ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 63

เดิมทีลู่ยุ๋นหลัวอยากพูดว่าภายภาคหน้าก็ยังสามารถเป็นสมบัติส่งต่อให้กับเหล่าบุตรและธิดาของเจ้าได้ แต่เมื่อได้เห็นแววตาอันเย็นเยียบของเหยากุ้ยเหริน นางก็รู้ดีที่จะเอาประโยคสุดท้ายกลืนลงคอไป

“สรุปได้ว่า ซื้อแล้วคุ้มค่ามาก ! อีกทั้งราคาก็ถูกมากแล้ว หากว่าเสด็จน้องรับไม่ได้กับราคาจริง ๆ งั้นเสด็จพี่ก็ทำได้แค่เพียงไปวังหลิวหยุนลองถามดู...”

คำพูดของลู่ยุ๋นหลัวนั้นชัดเจนแล้วว่าถ้าเจ้าไม่เอา นางก็จะขายให้กับหลันกุ้ยเหริน

ถึงเวลาหลันกุ้ยเหรินทำเป็น เจ้าทำไม่เป็น....

จะก่อให้เกิดผลลัพธ์แบบใด ตัวเองก็ลองชั่งน้ำหนักดู

“แม่นมเฉิน นำตำราเล่มนี้ไป พร้อมกับนำตำลึงมาให้เสด็จพี่ !”เหยากุ้ยเหรินมองลู่ยุ๋นหลัวด้วยสายตาเย็นชา

นางอาจไม่รู้ตัวได้ยินความหมายอื่นนอกจากสิ่งที่ลู่ยุ๋นหลัวกล่าว คิดไม่ถึงว่าลู่ยุ๋นหลัวจะเอาตำราขาด ๆ นี้มาเคาะบ้องไม้ไผ่ ! (เคาะบ้องไม้ไผ่ หมายถึง การขูดรีดทรัพย์ของผู้อื่น)!

ลู่ยุ๋นหลัวไม่ได้วางแผนร่วมมือกับนางเพื่อเผชิญหน้ากับหลันกุ้ยเหรินตั้งแต่แรก แต่ว่าเพื่อเงิน 5,000 ตำลึงแล้วลู่ยุ๋นหลัวจึงปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอกับนางอยู่ถึงตอนนี้ นางดูแคลนลู่ยุ๋นหลัวต่ำเกินไป

แม่นมเฉินนำตั๋วเงินตำลึงออกมาให้อย่างรวดเร็ว

ลู่ยุ๋นหลัวเมื่อได้ตั๋วเงินตำลึงแล้วก็อดที่จะหุบยิ้มไม่ได้

เงินของสนมในตำหนักในหาง่ายกว่าที่คิดเอาไว้ เทียบกับการขายให้พวกขันทีแล้วทำเงินได้มากกว่าเยอะ !

แต่ว่าน่าเสียดาย ที่นายหญิงภายในตำหนักในนั้นน้อยเกินไป

นางได้แต่คิดว่าสักวันควรคะยั้นคะยอจี้อู๋เจวี๋ยควรให้เลือกนางสนมเพิ่มเข้ามาอีกสักหน่อยมั๊ย

ได้รับตำลึงแล้วเสร็จ ลู่ยุ๋นหลัวก็ขยับศีรษะเข้าไปใกล้ “เสด็จน้อง ที่ข้ายังมีของที่เหมือนกันอยู่อย่าง คู่กับตำราเล่มเมื่อกี้ แน่นอนว่าลงแรงน้อยแต่ได้ผลลัพธ์เยอะ ประสิทธิภาพดีกว่า”

เหยากุ้ยเหรินตอนนี้ไม่ได้อยากรู้เพียงนิดว่าของนั้นจะเป็นอะไร คิดไปคิดมานางก็อดไม่ได้ที่จะถาม “มันคืออะไร ?”

ลู่ยุ๋นหลัวกลับไม่พูดอะไร พร้อมสั่งให้นางข้าหลวงนำสี่สิ่งล้ำค่าในห้องหนังสือออกมา

หลังจากไล่เหล่านางข้าหลวงไป นางก็เริ่มวาดระบายบนกระดาษ

มีแค่ตำรากามสูตรมันจะไปได้อะไร ?

