ปรนนิบัติ ?
ลู่ยุ๋นหลัวพริบตาก็ตาสว่างตื่นขึ้นทันที
ชายที่อยู่ต่อหน้าคนนี้ไม่ใช่ชายที่หล่อธรรมดา แต่เป็นจี้อู๋เจวี๋ยองค์จักรพรรดิแห่งอาณาจักรตงหลาน !
พอนอนกับเขาแล้วไม่พอพระทัยขึ้นมาก็จะมาเอาเงินกับนางประเภทนั้น !
พอนางนึกถึงคราวก่อนก็เกือบโดนเขาหลอกแล้ว
ถ้าคืนเดียวมีค่าถึงทองพันชั่ง ต่อให้เอาตัวนางไปขายก็เอาเงินมาคืนไม่ไหว
นางสีหน้าลำบากใจพร้อมกับคลำไปที่ตั๋วเงินที่ได้มาจากสนมเหยา เงินก้อนนี้นางเอาไว้เป็นทุนสำหรับตั้งตัวเมื่อออกจากวังไปแล้ว
พอมองไปที่พระพักตร์ที่หล่อเหลาอันเศร้าหมองนางก็พูดอย่างระมัดระวัง "ฝ่าบาท เงินของหม่อมฉันอาจไม่พอกระมังคะ"
นางจำได้ว่านางเคยพูดไว้ ว่าต่อให้ทองหมื่นชั่งก็คงเทียบได้แค่พระเกศาของจี้อู๋เจวี๋ยเส้นเดียวเท่านั้น
เห็นได้ชัดว่าเงินน้อยนิดก้อนนี้ของนางขนาดพระเกศาเส้นหนึ่งของจี้อู๋เจวี๋ยก็ยังไม่คู่ควร
จี้อู๋เจวี๋ยทรงตกตะลึงเล็กน้อย
เมื่อคิดถึงเขาแต่ก่อนที่เคยตรัสไว้ว่าการเหมาตัวเขาทั้งคืนใช้เงินถึง 3,000 ตำลึงและยังบอกอีกว่าใช้ร่างกายในการใช้หนี้
นางคนนี้คงไม่คิดว่านางปรนนิบัติครั้งหนึ่งจะต้องให้นางชำระเงินครั้งหนึ่งหรอกนะ ?
ไม่น่าแปลกใจที่นางไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เขาอยู่ตลอด
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ พระพักตร์ที่เศร้าหมองของเขาก็ค่อย ๆ ดีขึ้น
เขาทรงโอบรัดไปที่เอวของลู่ยุ๋นหลัวพร้อมกับทรงเดินใบที่เตียงผืนใหญ่
หลังจากวางนางลงบนเตียงโดยร่างกายก็ถูกเขากดเอาไว้
พระเนตรของเขาที่ลึกล้ำราวกับแอ่งน้ำเย็นเยียบอันไร้ก้นบึ้งกลับมองนางด้วยสายพระเนตรอันร้อนแรง
"ไม่ต้องใช้เงินหรอก !"
จี้อู๋เจวี๋ยก้มพระเศียรของและต้องการประกบริมฝีปากสีแดงที่อ่อนนุ่มตรงเบื้องพระพักตร์ของเขา
พระพักตร์ที่หล่อเหลาอันน่าหลงใหลค่อย ๆ เข้าใกล้นางไปทีละนิด ๆ
"เดี๋ยว...เดี๋ยวก่อน..."
