ผู้คนต่างหันกลับมา
แต่เนื่องจากคนจำนวนมาก มีเพียงคนในแถวท้ายสุดเท่านั้นที่จะเห็นสถานการณ์ที่อยู่ด้านหลัง
ที่ปลายทางของถนน ร่างผอมบางของหญิงสาวกำลังเดินย่างกรายในยามเย็นหลังฝนตก
นางเดินทีละก้าวมาที่นี่ราวกับว่าร่างของนางได้เหนื่อยล้าแล้วไปทั้งตัว
ไม่มีแม้แต่คนประกาศเสด็จด้านหน้าและไม่มีใครคอยคุ้มกันตามหลัง
ไม่ได้สวมเสื้อผ้าหรูหราสีสันละลานตา
ไม่มีทั้งทรงผมที่จัดทรงอย่างประณีตหรือใบหน้าที่ประทินโฉมอย่างดงาม
เสื้อผ้าของนางกลับดูธรรมดาและเต็มไปด้วยคราบเลือดและรอยเปื้อนที่สะดุดตา
มวยผมบนศีรษะของนางที่รวบไว้อย่างเรียบง่ายก็ถูกคลายปลิวสยายออกมา ผมเสียที่ปล่อยปลิวกลับพัดโบกยุ่งเหยิงตามแรงลมที่พัดผ่าน
นางมีใบหน้าที่ผู้คนเห็นเพียงหางตาก็สามารถทำให้ผู้คนต่างต้องหันกลับมายลโฉมความงามนั้นอีกครั้ง
สีหน้าของนางที่มุ่งมั่น
และหว่างคิ้วที่แฝงด้วยความเหนื่อยล้าเล็กน้อยอยู่บ้าง
ขณะที่แม่นางคนนั้นเข้าใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ
ผู้คนที่มีสีหน้าตกใจเมื่อเห็นรูปลักษณ์ของนางก็ยิ่งมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
นี่ไม่ใช่แม่หญิงคนนั้นที่วันนี้ช่วยรักษาพวกเขาอยู่ตลอดหรอกเหรอ ?
เนื่องจากรูปลักษณ์ที่โดดเด่นของนางผนวกกับความเร็วในการรักษาที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ได้ทำให้ผู้คนต่างมีความประทับใจอันลึกซึ้งกับนาง
นางคือนายหญิงฮองเฮางั้นเหรอ ?
สายตาของผู้คนเต็มไปด้วยความตกใจ
พวกเขาคิดว่านายหญิงฮองเฮาจะต้องเป็นอิสตรีผู้สูงส่งอยู่เหนือปวงชนและทอดพระเนตรมองมายังเหล่าพสกนิกรจากเบื้องบนและอยู่แบ่งแยกจากผู้คนราวกับสวรรค์กั้น
ซึ่งจะต้องไม่ใช่แม่นางที่อยู่ต่อหน้าพวกเขาท่านนี้ที่ยอมลดตัวของนางลงมาเพื่อช่วยเหลือพสกนิกรพร้อมกับยุ่งทั้งวันโดยไม่ได้พักผ่อนในสภาพแวดล้อมที่เหม็นคาวคลุ้ง
แท้จริงแล้วหลังจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ นายหญิงฮองเฮาก็อยู่ข้างกายท่ามกลางพวกเขามาโดยตลอด
ผู้คนนับหมื่นก็เงียบสงบลงในบัดดล
ลู่ยุ๋นหลัวได้เดินมาถึงขั้นบันไดด้านบนที่ทุกคนสามารถเห็นนางได้อย่างชัดเจน
สายตาก็ทอดมองกวาดไปยังฝูงชนที่รวมกลุ่มกันมืดทมิฬอยู่เบื้องล่าง
“ข้าได้รับคำบัญชามาจากฝ่าบาท ให้มายังอำเภอไท่หลิงเพื่อแก้ไขเรื่องโรคระบาด”
“ข้าขอสัญญากับพวกเจ้าไว้ตรงนี้ ว่าตราบใดที่โรคระบาดในอำเภอไท่หลิงยังไม่หมดไป ข้าจะไม่จากที่นี่ไปแม้แต่วันเดียว ! ข้าจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับพวกเจ้า !”
ร่างบอบบางของหญิงสาวยืนอย่างทรงภาคภูมิ
เสียงที่หนักแน่นชัดเจนอันกึกก้อง
ในค่ำคืนอันเงียบสงัดเช่นนี้ราวกับเสียงของลมที่พัดผ่านไปยังหูของพวกเขา
เมื่อมองไปที่ร่างของหญิงสาวที่ทั้งตัวถูกย้อมไปด้วยเลือดบนชั้นด้านบน ผู้คนก็ค่อย ๆ สงบลงมาได้
หากราชสำนักต้องการที่จะเผาพวกเขาให้ตายจริง ๆ พวกเขาจะส่งนายหญิงฮองเฮามาที่นี่ทำไม ?
แม้ว่าจะมีคนอยากพูดค้านในเวลานี้ แต่ก็ไม่มีทางที่จะพูดขึ้นมาได้
สำหรับนายหญิงฮองเฮาผู้สละพระวรกายและอุทิศตนเพื่อช่วยชีวิตและรักษาผู้บาดเจ็บ กลับมีความหมายที่ต่างออกไปในใจของผู้คน
ในฝูงชนมีเสียงตะโกนก้องดังขึ้นไม่รู้ว่ามาจากใคร "นายหญิงฮองเฮา ทรงพระเจริญ พันปี พันปี พันพันปี !"
ทันใดนั้นผู้คนต่างก็ตะโกนก้อง "นายหญิงฮองเฮา ทรงพระเจริญ พันปี พันปี พันพันปี !"
ฝูงชนดำทมิฬเบื้องล่างคุกเข่าลงกันอย่างพร้อมเพรียง
ไม่ว่าอย่างไร
การคุกเข่าครั้งนี้เป็นการคุกเข่าที่มาจากใจของคนส่วนใหญ่
"ลุกขึ้นเถอะ !"
เสียงของลู่ยุ๋นหลัวแน่วแน่มั่นคง สีหน้าของนางสงบนิ่งและน้อมรับการคุกเข่าในครั้งนี้ของพวกเขา
“ทุกคนวางใจ โรคฝีดาษนี้ ข้าได้มีวิธีจัดการโรคฝีดาษนี้แล้ว อีกไม่นาน พวกเจ้าจะไม่เพียงกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้เท่านั้น แต่ยังทำให้พวกเจ้าไม่ต้องกลัวโรคฝีดาษนี้อีกต่อไปด้วย ! ข้าจะทำให้โรคฝีดาษนี้หมดสิ้นไปจากอาณาจักรตงหลาน !" ลู่ยุ๋นหลัวกล่าวอย่างเคร่งขรึมและทรงภาคภูมิ
นี่คือคำมั่นสัญญาของนางที่มีต่อพสกนิกรในอำเภอไท่หลิง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...