ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 22

เมื่อพูดถึงเหล้า นางก็นึกขึ้นได้ว่าวันนี้ขันทีเฉิงน่าจะนำเหล้าดอกบัวส่งไปที่วังหลิวหยุนเรียบร้อยแล้ว

พรุ่งนี้ให้หยินซวางไปที่นั่นนำตำลึงกลับมา แค่นี้พวกนางก็มีตำลึงมากพอที่จะเป็นค่าใต้โต๊ะในการออกตำหนักได้แล้ว

นางหลุดเข้ามาที่โลกแห่งนี้ระยะเวลาก็ล่วงเลยมาถึงครึ่งปีแล้ว ถึงแม้จะเหมือนราวกับถูกขังในตำหนักเย็นที่ลึกและเงียบ แต่ไม่ว่าจะดีจะเลวอย่างไรที่แห่งนี้ก็แถบจะไม่ต้องไปยุ่งข้องแวะเกี่ยวกับใครและไม่มีอันตรายใดเข้ามา วิถีชีวิตทุกวันก็แค่ปลูกผักปลูกหญ้าไปเรื่อยซึ่งนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายเลย

เพียงแต่ว่าชีวิตที่เหลืออยู่ของนางนั้นไม่อยากถูกขังไว้ในที่แห่งนี้

ชีวิตของนางนอกจากการทำเงินแล้ว การคบหากับชายหนุ่มหล่อคือสิ่งเดียวที่ทำให้ชีวิตนางนั้นสมบูรณ์

เมื่อคิดถึงชายหนุ่มรูปงาม ก็ปรากฏภาพติดตาตรงหน้านาง ใบหน้าที่เกรงขามของจี้อู๋เจวี๋ย ทันใดนั้นหัวใจนางก็หยุดเต้นไปชั่วขณะ

หายากยิ่งที่จะได้พบกับชายหนุ่มรูปงามในวังแห่งนี้ แล้วยังจะเป็นจักรพรรดิอีก !

ราวกับได้แค่มองเนื้อสดใหม่คุณภาพดีตรงหน้าแต่กลับไม่ได้ทาน นั่นทำให้ลู่ยุ๋นหลัวเสียใจเป็นอย่างยิ่ง

ไม่ได้ ! รอข้าออกไปจากวังแห่งนี้ได้ก่อน ข้าจะต้องหาเนื้อสดใหม่เหล่านี้ได้

"หยินซวาง เจ้ารู้มั๊ยว่าภายนอกวังที่ไหนมีชายหนุ่มรูปงามเยอะเป็นพิเศษ ?"

นางเพียงยกมือ เหล้าที่เหลืออยู่ในกาก็ถูกดื่มจนหมด

นางก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะนางตาฝาดไปหรือไม่ นางรู้สึกได้ว่าเหล้าองุ่นทำไมออกฤทธิ์ได้มากขนาดนี้

“หนุ่มรูปงาม...” หยินซวางน้ำเสียงสั่นเครือ นายหญิงรู้ตัวรึไม่ว่ากำลังพูดอะไรออกมา ?

"หยินซวาง ? เจ้าเป็นอะไรไป ?" ลู่ยุ๋นหลัวเงยหน้ากวาดสายตามองไปที่หน้าตำหนัก

"ไม่ ไม่มีอะไรเพค่ะ" หยินซวางตอบกลับมาด้วยเสียงสั่นเครือ

ลู่ยุ๋นหลัวก็ยังคงไม่รู้ตัว ด้วยเหตุที่เวลากว่าครึ่งปีในตำหนักเย็นแห่งนี้มักจะมีแต่พวกนนางสองคนเสมอ "หยินซวาง เจ้ามาบีบนวดไหล่ให้ข้าหน่อย !"

นางรู้สึกปวดเมื่อยไหล่ทั้งสองข้างของนาง

ด้านหลังมีเสียงฝีเท้าที่ค่อย ๆ ดังขึ้นใกล้เข้ามา

จี้อู๋เจวี๋ยตั้งแต่เข้ามาภายในตำหนักก็เห็นนางเอนกายบนเปลที่แขวนอยู่ระหว่างต้นไม้สองต้นไกวไปมาอย่างสบายใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น