ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 39

แม้ประสบการณ์ด้านนี้ของนางจะเป็นศูนย์

แต่นางก็อดนึกถึงหนังผู้ใหญ่ขึ้นชื่อของประเทศที่เป็นเกาะในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้

ซึ่งพื้นฐานความรู้ของนางก็พอจะมีอยู่บ้าง

นางมัวแต่นึกถึงการจะนำตำลึงกลับมาให้ได้หลังจากตื่นนอนช่วงกลางวัน รีบร้อนจนกระทั่งลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปซะสนิท

ตอนนี้นางค่อย ๆ นึกกลับไปและก็เกือบจะมั่นในได้เลยว่านางและจี้อู๋เจวี๋ยไม่ได้เกิดความสัมพันธ์อะไรกันขึ้นเมื่อคืนวาน

ไอเจ้าจี้อู๋เจวี๋ยชาติชั่ว !

ไม่อธิบายอะไรยังพอเข้าใจได้ แต่ไม่คืนเงินนางมา นางยอมไม่ได้ !

ช่างเจ้าเล่ห์ ต่ำช้าไร้ยางอายซะจริง 

น้อยครั้งนักที่หยินซวางจะเห็นลู่ยุ๋นหลัวมีท่าทีโกรธแค้น ซึ่งล่าสุดก็ตอนที่นายหญิงของนางออกมาปกป้องตัวของหยินซวางไว้

ดูเหมือนว่านายหญิงของนางก็คงห่วงใยองค์จักรพรรดิอยู่ไม่น้อย

ซึ่งเมื่อคืนองค์จักรพรรดิบรรทมที่ตำหนักเย็น พอมาวันนี้องค์จักรพรรดิบรรทมที่วังอื่น

นายหญิงจะรู้สึกอึดอัดใจบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา

นางก็เชื่อมั่นในตัวของนายหญิงของนาง ด้วยรูปลักษณ์งดงามที่หายากใครเทียบขอเพียงแค่นายหญิงของนางต้องการตำแหน่งภายในตำหนัก ก็คงจะใช้เวลาไม่ยาวนานนัก

ในฐานะนางข้าหลวงส่วนตัวของนายหญิง นับตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปนางจะจับตาสืบหาข้อมูลของนางกุ้ยเหรินสองนางนั้นให้ได้

“นี่ หยินซวาง เรื่องระหว่างข้ากับท่านอ๋องเฉินมันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ?” ลู่ยุ๋นหลัวอยู่ดีดีก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้ หากไม่จัดการเรื่องนี้ให้รู้ที่มาที่ไป นางก็คงจะไม่สบายใจไปอีกนาน

นางรู้สึกมาโดยตลอดว่าเจ้าของร่างเดิมกับท่านอ๋องเฉินจะต้องมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นมาก่อน

ความตื่นตระหนกพลันปรากฏฉายขึ้นในแววตาของหยินซวาง นางก้มศีรษะต่ำเล็กน้อยพลางเอ่ย “นายหญิงน่าจะหิวแล้วใช่มั๊ยเพคะ ? เดี๋ยวบ่าวผู้นี้จะจัดเตรียมมาให้เพคะ”

นางไม่ปล่อยให้ลู่ยุ๋นหลัวเอ่ยตอบใด ๆ นางก็พลันหมุนตัวรีบใจไปในทันควัน

“กลับมานี่ !” ลู่ยุ๋นหลัวขมวดคิ้วเรียกหยินซวาง “เจ้ารีบบอกข้ามาว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกันแน่ ?”

“ทำไมเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างข้ากับท่านอ๋องเฉินทั้งหมดถึงจำไม่ได้เลย ?”

