ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 64

“ของสิ่งนี้สามารถช่วยปรับทรวดทรงของรูปร่างทรวงอก....”

ขณะที่พูดไป นางก็กวาดสายตามองไปที่เหยากุ้ยเหริน  เหยากุ้ยเหรินทรวดทรงองค์เอวถือว่าไม่เลว

“หุบปาก !” เหยากุ้ยเหรินแถบอยากจะบ้าตาย

นางไม่คิดมาก่อน ลู่ยุ๋นหลัวจะดีจะเลวอย่างไรก็เป็นถึงนายหญิง แต่กลับมาพูดเรื่องส่วนตัวของหญิงสาวในที่สาธารณะแบบนี้ได้เยี่ยงไร

โดยเฉพาะแววตาของนางรวมไปถึงนางข้าหลวงที่แอบเหลือบมองมา ทำให้นางโกรธจนตัวสั่นจนใบหน้านั้นแสดงออกถึงความอับอายและโกรธแค้น

สายตาจับจ้องเหล่าข้าราชบริพารเหล่านั้นอย่างแข็งกร้าว

ลู่ยุ๋นหลัวไม่คิดมาก่อนว่าเหยากุ้ยเหรินจะตอบสนองรุนแรงถึงเพียงนี้ จริง ๆ แล้วนางก็อยากแค่จะอวดสรรพคุณยกทรงแค่นั้น

แต่ว่าดูจากท่าทางของนางแล้วต่อให้ลู่ยุ๋นหลัววาดออกมาให้ดูจริง ๆ นางก็คงไม่ซื้ออยู่แล้ว

ช่างมันเถอะ วันนี้ก็ถือว่าได้เงินมาไม่น้อยแล้ว

หลังจากนี้ถ้าคิดอยากจะทำธุรกิจกับนางในระยะยาว การทำให้นางอารมณ์ไม่ดีคงไม่เป็นการดีนัก

นางกลับหลังเดินหอบเงิน 9,000 ตำลึงออกไปด้านนอกด้วยอารมณ์สดชื่น เมื่อถึงประตูนางก็หยุดลง

ลู่ยุ๋นหลัวก็กลับคิดขึ้นได้ว่าหากเดินจากไปแบบนี้ก็คงจะไม่สุภาพนัก จะดีจะเลวเยี่ยงไรก็ต้องกล่าวลาเหยากุ้ยเหรินสักคำ

เพียงนางหยุดได้เพียงครู่ยังไม่ทันหันหลังกลับไป ประตูสีแดงฉาดด้านหลังก็ได้ปิดไล่ตามหลังมาเสียงดัง “ปัง”

เสียงที่ดังก้องชัดของบานประตูนั้น เกรงว่าคงจะปิดช้าเกินไปจนทำให้ลู่ยุ๋นหลัวได้กลับเข้ามาได้อีกครั้ง

ลู่ยุ๋นหลัวกระพริบตาอย่างงุนงง ว่านางไม่เป็นที่ต้อนรับขนาดนั้นเลยรึ ?

สายตาพลันไปจับจ้องบานประตูสีแดงฉาดบานนั้น นางก็ได้ทำมือขึ้นมาอย่างสุภาพพร้อมกับตะโดนด้วยเสียงอันก้องกังวาน “เสด็จน้อง ไว้คราวหน้าเสด็จพี่จะมาหาใหม่ ลาก่อน !”

พูดจบก็ลูบไปยังตั๋วเงินตำลึงที่เก็บตรงบริเวณอกและเดินจากไปอย่างอารมณ์ชื่นมื่น 

ในที่สุดก็ส่งลู่ยุ๋นหลัวถึงนอกประตูไปได้ อารมณ์ของเหยากุ้ยเหรินถึงได้สงบลงมา

จนกระทั่งได้ยินว่าลู่ยุ๋นหลัวพูดว่าจะกลับมาใหม่ จิตใจที่เพิ่งจะสงบลงนั้นก็เริ่มกลับมาพรุ่งพล่านอีกครั้ง

อีนางลู่ยุ๋นหลัว !