แม้ว่าการขัดจังหวะในเวลานี้จะทำให้เสียอารมณ์เป็นอย่างมาก
แต่ลู่ยุ๋นหลัวไม่มีทางเลือก
นางก็ไม่รู้ว่าอะไรอยู่ใต้เอวของนางจนมันแยงมาที่เอวของนางจนเจ็บไปหมด
โดยไม่สนใจพระพักตร์ที่เศร้าหมองของจี้อู๋เจวี๋ย นางรีบเอื้อมมือไปด้านหลังเอวและดึงสิ่งที่อยู่ใต้ร่างกายของนางออกมาในที่สุด
นางหยิบสิ่งนั้นเผยต่อเบื้องพระพักตร์ของจี้อู๋เจวี๋ยอย่างมีความสุขมาก "ดูสิเพคะ ของสิ่งนี้มันแยงอยู่ที่เอวของหม่อมฉันอยู่เพคะ"
ความหมายของคำพูดนี้คือนางไม่ได้ตั้งใจที่จะขัดจังหวะ
เจ้าอย่ามาโทษข้า
ขณะที่พูดอยู่นั้น ลู่ยุ๋นหลัวก็ชำเลืองมองสิ่งของที่อยู่ในมือของนาง
เพียงเหลือบเห็น ทันใดนั้นนางก็แทบจะกระอักเลือดออกมา
สิ่งที่นางถืออยู่ในมือ คือตำราเล่มเก่านั้นที่นางเคยวาดไว้ !
ความคิดอยากจะตายของลู่ยุ๋นหลัวก็มีขึ้นมาในใจแล้วเช่นกัน
นางไม่คิดก็รู้ได้ทันที ว่าต้องเป็นแม่นมโจวพอเห็นฝ่าบาทเสด็จมาก็คงแอบเอาตำราเล่มนี้มาวางไว้บนเตียงของนาง !
จี้อู๋เจวี๋ยหยิบหนังสือจากมือของลู่ยุ๋นหลัวด้วยพระพักตร์อารมณ์ที่ใจเย็น
อีกทั้งยังตั้งใจเปิดดูตำราหน้าที่ลู่ยุ๋นหลัวเปิดไว้
ลู่ยุ๋นหลัวหน้าแดงก่ำ
ฝ่าบาท !
ได้โปรดท่านอย่าดูอีกเลย !
จะไม่ไว้หน้านางเลยเหรอ ?
น่าเสียดาย แน่นอนว่าจี้อู๋เจวี๋ยไม่มีทางที่จะไว้หน้านาง
หลังจากดูแล้วก็ยังตรัสชมเชยเป็นพิเศษอีก "วาดได้ไม่เลว"
ลู่ยุ๋นหลัวตอนนนี้ไม่มีหน้าที่จะไปพบผู้คนแล้ว
ตำรานั้นถูกโยนไปด้านข้าง จี้อู๋เจวี๋ยโน้มตัวลงอีกครั้งพร้อมกับสายพระเนตรอันร้อนแรงที่จับจ้องนาง "สนมคนโปรดจะลองดูสักหน่อยไหม ?"
ลู่ยุ๋นหลัวรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
ลองบ้าอะไร !
ตำราเล่มนั้นนางวาดเพื่อไปขายทำงาน ไม่ได้ให้เอามาใช้กับตัวของนางเอง
จี้อู๋เจวี๋ยก้มพระเศียรลงและค่อย ๆ เขยิบพระพักตร์เข้าใกล้ริมฝีปากสีแดง
หัวใจของนางเต้นแรงอย่างบ้าคลั่ง
มันจบแล้ว !
ทำไมขาของนางถึงอ่อนนุ่ม ?
ภายในใจมีสองเสียงที่ดุเดือดเถียงกันอยู่
เสียงหนึ่งได้เอ่ยบอก หลับตาและเสพสุขไปเถอะ เป็นถึงชายรูปหล่อแห่งพรหมลิขิต !
อีกเสียงหนึ่งได้เอ่ยบอกขึ้นมา ผลักเขาออกไป ! แม้ว่าเขาจะไม่ได้ต้องการเงิน แต่เขาก็เป็นผักกาดขาวต้นหนึ่งที่ถูกคนอื่นรุมแทะ !
แต่ว่าก็หล่อมากจริง ๆ!
ทำอย่างไรดี ?
ลู่ยุ๋นหลัวต่อสู้อย่างหนักภายในใจของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...