เมื่อจี้อู๋เจวี๋ยเสด็จมาถึง เขาก็ไม่ได้ทรงสั่งให้ข้ารับใช้ประกาศรับเสด็จ
เดิมทีเขาต้องการเสด็จไปที่ห้องของลู่ยุ๋นหลัวโดยตรง แต่เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นภาพเหตุการณ์นี้ในตำหนัก
แม่นางทั้งสองสวมชุดกระโปรงสีขาว ใบหน้าทาไว้ที่อะไรบางอย่างสีเขียวชุ่มทั้งหน้า ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง ก็สะท้อนให้เห็นแสงสีเขียวอันแปลกประหลาดออกมา
ภาพเหตุการณ์นี้ช่างน่ากลัวยิ่งนัก
เฉาจงเฉวียนที่ตามเสด็จมาพร้อมกับจี้อู๋เจวี๋ย เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์ตรงหน้าก็ยังรู้สึกหวาดกลัวจนขาอ่อนจนอีกนิดเดียวก็แทบจะล้มไปกองกับพื้น
ตำหนักเย็นนี้คงไม่มีเรื่องหลอกหลอนอยู่หรอกนะ ?
ต่อมาก็รีบพิงไปยังทิศที่จี้อู๋เจวี๋ยอยู่ด้านหลัง
จี้อู๋เจวี๋ยขมวดพระขนง นี่เขายืนอยู่ใกล้ลู่ยุ๋นหลัวด้านหลังขนาดนี้
หลังจากที่ลู่ยุ๋นหลัวได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวข้างหลังนาง นางก็รีบหันกลับไปมอง
ที่ปรากฏต่อสายตานางคือพระพักตร์ที่ขมวดพระขนงของจี้อู๋เจวี๋ย
ลู่ยุ๋นหลัวตกใจสะดุ้ง "ฝ่าบาท ท่านมาทำไมไม่ตรัสแจ้งสักคำ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียงข้าตกใจหมด"
เฉาจงฉวนจำได้ว่าเป็นเสียงของลู่ยุ๋นหลัวพร้อมมองดูใบหน้าที่น่ากลัวยิ่งกว่าผีด้วยความประหลาดใจ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกน้อยใจแทนองค์จักรพรรดิ นายหญิง สภาพท่านเช่นนี้ ใครกันแน่ที่ควรจะตกใจใคร ?
ยังดีที่ฝ่าบาทไม่ค่อยกลัวอะไร
มิฉะนั้นป่านนี้ผ่าบาทคงตกใจจนประชวรเป็นไข้หัวโกร๋นไปแล้ว
สายพระเนตรของจี้อู๋เจวี๋ยเหลือบมองไปที่หลันกุ้ยเหรินที่อยู่ข้าง ๆ นางอย่างไม่เป็นมิตร มือของผู้หญิงคนนี้วางอยู่รอบเอวเรียวบางของลู่ยุ๋นหลัว
ทรงทอดพระเนตรมองนางอย่างเขม็ง "นางเป็นใคร ?"
“ฝ่าบาท ข้าเอง” หลันกุ้ยเหรินพูดอย่างอดไม่ได้
ไม่ว่านางจะพูดเช่นไร นางก็ยังเป็นสนมของเขา การจำไม่ได้เช่นนี้จริง ๆ มันดีแล้วหรือ ?
นางคาดเดาไว้แล้วว่าในสายพระเนตรของฝ่าบาทก็มีแต่สเด็จพี่หลัวอยู่คนเดียว แต่ไม่ควรทำให้มันชัดเจนเกินงามขนาดนี้ไหม ?
"เอามือเจ้าออกไป" สายพระเนตรของจี้อู๋เจวี๋ยไม่เป็นมิตรอย่างมาก
น้ำเสียงที่เข้มงวดนั้นทำให้หลันกุ้ยเหรินถอนมือออกอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับบ่นพึมพำกับตัวเองในใจ
ฝ่าบาททำไมต้องดุถึงขนาดนั้น ?
นางก็แค่เอามือไปวางที่เอวของเสด็จพี่หลัวเองไม่ใช่เหรอ ?
ไม่ใช่ว่าผู้หญิงด้วยกันแค่คนเดียวก็ยังจะอิจฉาหรอกนะ ?
หลันกุ้ยเหรินดูเหมือนจะต้องการพิสูจน์อะไรบางอย่าง นางเลยวางมือบนหน้าอกที่ปูดโปนของลู่ยุ๋นหลัวอย่างกล้าหาญ
ในชั่วพริบตานางก็ได้รับสายพระเนตรที่ดูน่ากลัวกว่าเมื่อก่อนมาก ยังไม่ทันที่จะรอให้จี้อู๋เจวี๋ยทรงพิโรธ นางก็รีบหดมือกลับเองด้วยความตกใจ
น่ากลัวยิ่งนัก !
หลันกุ้ยเหรินรู้สึกว่าถ้านางถอนมือช้ากว่านี้อีกหน่อย ฝ่าบาทคงจะตัดมือนางทิ้งไปแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...