ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 72

จนกระทั่งหัวหน้าหวังซิ่งจือแห่งกระทรวงครัวเรือนได้พูดมาประโยค ว่าข้าวสาลีของพื้นที่สองหมู่นั้นเป็นของตำหนักเย็นที่นายหญิงท่านนั้นเป็นคนปลูกขึ้นมากับมือเอง นายหญิงนั้นก็มีประสบการณ์ด้านนี้ดี จึงเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดโดยปริยาย

ทั้งราชสำนักก็เงียบเป็นเป่าสากในบัดดล

นายหญิงของตำหนักเย็นนั้นเป็นบุตรสาวของลู่ติงหยวนผู้ทรยศต่ออาณาจักร

ว่ากันว่าการค้นพบธัญพืชชนิดนี้ครั้งแรกของนางในครั้งนี้

ถ้าข้าวสาลีนั้นนางเป็นคนปลูกขึ้นมากับมือเองจริง ๆ ในตอนนี้นางก็คือผู้ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว

เพียงแต่.....

ข้าวสาลีนี้ไม่เหมือนกับพืชผลธรรมดาชนิดอื่น

แต่มันเป็นถึงพืชชนิดใหม่ที่มีกำลังปลูกผลิตได้ถึง 10 ชึ  และยังเป็นดั่งความหวังและปัจจัยสำคัญของเหล่าผู้คนในอาณาจักรตงหลาน

ที่สำคัญคือถ้านางสามารถเพาะปลูกขยายพันธุ์ออกมาได้จริง นั้นเท่ากับว่านางจะได้รับความไว้วางใจจากพสกนิกรอย่างท่วมท้นมหาศาล

นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์ที่ไม่อยากเห็นของเหล่าบรรดาสนมที่หมายตาตำแหน่งฮองเฮาเอาไว้

แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเอาเหตุผลที่พวกเขาแอบสนับสนุนนายหญิงเหล่านั้นขึ้นมาขัดขวางเรื่องนี้ได้

อย่างแรก ไม่ต้องคิดที่จะถามถึงเหล่านายหญิงจะทำการเกษตรได้รึไม่

อย่างที่สอง ตำหนักเย็นเป็นถึงสถานที่ที่ไม่สะดวกสบายเป็นอย่างยิ่ง

แค่สองเหตุผลนี้พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเสนอแก่องค์จักรพรรดิให้นายหญิงทั้งสองไปตำหนักเย็นได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ?

จี้อู๋เจวี๋ยทอดพระเนตรไปที่กลุ่มคนพวกนั้น “ในเมื่อเหล่าองคมนตรีอันเป็นที่รักของข้าไม่มีความเห็นใด งั้นก็ตามนี้ !”

“ร่างพระราชกฤษฎีกา !”

ในขณะที่เหล่าองคมนตรีเงียบอยู่ขณะนั้น จี้อู๋เจวี๋ยก็ทรงกำหนดตัดสินในทันที

เหล่าองคมนตรีตอนแรกที่อยากจะพูดขัดไว้นั้นก็ได้แต่กลืนคำพูดนั้นลงไป

ถ้าตอนนี้หากใครเสนอความคิดขัดแย้งขึ้นมา นั่นเท่ากับเป็นปฏิปักษ์ต่อองค์จักรพรรดิอย่างเปิดเผย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น