ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 57

ลู่ยุ๋นหลัวสงบไม่ลงอีกต่อไป !

นี่เงินหนึ่งหมื่นตำลึงเลยนะ !

นางแน่ใจแล้วรึที่จะไม่เอา ?

หากพลาดหมู่บ้านนี้ไปร้านนี้อาจจะไม่มีอีกแล้ว ! (หมายถึง โอกาสอันหาได้ยากที่หากพลาดไปแล้วก็อาจจะไม่อีกแล้ว)

นั่นเห็นได้ชัดว่าจี้อู๋เจวี๋ยดูออกว่านางนั้นแสดงแกล้งเป็นลม และตอนจบของการแสดงนี้เขาดูเหมือนกำลังส่งบันได้ให้นางได้ก้าวลงมา ?

ถ้าจะให้พูดแล้ว ความผิดโทษฐานหลอกลวงนี้เขาคงจะไม่ถือโทษแล้ว ?

แล้วก็ไม่รีบพูดตั้งแต่แรก นางจะได้ไม่ต้องแกล้งเป็นลมถึงขนาดนั้น

นางค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นอย่างช้าช้าเป็นธรรมชาติ ภายใต้สายตาของทุกคนที่จับจ้องนางอยู่นั้น นางค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างใจเย็นด้วยใบหน้าซึ่งไร้การสะทกสะท้าน จากนั้นก็ปัดฝุ่นบนตัว ด้วยใบหน้าที่นิ่งสงบนั้นหาซึ่งได้มีความเขินอายที่ถูกจับได้ว่าแกล้งเป็นลมเหลืออยู่แม้แต่น้อย

เฉาจงฉวนที่ยืนดูการแสดงของนางตั้งแต่ต้นที่ด้านข้างมองนางด้วยความเลื่อมใส นายหญิงท่านนี้ช่างปรับตัวไปตามสถานการณ์ได้อย่างชำนาญเสียจริง

ลู่ยุ๋นหลัวเมื่อลุกยืนเสร็จก็ประดับรอยยิ้มขึ้นที่ใบหน้าพร้อมกับเดินไปนั่งยังโต๊ะหินด้านข้าง “พระราชโองการขององค์จักรพรรดิหนักแน่นดั่งทองคำ บ่าวหวังว่าฝ่าบาทจะไม่ลืมสิ่งที่ทรงตรัสมา !”

จี้อู๋เจวี๋ยกระตุกมุมพระโอษฐ์ขึ้นเล็กน้อย “เดิมทีตัวข้าเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น !”

เงินแค่หมื่นตำลึงแลกกับการเหมาทั้งคืนสักสามสี่วัน เขาไม่ขาดทุนอยู่แล้ว

“องค์จักรพรรดิเพคะ งั้นเงินตำลึง ?” ลู่ยุ๋นหลัวรีบถามในขณะที่เหล็กกำลังร้อนอยู่

“ตัวข้านั้นข้าใช้จ่ายเหมาทั้งคืนอยู่ที่สามพันตำลัง หมื่นตำลึงก็น่าจะได้ราวประมานสามสี่วัน สนมคนโปรดเจ้าแน่ใจแล้วใช่มั๊ยที่จะต้องการเงินตำลึงตอนนี้ ?” จี้อู๋เจวี๋ยเลิกพระขนงมองไปที่นางอย่างตรงไปตรงมาราวกับแฝงคำพูดลงไปว่า เจ้าไม่เอาเงินตำลึงแล้วรึ ?

เขาเอาร่างกายมาใช้หนี้ !

ยิ้มที่เคยอ่อนหวานของลู่ยุ๋นหลัวพลันดูยิ้มแข็งขึ้นมาทันที

ที่แท้พูดมาได้เป็นครึ่งค่อนวัน เจ้าคนนี้ก็วางแผนจะให้เงินนางแต่แรกอยู่แล้ว

แต่นางจะมากล่าวว่าเขานั้นพูดคำไหนไม่เป็นคำนั้นก็ไม่ได้

เขาไม่ได้บอกสักหน่อยว่าจะไม่ให้ แต่แค่เปลี่ยนรูปแบบวิธีการให้เท่านั้น

แถมวิธีนี้ใครจะเอาเงินกันมิทราบ ?

ขอแค่เพียงนางต้องการเงินขึ้นมาเขาก็ต้องให้นางเหมาตัวเขาทั้งคืนอยู่แล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น