ถ้าสิ่งที่นางสงสัยแต่ก่อนทั้งหมดมีเพียงแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวแล้ว ปฏิกิริยาที่หยินซวางแสดงออกมาก็บ่งบอกได้ชัดเจนแล้ว

ว่าระหว่างนางกับท่านอ๋องเฉินจะต้องมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นมาก่อนแน่นอน

ใครจะรู้ว่าอยู่ดีดีหยินซวางก็พลันเขาทรุดลงกับพื้นพร้อมกับน้ำตาที่เอ่อล้นออกมา “นายหญิง ได้โปรดอย่าคาดคั้นถามอะไรบ่าวอีกเลยเพคะ นายท่านให้ข้าสาบานเอาไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ตามห้ามข้ากล่าวถึงสิ่งที่นายหญิงลืมไปแล้ว ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเรียกหาความตายมาให้แก่นายหญิงเพคะ”

มีเพียงเรื่องนี้เท่านั้นที่ต่อให้นางตายไปก็ไม่ยอมที่จะให้นายหญิงของนางเป็นอันตรายใดใดเป็นอันขาด

วิถีชีวิตที่เรียบง่ายกว่าค่อนปีที่ตำหนักเย็นที่ผ่านมาเกือบจะทำให้นางลืมเหตุการณ์นั้นไปแล้ว

จนกระทั่งนายหญิงของนางพูดถึงการจัดอันดับหนุ่มงามเรื่องนั้นขึ้นมา สิ่งที่นางเกือบจะลืมไปหมดสิ้นก็กลับสลักลึกลงไปในใจของนางอีกครั้ง

ลู่ยุ๋นหลัวไม่คิดมาก่อนเลยว่าหยินซวางจะอ่อนไหวกับเรื่องนี้จนแสดงออกมาอย่างที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน

นางเข้าใจหยินซวางนางข้าหลวงคนนี้ดี

หากนางไม่สามารถพูดได้จริง นางก็คงเปล่าประโยชน์ที่จะดึงดันต่อไป

ระหว่างนางกับท่านอ๋องเฉินมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?

ความทรงจำของนางเริ่มขาดช่วงและไม่สมบูรณ์ไปได้อย่างไร

แล้วทำไมหยินซวางถึงไม่กล้าที่จะบอกนาง

รวมไปถึงจดหมายฉบับนั้นที่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมถึงต้องให้นางไปที่อาณาจักรซีฉิง

ดุเหมือนรอบตัวนางนับวันก็ยิ่งจะมีแต่ปมปริศนามากขึ้นในทุกวัน

“ลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่ถามอะไรเจ้าอีกแล้วหละ”

ในเมื่อหยินซวางไม่อยากพูด  นางก็ไม่ควรฝืนถามอะไรต่อไปอีก

ถ้าอยากรู้ความจริงก็อยู่ที่ตัวนางเองแล้วว่าจะนึกถึงเรื่องราวเหล่านั้นขึ้นมาได้หรือไม่

ณ ค่ำคืนภายในตำหนักซู่ซิน

จี้อู๋เจวี๋ยกำลังเดินหมากกับท่านอ๋องน้อยรุ่ย

“เสด็จพี่สอง ขันทีผู้น้อยคนนั้นที่อยู่ข้างกายเสด็จพี่ไปไหนแล้วหละ ?” ท่านอ๋องน้อยรุ่ยกวาดสายตาไปรอบด้านก็รู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อไม่พบขันทีผู้น้อยคนนั้นที่พบเห็นตอนกลางวัน 

หลังจากที่ท่านอ๋องน้อยรุ่ยเสด็จออกมาจากวังก็ทรงรีบจัดการธุระของมณฑลซ่างหยวนจนกระทั่งพลบค่ำถึงเสด็จกลับเข้ามาในวัง

ในขณะที่เสด็จกลับเข้ามาในวังก็ครุ่นคิดอยู่ตลอดทาง เพียงแค่เขานำขันทีผู้น้อยคนนั้นออกจากข้างพระวรกายของเสด็จพี่สองได้ ขันทีผู้น้อยคนนั้นก็หมดโอกาสที่จะเอาใจเสด็จพี่สองต่อไปได้อีก

เพียงแค่ขันทีผู้น้อยนั้นอยูในกำมือเข้าได้เมื่อไหร่ แล้วมาคอยดูกันว่าเขาจะทรมานขันทีผู้น้อยนั้นยังไง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น