เขาชำเลืองมองนางชั่วครู่ สิ่งที่นางขอก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอะไร เขาก็เซ็นต์ลงบนกลางดาษอย่างรวดเร็ว "จำไว้ กระดาษแผ่นนี้มีพระปรมาภิไธยของข้า ห้ามทำมันสูญหายเด็ดขาด"
"ได้ ๆ ได้เลยเพค่ะ บ่าวเข้าใจแล้ว !" ไม่ต้องเอื้อนกล่าวใดอีกนางก็รีบเก็บรักษาไว้อย่างเป็นอย่างดี นี่เทียบเท่ากับเงินสามพันตำลึงและก็เป็นความหวังสิ่งเดียวที่นางจะได้ออกจากวังแห่งนี้
เมื่อนางเก็บพระราชสาส์นนั้นเรียบร้อย นางก็หยิบกระดาษมาหนึ่งม้วนพร้อมกับเขียนลงไปและพับเป็นสี่เหลี่ยม "องค์จักรพรรดิ ภายในเป็นขั้นตอนแรกของการวิธีการป้องกันภัยแล้ง บ่าวขอให้องค์จักรพรรดิโปรดทรงเปิดทอดพระเนตรภายในอีกสองวันข้างหน้า"
ขั้นแรก ?
นั่นเท่ากับพรุ่งนี้ถึงจะได้ดู
เขาขมวดคิ้ว สงสัยว่านางกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
"องค์จักรพรรดิ ท่านอ๋องรุ่ยและท่านอ๋องเฉินมาเสด็จเข้าเฝ้าพะยะค่ะ" เฉาจงฉวนกราบทูลรายงาน
ท่านอ๋องเฉิน ?
จู่ ๆ จี้อู๋เจวี๋ยเลิกคิ้วชำเลืองมองลู่ยุ๋นหลัว "เข้ามาได้ !"
แววตาที่มองลู่ยุ๋นหลัวกลับทำให้นางหวาดกลัวและอธิบายไม่ถูก
นางทำผิดเรื่องอะไร !
ทำไมถึงมองนางด้วยแววตาเช่นนั้น ?
"ในเมื่อไม่มีเรื่องอะไรแล้ว บ่าวกราบบังคมทูลขอลา !" ลู่ยุ๋นหลัวเข้าใจกาลเทศะดีอีกทั้งนางยังมีธุระอื่นไปทำต่อ จะเป็นการดีที่นางรีบปลีกตัวจากไป
"หยุดก่อน !"
น้ำเสียงอันยืดยาวจากทางด้านหลังก็พูดดังขึ้น "ข้าสั่งให้เจ้าไปได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?"
"กลับมาอยู่กับข้าก่อน" เป็นคำสั่งที่ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธได้
ลู่ยุ๋นหลัวทำได้เพียงแค่หันหลังกลับไปและอยู่เคียงข้างองค์จักรพรรดิต่อ
เพียงไม่นาน ประตูบานนั้นก็มีชายสองคนสวมชุดภูมิฐานหรูหราเดินเข้ามา
หนึ่งในสองคนนั้น ลักษณะอายุราวสิบหกสิบเจ็ดปีหน้าตาหล่อเหลาอ่อนโยน เขาผู้นี้น่าจะลำดับศักดิ์เล็กสุดท่านอ๋องน้อยรุ่ย ซึ่งสีหน้าเขาตอนนี้กลับไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
เขาเป็นถึงนายของขุนนางเหล่านั้น แต่กลับไม่มีวิธีการจัดการกับพวกพ่อค้าธัญพืชที่คดโกงพวกนั้น
ธัญพืชทั้งเมืองกลับอยู่ในกำมือคนพวกนั้น
จะฆ่าก็ไม่ได้ จะจับก็ไม่ได้
ไม่ให้พวกเขาขาย ผู้คนก็ต้องอดตาย
ให้พวกเขาขาย ผู้คนไม่ช้าก็เร็วก็ต้องอดตาย
เมื่อลู่ยุ๋นหลัวได้ยินก็ถึงกับใจหาย ข้าวสารหนึ่งถังต้องใช้ถึงสิบตำลึง รู้มั๊ยว่าสิบตำลึงในยุคราชวงศ์นี้นั้นเทียบเท่ากับห้าหกร้อยหยวนในยุคปัจจุบัน ไอพวกพ่อค้าธัญพืชพวกนี้ทำเงินจากประเทศที่ยากไร้ (ทำเงินจากประเทศที่ยากไร้ หมายถึง การทำธุรกิจบนความลำบากหรือความเป็นความตายของผู้คน)
"เสด็จพี่รอง พี่ช่วยเร่งคิดหาวิธีช่วยข้าหน่อยได้มั๊ย ข้าเกรงว่าอีกไม่กี่วันมณฑลซ่างหยวนจะต้องเกิดการโกลาหลเป็นแน่"
นี่เป็นสิ่งที่เขาหวังที่สุดที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น
มณฑลซ่างหยวนถือว่าเป็นชายแดนติดกับอาณาจักรเป่ยชาง หากมณฑลซ่างหยวนเกิดการก่อความวุ่นวายขึ้น ผลลัพธ์ที่ตามมานั้นก็คงยากที่จะคาดเดา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...