

“ไม่ต้องใช้ยาแก้พิษงั้นเหรอ ?”

ร่างของสนมเหยาสั่นไหวเล็กน้อย

นางรับไม่ได้ นางใช้เงินไปตั้งมากขนาดนี้จนเกือบหมดเลยด้วยซ้ำ แต่สุดท้าย กลับบอกนางแค่ว่าจุดแดงจะจางหายไปเองโดยไม่ต้องใช้ยาแก้พิษ ?

ความโกรธและโลหิตที่กดเอาไว้เมื่อสักครู่ก็ผุดออกมาอีกครั้ง จนมีอาการหวานที่ลำคอ พริบตานางก็กระอักออกมาเป็นเลือดสดและสลบไปในทันที

ในวินาทีสุดท้ายที่นางล้มลงกับพื้นก็ไม่ได้ลืมที่จะบอกข้ารับใช้ของนางว่า "ไม่ต้องไปเรียกแพทย์หลวง"

หากแพทย์หลวงรู้เรื่องนี้เข้า ฝ่าบาทก็จะต้องทรงรู้อย่างแน่นอน

ตอนนี้นางมีจุดแดงทั่วใบหน้า

รูปลักษณ์ที่น่าเกลียดเช่นนี้จะต้องไม่ให้ฝ่าบาทรงเห็นเป็นอันขาด

ลู่ยุ๋นหลัวหอบตั๋วเงินในอ้อมอกปึกหนากว่า 200,000 กว่าตำลึงกลับไปที่ห้องนอนของนางเองอย่างสบายอารมณ์

ในใจของหยินซวางก็มีความสุขมากเช่นกัน

เห็นสนมเหยาขัดหูขัดตาตั้งนานแล้ว

ดีใจที่เห็นนางถูกนางหญิงจัดการนางจนอกจะแตกตายเช่นนี้ ช่างมีความสุขเสียจริง

ลู่ยุ๋นหลัวหยิบตั๋วเงินทั้งหมดในอ้อมอกของนางออกมา มอบเงิน 113,500 ตำลึงส่วนหนึ่งให้กับหยินซวาง "เงินส่วนนี้ ตอนนี้เจ้ารีบเอาไปส่งให้ที่กระทรวงครัวเรือนที บอกว่าพวกเราเป็นคนบริจาค"

เป็นคนก็ต้องปฏิบัติต่อผู้อื่นเหมือนกับปฏิบัติต่อตนเองสิ

สนมเหยาเอาเงินของนางไปบริเจค ถึงอย่างไรนางก็ควรต้องปฏิบัติตาม

ใช้เงินคนอื่นในการทำความดีและสร้างชื่อเสียงให้ตัวเองอีก

ที่แท้ความรู้สึกนี้มันช่างดีจริง ๆ

ไม่ได้รู้สึกแย่เลย !

ส่วนที่เหลืออีก 100,000 ตำลึง เป็นเงินที่นางขายสูตรอาหาร นางเก็บไว้ก็เป็นความสงบสุขในจิตใจของนาง

"เอาล่ะ เจ้ารีบไปตอนนี้เถอะ" เมื่อเห็นนางสนมเหยาโดนนายหญิงจนการจนไม่มีชิ้นดี หยินซวางก็ความสุขมากและรีบออกไปพร้อมกับตั๋วเงิน

ข่าวที่ว่านายหญิงแห่งตำหนักเย็นบริจาคเงินเกือบ 120,000 ตำลึงให้กับมณฑลซ่างหยวนก็แพร่กระจายไปทั่วพระราชวังอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น