ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 67

ทั้งสองยังคงพูดปลอบกันและกันหลังจากนั้นแม่นมโจวก็ไปพักผ่อนแล้ว

จากนั้นลู่ยุ๋นหลัวได้เริ่มคิดแผนการเกษตรกรรมของนาง

โดยพื้นที่รกร้างว่างเปล่าด้านหลังตำหนักเย็นที่มีอยู่ประมาณ 300 หมู่ ต่อให้จะปลูกอะไรโดยอาศัยเพียงแค่นาง หยินซวางและแม่นมโจมนั้นคงไม่มีทางทำได้แน่ 

อีกทั้งด้วยสถานะของนางในปัจจุบัน การที่จะขอข้าราชบริพารจากองค์จักรพรรดินั้นยิ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่

นางจึงลองหาวิธีคิดที่พอจะเป็นไปได้

วันที่สองเช้าตรู่ ลู่ยุ๋นหลัวได้ให้หยินซวางไปที่ห้องปรุงพระกระยาอาหารเพื่อขอแลกซื้อเนื้อมา 5 กิโล

วันเดียวกันในช่วงกลางวัน ก็ได้ยินเสียงสับหั่นหมูดังแว่วมาจากห้องครัว

ในตอนแรกนั้นแม่นมโจวไม่ให้ลู่ยุ๋นหลัวเข้ามาภายในห้องครัว จนได้ฟังว่าลู่ยุ๋นหลัวต้องการที่จะเตรียมเอาไปถวายองค์จักรพรรดิเสวย นางจึงถึงเลิกขัดขวาง

เมื่อถึงตอนบ่าย กลิ่นหอมของเนื้อก็ฟุ้งเป็นระลอกลอยอยู่เต็มอากาศ

ซาลาเปาเนื้อหม้อนี้ในที่สุดก็ทำออกมาสำเร็จ

อวบอ้วนนุ่มนิ่มทั้งพองฟูและอ่อนนุ่ม

ส่วนอีกชั้นนึงนั้นคือหมั่นโถวที่นึ่งสุกกำลังพอดี ไม่ยุบตัวลงไป ส่วนผสมลงตัวกำลังดี ขาว ๆ อ้วน ๆ ดูแล้วช่างน่าหอมหวานอร่อย

แม่นมโจวตกใจขึ้นมาเล็กน้อย แค่นำน้ำมาผสมกับแป้งสีขาวจากนั้นก็ใส่ไส้ลงไป เพียงนึ่งเสร็จก็กลายเป็นอาหารจานที่ละเอียดวิจิตรไปได้แล้ว ?

ก็พอจะได้ยินมาจากหยินซวางอยู่บ้างว่ากว่าครึ่งค่อนปีที่พวกนางอยู่ในตำหนักเย็นนั้น ก็อาศัยพืชผักที่ปลูกในตำหนักเย็นแห่งนี้ประทังชีวิต

แม่นมโจวเมื่อได้เห็นฝีมือการทำอาหารของนายหญิงในช่วงครึ่งค่อนปีที่ผ่านมานั้นพัฒนาอย่างก้าวกระโดด แค่คิดก็รู้ทันทีว่าครึ่งค่อนปีที่ผ่านมานั้นต้องผ่านความยากลำบากมามากเพียงใด เพียงเท่านี้ความเจ็บปวดในใจก็เริ่มก่อตัวขึ้นมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น