อย่างน้อยก็คู่กับชุดชั้นในบาดตาบาดใจถึงจะน่าสนใจ

เพียงไม่นาน นางก็วาดชุดที่เปิดเผยส่วนเว้าโค้งมากออกมาสองชิ้น

รายละเอียดบนภาพนั้น เหยากุ้ยเหรินเห็นเพียงครู่ก็หน้าแดงไปถึงหูอีกครั้ง แต่ลู่ยุ๋นหลัวกลับหน้าไม่แดงใจไม่เต้นและยังอธิบายนางว่าตรงนี้ตรงนั้นมีประโยชน์เยี่ยงไร

ถึงแม้รูปแบบบนภาพทำให้คนยากที่จะเอ่ย แต่ไม่พูดไม่ได้ว่าภาพเสื้อผ้าสองชิ้นที่นางวาดออกมาคู่กับท่วงท่าในตำราเล่มนั้น ประสิทธิภาพต้องเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเป็นแน่

“สองภาพนี้ ราคาเท่าไหร่ ?” ไม่ต้องสงสัย ว่าสองภาพนี้หากนางไม่ซื้อไว้ ลู่ยุ๋นหลัวก็ต้องขายให้กับหลันกุ้ยเหริน

เพียงแค่คิดถึงสองภาพนี้ราคาจะต้องสูงเสียดฟ้าแน่แท้ นางก็แทบต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟันถามไป

ลู่ยุ๋นหลัวหัวเราะคึกคัก “ไม่เยอะ แผ่นละ 2,000 ตำลึง”

ครั้งนี้เหยากุ้ยเหรินไม่ได้ต่อราคาใด ๆ อีกทั้งพูดกับแม่นมเฉินโดยทันที “แม่นมเฉิน ไปหยิบอีก 4,000 ตำลึงออกมา !”

แม่นมเฉินรีบไปอย่างคล่องแคล่วว่องไว

เพียงไม่นานก็นำตั๋วเงิน 4,000 ตำลึงส่งให้ลู่ยุ๋นหลัวถึงมือ

ลู่ยุ๋นหลัวไม่คิดมาก่อนว่าเหยากุ้ยเหรินครั้งนี้จะตรงไปตรงมา คิดไปคิดมาก็พูดขึ้น “เสด็จน้อง ที่ข้ายังมีของที่เหมือนกันอยู่อย่าง…”

ยังมีอีก ?

เหยากุ้ยเหรินโดนมาพอแล้วจริง !

แค่ตำราขาด ๆ หนึ่งเล่มกับภาพวาดสองแผ่นก็ใช้ไปตั้ง 9,000 ตำลึงแล้ว

หากเอามาอีกสองอย่าง  วังหลีเซี๋ยของนางเดือนหน้าอาจจะต้องกินรำกลืนผักแล้ว ! (กินรำกลืนผัก หมายถึง ใช้ชีวิตอด ๆ อยาก ๆ)

ถึงแม้ว่าครอบครัวนางจะมีอำนาจชื่อเสียง แต่นางต้องดูแลค่าใช้จ่ายของวังหลีเซี๋ยทั้งหมดทุกเดือน

เงินตำลึงของนางจึงไม่ใช่ให้คนมาใช้รีดไถ

ดูเหมือนแทบไม่ต้องคิดที่จะขัดบนสนทนาของลู่ยุ๋นหลัวพร้อมพูด “เสด็จพี่ นี่มันก็สายแล้ว แม่นมเฉิน ส่งแขก !”

แม่นมเร่งรีบไปยังด้านหน้า “นายหญิง เชิญเพคะ....”

เมื่อเห็นเหยากุ้ยเหรินที่ขนาดสายตายังไม่มองสักนิด ลู่ยุ๋นหลัวทำได้แค่ปิดปากเดินออกนอกประตูไป

เดินไปได้ครึ่งทางจู่จู่ก็หันกลับมาถาม “เสด็จน้อง เจ้าแน่ใจเหรอที่จะไม่เอา ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น