จนกระทั่งหัวหน้าหวังซิ่งจือแห่งกระทรวงครัวเรือนได้พูดมาประโยค ว่าข้าวสาลีของพื้นที่สองหมู่นั้นเป็นของตำหนักเย็นที่นายหญิงท่านนั้นเป็นคนปลูกขึ้นมากับมือเอง นายหญิงนั้นก็มีประสบการณ์ด้านนี้ดี จึงเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดโดยปริยาย
ทั้งราชสำนักก็เงียบเป็นเป่าสากในบัดดล
นายหญิงของตำหนักเย็นนั้นเป็นบุตรสาวของลู่ติงหยวนผู้ทรยศต่ออาณาจักร
ว่ากันว่าการค้นพบธัญพืชชนิดนี้ครั้งแรกของนางในครั้งนี้
ถ้าข้าวสาลีนั้นนางเป็นคนปลูกขึ้นมากับมือเองจริง ๆ ในตอนนี้นางก็คือผู้ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
เพียงแต่.....
ข้าวสาลีนี้ไม่เหมือนกับพืชผลธรรมดาชนิดอื่น
แต่มันเป็นถึงพืชชนิดใหม่ที่มีกำลังปลูกผลิตได้ถึง 10 ชึ และยังเป็นดั่งความหวังและปัจจัยสำคัญของเหล่าผู้คนในอาณาจักรตงหลาน
ที่สำคัญคือถ้านางสามารถเพาะปลูกขยายพันธุ์ออกมาได้จริง นั้นเท่ากับว่านางจะได้รับความไว้วางใจจากพสกนิกรอย่างท่วมท้นมหาศาล
นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งผลลัพธ์ที่ไม่อยากเห็นของเหล่าบรรดาสนมที่หมายตาตำแหน่งฮองเฮาเอาไว้
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเอาเหตุผลที่พวกเขาแอบสนับสนุนนายหญิงเหล่านั้นขึ้นมาขัดขวางเรื่องนี้ได้
อย่างแรก ไม่ต้องคิดที่จะถามถึงเหล่านายหญิงจะทำการเกษตรได้รึไม่
อย่างที่สอง ตำหนักเย็นเป็นถึงสถานที่ที่ไม่สะดวกสบายเป็นอย่างยิ่ง
แค่สองเหตุผลนี้พวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเสนอแก่องค์จักรพรรดิให้นายหญิงทั้งสองไปตำหนักเย็นได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ?
จี้อู๋เจวี๋ยทอดพระเนตรไปที่กลุ่มคนพวกนั้น “ในเมื่อเหล่าองคมนตรีอันเป็นที่รักของข้าไม่มีความเห็นใด งั้นก็ตามนี้ !”
“ร่างพระราชกฤษฎีกา !”
ในขณะที่เหล่าองคมนตรีเงียบอยู่ขณะนั้น จี้อู๋เจวี๋ยก็ทรงกำหนดตัดสินในทันที
เหล่าองคมนตรีตอนแรกที่อยากจะพูดขัดไว้นั้นก็ได้แต่กลืนคำพูดนั้นลงไป
ถ้าตอนนี้หากใครเสนอความคิดขัดแย้งขึ้นมา นั่นเท่ากับเป็นปฏิปักษ์ต่อองค์จักรพรรดิอย่างเปิดเผย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...