นางข้าหลวงยกเก้าอี้เข้ามาให้ลู่ยุ๋นหลัวนั่ง โดยที่แม่นมโจวยืนอยู่ด้านข้าง
แม้ว่าพระพันปีจะมีพระชามายุใกล้ 40 พรรษา แต่เสน่ห์ของอิสตรีนั้นทรงมิได้จางหายไป ทุกท่วงท่าอริยาบถล้วนทรงมีความสุภาพและเป็นสง่าเลิศล้ำที่เห็นได้ชัด นางสรวลยิ้มทอดพระเนตรไปที่ลู่ยุ๋นหลัวตรัสเอ่ย “เจ้าอยู่ต่อหน้าข้าไม่จำเป็นต้องพิธีรีตองอะไรขนาดนั้น เจ้าเองได้เป็นที่ยอมรับของพระบรมวงศานุวงศ์แล้ว ถ้าจะให้พูด ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องบิดาของเจ้าแต่ก่อนที่ทำให้เจ้าต้องไปพำนักตำหนักเย็น ป่านนี้เจ้าได้ตำแหน่งฮองเฮาไปนานแล้ว จนกระทั่งคุณงามความดีของเจ้าในครั้งนี้ ถ้ายิ่งเจ้าตอนนี้ได้เป็นฮองเฮา เหล่าองคมนตรีของสำนักราชการในพระองค์ต่อให้คัดค้านอะไรก็ไม่มีประโยชน์”
พระดำรัสของพระพันปีหลวงนั้นช่างบริสุทธิ์จริงใจ ความหมายของพระดำรัสนั้นไม่ว่าจะทั้งทางตรงหรือทางอ้อมก็ล้วนแฝงความหมายที่ต้องการให้ลู่ยุ๋นหลัวได้เป็นฮองเฮา
ลู่ยุ่นหลัวกระตุกยิ้มที่มุมปาก เพราะเพียงนางนั่งได้ไม่ทันไร พระพันปีหลวงก็ทรงไม่อ้อมค้อมตรัสถึงเรื่องตำแหน่งฮองเฮาในทันใด
หรือว่าจะทรงต้องการทดสอบนาง ?
นางพินิจพิเคราะห์อยู่ครู่และทูลกล่าว “พระพันปีหลวง เรื่องตำแหน่งฮองเฮานั้น องค์จักรพรรดิทรงควรได้ตัดสินพระทัยเอง จนกระทั่งบัดนี้เองหม่อมฉันได้แต่คิดเพียงเดียวว่าต้องตั้งใจปลูกข้าวสาลีออกมาให้ได้ดีที่สุดก็เท่านั้นเพื่อเป็นประโยชน์แก่ราษฎร”
เสียงพูดยังไม่ทันจางหายไป พระพักตร์ของพระพันปีหลวงก็เปลี่ยนไปในทันที อีกทั้งถ้วยชาที่พระพันปีหลวงทรงเพิ่งได้รับมาไว้ในพระหัตถ์ก็เอาไปวางไว้ที่โต๊ะทันที เมื่อสักครู่ที่พระพักตร์ยังทรงสรวลยิ้มอยู่นั้นก็เปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันใด
ลู่ยุ๋นหลัวรู้ดีว่าพระพันปีนั้นทรงพิโรธแล้ว นางจึงมีสีหน้าตระหนกขึ้นในทันทีพร้อมกับลุกขึ้นคุกเข่าในทันใด
“แต่ก่อนที่ตำแหน่งในตำหนักยังคงว่าง เจ้าเองที่มีความคิดเช่นนี้ข้าก็ไม่ถือสาอะไร แต่พอมาวันนี้ที่ขนาดองค์จักรพรรดิต้อนรับนางกุ้ยเหรินใหม่ทั้งสองเข้ามาพำนักในวัง เจ้าเองกลับยังคงไม่คิดที่จะไขว่ขว้าอีกงั้นเรอะ !”
“เจ้ารู้บ้างรึไม่ ว่าอาณาจักรมิสามารถขาดฮองเฮาไปได้แม้แต่เพียงวันเดียว หากไม่มีฮองเฮาคอยกำกับตัดสินใจในตำหนักใน นั่นยิ่งก่อให้เกิดการแข่งขันแย่งชิ่งกันในด้านต่าง ๆ และยังส่งผลให้เกิดความโกลาหลในตำหนักในจนกระทั่งก่อให้เกิดความไม่มั่นคงของอาณาจักร !”
“ข้าคิดมาตลอดว่าเจ้านั้นเป็นเด็กฉลาด แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้ตัวข้านั้นมองเจ้าผิดไป !”
เมื่อพระพันปีหลวงตรัสมาจนถึงท้ายสุด พระพันปีหลวงยังทรงพิโรธที่ลู่ยุ๋นหลัวยังคงมีท่าทีไม่แยแสต่อการแย่งชิงตำแหน่งฮองเฮากับสนมอื่น
ลู่ยุ๋นหลัวยังคงคุกเข่าไม่กล้าทูลอะไรอีกต่อ นางนั้นได้คลาดเคลื่อนในการเข้าใจความหมายที่แท้จริงของพระพันปีหลวงผิดว่าคืออะไร !
เพียงทรงพบกันเพียงครั้งแรก พระพันปีหลวงก็ทรงสนับสนุนนางในการแย่งชิงตำแหน่งฮองเฮาแล้วหรือ ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออ่านอยู่นะคะ...
ชอบเรื่องนี้มากนางเอกไม่อยากอยู่ในวัง..มาอัพต่อนะคะรออ่านค่ะ......
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...