พอนางกลับมาถึงตำหนักเย็นก็ได้กลิ่นหมั่นโถวลอยมาไกล ๆ
หยินซวางนางข้าหลวงคนนี้ช่างมีพรสวรรค์ในด้านการทำอาหาร
นางเพิ่งสอนวิธีการนึ่งหมั่นโถวไปเพียงแค่สองสามครั้งนางก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง
“นายหญิง ท่านกลับมาแล้ว นายหญิงรีบดูหมั่นโถวที่บ่าวเพิ่งทำเสร็จให้หน่อยว่าดีกว่าคราวก่อนมั๊ยเพคะ”
“นายหญิง ท่านกลับมาแล้ว นายหญิงรีบดูหมั่นโถวที่บ่าวเพิ่งทำเสร็จให้หน่อยว่าดีกว่าคราวก่อนมั๊ยเพคะ”
บนเตาในห้องครัวซึ่งมีหม้อนึ่งวางอยู่พร้อมกลับหมั่นโถวลูกใหญ่ที่อุ่นร้อนเห็นไอออกมา ทันใดนั้นลู่ยุ๋นหลัวก็นึกถึงขันทีเฉิงที่ห้องปรุงพระกระยาอาหารขึ้นมา
“หยินซวาง ข้าถามอะไรเจ้าอย่าง หมั่นโถวพวกนี้ ก่อนที่ข้าจะสอนเจ้าทำ เจ้าได้เคยกินหรือเคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนรึไม่ ?”
“ไม่เคยได้ยินมาก่อนพะยะค่ะ ไม่ใช่ว่าเป็นอาหารสำหรับคนในวังหรือเพคะ ?” เครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหยินซวาง นางก็ไม่ทราบเช่นเดียวกันทำไมนายหญิงถึงถามนางเช่นนี้
“แล้วบะหมี่หละ ? ตอนอยู่ข้างนอกวังเจ้าเคยกินมั๊ย ?”
หยินซวางก็ยังคงส่ายหัวปฏิเสธ
“แล้วข้าวสาลีที่เราปลูกแถวตำหนักเย็นหละ ภายนอกวังเจ้าเคยเห็นมาก่อนมั๊ย ?” ตอนที่นางทะลุมิติเข้ามาครั้งแรกนั้น กลัวว่าจะต้องอดอยากหิวตายซะก่อน นางจึงปลูกข้าวสาลีบริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของตำหนักเย็นไปเยอะพอสมควรและหวังเพียงอย่างเดียวว่ามันจะโตไวพอทีจะมีไว้กินในภายภาคหน้า
ภายหลังถึงได้รู้ว่าธัญพืชที่ปลูกในมิติพิเศษนั้นโตได้เร็วกว่าหลายเท่าตัว จึงเลือกที่จะบริโภคธัญพืชที่ปลูกจากในมิติพิเศษแทน
เมื่อถึงฤดูร้อนที่ไร้ซึ่งฝนใด พวกนางก็ได้แต่อาศัยการขุดชลประทานเพื่อใช้รดน้ำธัญพืชเหล่านั้น
ดูจากเวลาแล้วก็น่าจะใกล้ถึงเวลาเก็บเกี่ยวแล้ว
หยินซวางก็ยังคงส่ายหัวปฏิเสธขึ้นอีกครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...