“กราบบังคมทูลฝ่าบาท สิ่งที่ข้าพูดนั้นล้วนเป็นจริงไปตามธรรมชาติ”
ในยุคสมัยนี้ 1 ชึมีน้ำหนักเท่ากับประมานกว่า 50 กิโลกรับ
หากคำนวณกำลังปลูกผลิตของข้าวสาลีต่อพื้นที่หนึ่งหมู่ก็จะได้ประมาณกว่า 500 กิโลกรัมโดยประมาณ ถึงแม้นางจะไม่รู้ว่ากำลังผลิตต่อหมู่ของเกษตรกรในยุคนี้มีอยู่เท่าไหร่ แต่การที่ปลูกผลิตได้ 10 ชึต่อหมู่นั้นก็ถือว่าไม่เลวแล้ว
“ตั้งแต่ปีก่อนที่ข้าพำนักอยู่ในตำหนักเย็นและหลังจากที่ข้าค้นพบธัญพืชชนิดนี้ ข้าก็ได้นำเอามันไปปลูกในพื้นที่รกร้างลงบนพื้นที่ประมาณ 2 หมู่จนตอนนี้มันก็ถึงขั้นสุกงอมดีแล้ว หากองค์จักรพรรดิไม่เชื่อ ฝ่าบาทจะเสด็จไปทอดพระเนตรด้วยตัวพระองค์เองก็ได้เพคะ 1 หมู่จะปลูกผลิตได้เท่าไหร่เพียงทอดพระเนตรดูก็จะทรงรู้ได้เพคะ”
เรื่องแบบนี้ยิ่งพูดเยอะยิ่งไม่มีประโยชน์ แค่ไปดูด้วยตัวเองก็จะรู้ได้ทันทีว่านางนั้นพูดจริงหรือไม่
“อาหารที่เจ้าเพิ่งทำให้ข้ากิน ก็ทำมาจากข้าวสาลีที่เจ้าบอกใช่หรือไม่ ?” จี้อู๋เจวี๋ยเหลือบพระเนตรมองไปที่อาหารอวบอ้วนสีขาวชนิดนั้นในตะกร้าพร้อมกับตรัสถาม”
“กราบบังคมทูลฝ่าบาท ถูกต้องตามที่ฝ่าบาทตรัสมา อาหารทรงเหลี่ยม ๆ นั้นเรียกว่าหมั่นโถว ด้านในนั้นจะตันไม่กลวงทำให้ทานแล้วอิ่มท้อง รสชาตินั้นก็ไม่เลว ส่วนอาหารรูปร่างกลม ๆ นั้นเรียกว่าซาลาเปา ด้านในนั้นสามารถใส่ไส้ที่ตนชื่นชอบได้ อาหารทั้งสองนั้นง่ายต่อการพกพา อีกทั้งข้าวสาลียังสามารถเอาไปทำเป็นพวกแผ่นแป้งหรือแป้งก็ยังได้ พวกแผ่นแป้งและแป้งเมื่อตากจนแห้งก็ยังสามารถเก็บไว้ได้เป็นระยะเวลานาน” ลู่ยุ๋นหลัวค่อย ๆ อธิบายอย่างละเอียดถึงสรรพคุณและอาหารที่สามารถนำไปประกอบได้
ในขณะที่นางพูดลู่ยุ๋นหลัวก็ส่งสัญญาณให้ขันทีเฉานำซาลาเปาในตะกร้านั้นไปแจกจ่ายให้กับองคมนตรีคนละลูก ตอนที่นางมาถึงนั้นก็เตรียมเอามาให้ไว้เยอะ อีกอย่างตอนนี้ก็เป็นฤดูร้อนขนาดนี้ หากวันนี้ทานไม่หมดพรุ่งนี้ก็เสียจนทานไม่ได้แล้ว งั้นก็ควรเอาไปแจกให้ทุกคนยังจะดีกว่า
เฉาจงฉวนหันไปสังเกตพระพักต์ขององค์จักรพรรดิก็ไม่ได้มีท่าทีทรงปฏิเสธแต่อย่างใด จึงเรียกนางข้าหลวงสองนางให้เอาของในตะกร้าไปแบ่งให้กับองคมนตรีคนละลูก
องคมนตรีเหล่านั้นตั้งแต่บ่ายของเมื่อวานจนถึงตอนนี้ไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลย เพียงเมื่อสักครู่ที่ได้กลิ่นหอมนั้นกระเพาะและลำไส้ต่างก็โหยหวนหิวขึ้นมาตั้งนานแล้ว
ในเวลานี้เองที่พวกเขาได้รับซาลาเปานุ่มนิ่มไว้ในมือและเมื่อได้กัดลงไปคำใหญ่
ภายใต้อาการที่ท้องไส้หิวกระหายจนได้ทานอาหารรสชาติล้ำเลิศนั้น ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นมันยากที่จะพรรณนายิ่งนัก
ราวกับได้ทานอาหารที่อร่อยที่สุดในโลกมนุษย์อย่างใดอย่างนั้น อร่อยกว่าซุปถั่วและซุปข้าวไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
รสชาติของซาลาเปาเนื้อนั้นเกรงว่าชีวิตชาตินี้ก็คงจะยากที่จะลืมไปได้
หวังซิ่งจือ หัวหน้าของกระทรวงครัวเรือนเมื่อได้กัดซาลาเป้าเนื้อที่อยู่ในมือลงไปเบ้าตาก็เอ่อล้นน้ำใส ๆ ขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...