ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 65

เมื่อลู่ยุ๋นหลัวกลับมาถึงตำหนักเย็นก็นำตั๋วเงินจำนวน 9,000 ตำลึงโยนไว้ที่หน้าของหยินซวาง นอกจากความนับถือในตัวของนายหญิงที่หยินซวางมีให้แล้วก็คงเป็นความนับถืออยู่ดี

ถ้ายืมคําพูดของนางหญิงมาบรรยายเรื่องนี้ก็คือ เจ๋งมาก!

นั่นเป็นไปได้หรือไม่ว่าเหยากุ้ยเหรินนั้นไม่ใช่คนเลวแต่อย่างใด ?

หยินซวางนั้นเริ่มคิดฟุ้งซ่าน แต่ถึงอย่างไรก็สงสัยว่าทำไมถึงให้เงินนายหญิงมาได้มากมายเพียงนี้ ?

คำถามนี้เองต่อให้นางใช้เวลาทั้งชีวิตก็คงคิดไม่ตก

เมื่อตะวันลับขอบฟ้าไป ลู่ยุ๋นหลัวที่กำลังขุดดินอยู่บริเวณหน้าตำหนักเพื่อเตรียมปลูกถั่วฝักยาวลงไป ทันใดนั้นหน้าประตูก็ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวดังมาจนนางต้องกันขึ้นไปมอง และก็พบเข้ากับสายตาของแม่นมอายุสี่สิบโดยประมาณในชุดของขันที ใบหน้าที่ราวกับผ่านอะไรในชีวิตมาเยอะกับปอยผมสีขาวทั้งสองข้างที่เห็นได้ชัด เมื่อแม่นมท่านนั้นได้เห็นลู่ยุ๋นหลัว วินาทีนั้นเสียง “ตึ้ง” ของการคุกเข่าก็ดังขึ้นต่อหน้านาง 

“แม่นมโจว !” ลู่ยุ๋นหลัวสีหน้าประหลาดใจไม่น้อย

แม่นมโจวท่านนี้นั้นเป็นแม่นมของเจ้าของร่างเดิมที่คอยดูแลลู่ยุ๋นหลัวตั้งแต่เล็กจนโต

แต่เมื่อสองปีก่อนนั้นแม่นมโจมได้กลับบ้านเกิดเพื่อไปใช้ชีวิตเกษียณจนคิดว่าชาตินี้นางคงไม่ได้เจออีกแล้ว ไม่คิดมาก่อนว่าแม่นมโจวจะได้เข้ามาในวัง !

“บ่าวขอคารวะนายหญิง !”

“แม่นมลุกขึ้นเถอะ” ลู่ยุ๋นหลัวรีบเดินไปด้านหน้าเพื่อพยุงนางให้ลุกขึ้น

ภายในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมนั้น แม่แท้ ๆ ของตัวเองนั้นจากโลกไปก่อนกำหนด ด้วยเหตุนี้นางจึงมีความผูกพันอันลึกซึ่งกับแม่นมคนนี้มาก

แม่นมโจวหลังจากลุกขึ้นก็กุมมือของลู่ยุ๋นหลัวไว้แน่นพร้อมกับสีหน้าที่เป็นทุกข์ใจ “นายหญิง บ่าวมาช้าเกินไปเพคะ ! นายหญิงคงทุกข์ทรมานเวทนายิ่งนัก !”

เมื่อครึ่งปีก่อน นางทราบโดยบังเอิญว่าอัครมหาเสนาบดีลู่นั้นได้ทรยศต่อประเทสชาติ จนถูกองค์รัชทายาทที่พึ่งทรงขึ้นครองบัลลังก์นั้นมีรับสั่งให้ประหารตัดศีรษะ อีกทั้งยังทรงมีรับสั่งให้ชายาเอกซึ่งเป็นธิดาของอัครมหาเสนาบดีผู้นั้นไปพำนักที่ตำหนักเย็นโดยทันที

นอกจากนั้นเหล่าข้ารับใช้ทั้งหมดที่อยู่ในจวนอัครมหาเสนาบดีก็ถูกส่งให้ไปเผชิญกับความยากลำบากในที่ต่าง ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น