ทั้งสองยังคงพูดปลอบกันและกันหลังจากนั้นแม่นมโจวก็ไปพักผ่อนแล้ว
จากนั้นลู่ยุ๋นหลัวได้เริ่มคิดแผนการเกษตรกรรมของนาง
โดยพื้นที่รกร้างว่างเปล่าด้านหลังตำหนักเย็นที่มีอยู่ประมาณ 300 หมู่ ต่อให้จะปลูกอะไรโดยอาศัยเพียงแค่นาง หยินซวางและแม่นมโจมนั้นคงไม่มีทางทำได้แน่
อีกทั้งด้วยสถานะของนางในปัจจุบัน การที่จะขอข้าราชบริพารจากองค์จักรพรรดินั้นยิ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่
นางจึงลองหาวิธีคิดที่พอจะเป็นไปได้
วันที่สองเช้าตรู่ ลู่ยุ๋นหลัวได้ให้หยินซวางไปที่ห้องปรุงพระกระยาอาหารเพื่อขอแลกซื้อเนื้อมา 5 กิโล
วันเดียวกันในช่วงกลางวัน ก็ได้ยินเสียงสับหั่นหมูดังแว่วมาจากห้องครัว
ในตอนแรกนั้นแม่นมโจวไม่ให้ลู่ยุ๋นหลัวเข้ามาภายในห้องครัว จนได้ฟังว่าลู่ยุ๋นหลัวต้องการที่จะเตรียมเอาไปถวายองค์จักรพรรดิเสวย นางจึงถึงเลิกขัดขวาง
เมื่อถึงตอนบ่าย กลิ่นหอมของเนื้อก็ฟุ้งเป็นระลอกลอยอยู่เต็มอากาศ
ซาลาเปาเนื้อหม้อนี้ในที่สุดก็ทำออกมาสำเร็จ
อวบอ้วนนุ่มนิ่มทั้งพองฟูและอ่อนนุ่ม
ส่วนอีกชั้นนึงนั้นคือหมั่นโถวที่นึ่งสุกกำลังพอดี ไม่ยุบตัวลงไป ส่วนผสมลงตัวกำลังดี ขาว ๆ อ้วน ๆ ดูแล้วช่างน่าหอมหวานอร่อย
แม่นมโจวตกใจขึ้นมาเล็กน้อย แค่นำน้ำมาผสมกับแป้งสีขาวจากนั้นก็ใส่ไส้ลงไป เพียงนึ่งเสร็จก็กลายเป็นอาหารจานที่ละเอียดวิจิตรไปได้แล้ว ?
ก็พอจะได้ยินมาจากหยินซวางอยู่บ้างว่ากว่าครึ่งค่อนปีที่พวกนางอยู่ในตำหนักเย็นนั้น ก็อาศัยพืชผักที่ปลูกในตำหนักเย็นแห่งนี้ประทังชีวิต
แม่นมโจวเมื่อได้เห็นฝีมือการทำอาหารของนายหญิงในช่วงครึ่งค่อนปีที่ผ่านมานั้นพัฒนาอย่างก้าวกระโดด แค่คิดก็รู้ทันทีว่าครึ่งค่อนปีที่ผ่านมานั้นต้องผ่านความยากลำบากมามากเพียงใด เพียงเท่านี้ความเจ็บปวดในใจก็เริ่มก่อตัวขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...