มันไม่ได้เป็นไปตามแผนที่วางไว้เลยแม้แต่น้อย กลับกันดันถูกนางทำลายแผนการจนเละเทะ

เหยากุ้ยเหรินก็นึกขึ้นมาได้อยู่เรื่องจึงเรียกแม่นมเฉินมาถาม “แม่นมโจว ข่าวที่ลู่ยุ๋นหลัวมาวังหลีเซี๋ยเจ้าส่งไปวังหลิวหยุนรึยัง ?”

“นายหญิง ข้าน้อยได้จัดการและรายงานเรียบร้อยแล้วเพค่ะ”

ยอดเยี่ยม !

ไม่ว่าลู่ยุ๋นหลัวจะยอมหรือไม่ยอมร่วมมือกับนางก็ตาม ขอเพียงให้หลันกุ้ยเหรินรู้ว่าลู่ยุ๋นหลัวนั้นได้มายังวังหลีเซี๋ยและอยู่ตลอดช่วงบ่าย นางก็น่าจะคาดเดาได้ไม่ยากว่าพวกนางทั้งสองอาจจะเริ่มร่วมมือกันไปแล้ว

อีกทั้งนางหลันกุ้ยเหรินเมื่อคืนวานก็ยังแกล้งทำเป็นป่วยเพื่อเรียกหาองค์จักรพรรดิให้เสด็จกลับมาหา แน่นอนวางนางนั้นทำไปเพราะไม่พอใจลู่ยุ๋นหลัว

และในตอนนี้ที่ทั้งสองกำลังแก่งแย่งการเป็นที่โปรดปราณนั้น นางก็แถบไม่ต้องออกแรงอะไร เพราะยังไงหลันกุ้ยเหรินจะต้องลงมือจัดการลู่ยุ๋นหลัวด้วยมือของนางเอง

พอถึงเวลานั้นนางก็แค่ใช้กลยุทธ์ดูไฟชายฝั่ง (กลยุทธ์ดูไฟชายฝั่ง หมายถึง ใช้ประโยชน์จากการแตกแยกของศัตรู) และสุดท้ายนางก็เป็นชาวประมงที่ได้รับผลประโยชน์ไป

“แม่นมเฉิน เมื่อวานเข้าไปสืบข่าวที่ภายในสำนักพระราชวังได้ข่าวไรบ้าง ?”

“รายงานนายหญิง ภายในสำนักพระราชวังนั้นต่างปิดปากเงียบ ถามอะไรไปก็ไม่ได้คำตอบสักอย่าง” แม่นมเฉินพูดรายงาน

“เจ้าคอยสืบต่อไป เงินถ้าจำเป็นต้องใช้ก็อย่าคิดเสียดายเพื่องานนี้” เหยากุ้ยเหรินก็ลุกขึ้นพร้อมกับเดินกลับไปที่ห้องของนาง

ถึงแม้ว่าลู่ยุ๋นหลัวจะถูกให้ไปพำนักที่ตำหนักเย็น แต่คราวก่อนที่สอบถามจากแม่นมเฉินนั้นนางบอกว่าด้านนอกตำหนักเย็นไม่มีแม้กระทั่งขันทีหรือนางข้าหลวงคอยเฝ้าคุมดูแลอยู่เลย

นางลู่ยุ๋นหลัวคนนี้จะไปจะกลับระหว่างภายในตำหนักในได้อย่างอิสระ ซึ่งไม่เห็นว่านางจะเหมือนถูกกักขังตรงไหนเลยจริง ๆ

นางต้องยืนยันให้ได้ว่าการที่ไม่มีขันทีคอยกำกับดูแลอยู่เลยนั้น จนถึงขนาดที่คนข้างในสามารถเดินเข้าออกได้อย่างอิสระขนาดนี้ เป็นเพราะคำบัญชาขององค์จักรพรรดิหรือไม่

ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง งั้นเรื่องที่นางถูกให้ไปพำนักตำหนักเย็นตั้งแต่แรกก็คงจะไม่ง่ายดายซะแล้ว !

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น