แม้ว่านายหญิงจะถูกส่งให้ไปพำนักที่ตำหนักเย็น แต่ก็ไม่ได้ถูกปลดจากตําแหน่ง พูดกันตามหลักเหตุผลแล้วนอกจากสถานที่พำนักที่เป็นตำหนักเย็นแล้ว อาหารการกินและเครื่องนุ่งห่มอื่น ๆ นั้นจะอ้างอิงถึงขั้นตอนพิธีการแบบฮองเฮาทั้งหมด
ยิ่งไปกว่านั้นการที่ถูกให้พำนักตำหนักเย็นแล้วแต่ยังสามารถกลับมาปรนนิบัติองค์จักรพรรดิได้อีกครั้ง นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะบอกถึงทัศนคติขององค์จักพรรดิที่มีต่อนาง
เกรงว่านายหญิงท่านนี้คงอาจไม่ต้องพำนักตำหนักเย็นนานนัก
ดูจากความพอพระทัยขององค์จักรพรรดิแล้วก็คงเดาไม่ผิดนัก
หลังจากนั้นไม่นานนัก ขบวนรับเสด็จของลู่ยุ๋นหลัวสำหรับเข้าปรนนิบัติองค์จักรพรรดิก็เตรียมพร้อมเรียบร้อยเสร็จสิ้น ผู้เชิญเกี้ยวประทับนกยูงทองแปดนาย ด้านหน้าสุดเป็นแม่นมอาวุโสลำดับชั้นที่สี่ของสำนักพระราชวังฝ่ายดูแลกิจการภายใน ประกบตามมาด้วยขันทีลำดับชั้นห้าสี่คนและขันทีลำดับชั้นที่หกแปดคนตามลำดับ ตามปิดท้ายขบวนด้วยนางข้าหลวงสิบหกนาง ทั้งขบวนได้เคลื่อนขบวนมุ่งหน้ารับเสด็จไปที่ตำหนักเย็น
กลับมาที่ด้านของลู่ยุ๋นหลัวนั้น หลังจากนางทานอาหารเย็นเสร็จแล้วฟ้าก็ยังคงสว่างอยู่ นางจึงเริ่มวิจัยอัตราส่วนของดินปืนใหม่อีกครั้ง
ซึ่งนางล้วนล้มเหลวมาหลายวันติดต่อกัน
วันนี้นางจึงตัดสินใจเพิ่มอัตราส่วนกำมะถันเข้าไปในการทดลอง
นางไม่เชื่อว่าวันนี้นางจะทำให้มันออกมาสำเร็จไม่ได้ !
ขบวนรับเสด็จกว่าสามสิบกว่าคนก็มาถึงตำหนักเย็นอย่างรวดเร็วโดยเกี้ยวประทับนกยูงทองวางหยุดลงที่ปากประตูตำหนัก
แม่นมอาวุโสลำดับชั้นที่สี่ของฝ่ายดูแลกิจการภายในเดินตรงเข้าไปยังภายในตำหนักหลังขบวนรับมาถึงได้ไม่นาน
หยินซวางทราบดีว่านี่คือขบวนรับเสด็จเพื่อมารับเสด็จนายหญิงของนางไปปรณนิบัติองค์จักรพรรดิ นางตกใจอยู่สักครู่ก็รีบเชิญแม่นมอาวุโสฮันไปพบนายหญิงของนางทันที
“แม่นมอาวุโสฮัน นายหญิงนั้นเป็นคนไม่เคร่งเรื่องพิธีการเท่าไหร่นัก เมื่อต้องไปปรณนิบัติองค์จักรพรรดิขอรบกวนแม่นมอาวุโสฮันช่วยตักเตือนและชี้แนะนายหญิงของบ่าวด้วย
“นางหยินซวางเจ้าจงวางใจ เป็นหน้าที่ที่ของต้องจัดการอยู่แล้ว โดยธรรมชาติของข้าไม่มีทางปล่อยให้นายหญิงทำอะไรผิดพลาดเกินงามได้”
พวกนางทั้งเดินไปพลางกล่าวไปพลางขณะเดินไปออกไปด้านนอก
ณ เวลานั้นเอง ก็ได้ยินเสียงดังกึกก้องสะเทือนฟ้าดังมาซึ่งห่างออกไปไม่ไกลจากห้องนอนนัก
“ตู้ม...”
แรงสั่นสะเทือนที่ราวกับเคลื่อนเขาได้ ฝุ่นฟุ้งกระจายปลิวว่อน
ภายในฝุ่นผงและเศษดินที่ฟุ้งกระจายไปทั่วก็พบกับเงาร่างผอมบาง
ด้านหลังเงานั้นก็เห็นเป็นเพิงไม้ธรรมดาที่บัดนี้พังครืนลงมาจนฝุ่นฟุ้งกระจายขึ้นอีกระลอก
“อะแห่ม อะแห่ม ...”
ชิบหายแล้ว !
สีหน้าของลู่ยุ๋นหลัวบัดนี้เต็มไปด้วยความทุลักทุเล ไม่คิดมาก่อนว่าการทำดินปืนขึ้นมาจะยากถึงเพียงนี้ อีกเพียงนิดเดียวนางก็เกือบจะทำตัวเองระเบิดตายอีกรอบแล้ว
เดิมทีนางได้เข้าไปหลบในมิติพิเศษแล้ว แต่เพิงเมิงที่อยู่ด้านนอกมิติพิเศษนั้นใกล้จะถล่มลงมาเต็มทน หากนางยังคงหลบอยู่ในมิติพิเศษต่อไปและยังไม่ออกมา นางก็คงจะติดอยู่ในเศษซากเพิงไม้ที่ถล่มลงมาเป็นแน่
เส้นยาแดงผ่าแปดที่นางรีบพุ่งออกมาจากมิติพิเศษทัน
และยังดีที่นางนั้นเร็วพอตัว !
เมื่อนางหันกลับไปมองซากปรักหักพังที่เกิดขึ้น ในใจนางกลับมีความรู้สึกหวาดกลัวหลงเหลืออยู่ขึ้นมา
แม่นมอาวุโสฮันตกใจกับเสียงที่ดังขึ้นจนสะดุ้งตัวพร้อมกับถามด้วยความสงสัย “หยินซวาง เสียงเมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ?”
“ไม่มีอะไรเพคะ ภายในตำหนักเย็นมักจะมีเสียงดังแบบนี้เป็นเรื่องปกติ พอคุ้นชินแล้วก็จะรู้สึกเฉยไปเองเพคะ” หยินซวางตอบกลับด้วยท่าทีปกติ
หลังจากออกมาที่ปากประตู หยินซวางก็เห็นเงาลาง ๆ ภายใต้กลุ่มควันคลุ้งไปทั่วผืนฟ้า นางดีใจวิ่งโผเข้าไปพร้อมโบกมือ “นายหญิง !”
นายหญิง ?
แม่นมอาวุโสมองตามไปทางด้านที่หยินซวางกำลังโบกมืออยู่ เมื่อนางเห็นสิ่งที่อยู่ในกลุ่มควัน กรามของนางก็แถมจะหลุดออกจากกัน
สิ่งที่เห็นตรงหน้านั้นเป็นเพียงใบหน้าที่มีคราบเปื้อนดำอยู่เต็มใบหน้า นอกจากดวงตาทั้งสองข้างแล้วก็แถบจะมองไม่เห็นอวัยวะส่วนที่เหลือ ผมเผ้ารกรุงรังกองอยู่ที่ด้านหนึ่งของไหล่ บนหัวยังคงมีเศษหินดินหญ้าเกาะเต็มผม เสื้อผ้าและชุดกระโปรงยิ่งน่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้ ราวกับไปกลิ้งคลุกขี้ดินโคลนตม
ซึ่งร่างที่อยู่ตรงหน้านั้นกำลังเดินมาหาพวกนาง
นี่คือนายหญิงงั้นเหรอ ?
แม่นมอาวุโสฮันอดสงสัยไม่ได้ที่จะเชื่อในสายตาตัวเอง
นางอยู่ภายในวังแห่งมานานกว่าสองทศวรรษ กลับไม่เคยเห็นนายหญิงคนไหนที่สภาพดูไม่จืดเท่านางมาก่อน
เป็นไปได้ไหมที่นายหญิงถูกขังอยู่ในตำหนักเย็นเป็นระยะเวลานานจนเสียสติเป็นบ้าไปแล้ว ?
ไม่เพียงแต่แม่นมอาวุโสฮันเท่านั้น แต่เหล่าขันทีและนางข้าหลวงตรงปากประตูตำหนักก็มีท่าทีตกใจไม่แพ้กัน
โดยเฉพาะที่ภาพการระเบิดได้ปรากฏแก่สายตาพวกเขาตรงหน้า และเพียงพริบตาเพิงไม้นั้นก็พังถล่มลงมา
ซึ่งภาพที่เห็นตรงนั้นเกินกว่าที่จะใช้คำว่าตกตะลึงมาอธิบายได้ตั้งนานแล้ว ซึ่งต่อให้เวลาผ่านไปกว่าครึ่งวันก็คงเชื่อได้ว่าสติของพวกเขายังคงไม่กลับมา
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงงของลู่ยุ๋นหลัวพลันปรากฏพร้อมชำเลืองมองไปที่เหล่าขันทีและนางข้าหลวงตรงปากประตูตำหนัก และที่สะดุดตาเป็นพิเศษก็คงจะเป็นเกี้ยวประทับนกยูงทองหลังนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...