ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 80

พอลู่ยุ๋นหลัวได้ยิน สายตาก็ส่องแววประกายในทันใด “องค์จักรพรรดิคืนนี้เสด็จมาไม่ได้แล้ว ?”

นางข้าหลวงคิดอยู่ครู่ถึงสิ่งที่องค์จักรพรรดิทรงต้องการที่จะสื่อว่าคงหมายความเช่นนี้ นางจึงพยักหน้ารับคำกลับไป

“งั้นข้ากลับตำหนักเย็นได้เลยมั๊ย ?” ลู่ยุ่นหลัวถามออกไปด้วยสีหน้าที่มีความหวัง

นางข้าหลวงหลู่เวยกลับส่ายหัว พร้อมกับพูดขัดความคิดที่เพิ่งจะแบ่งบานความหวังของนางให้ดับลง “กราบทูลนายหญิง องค์จักรพรรดิทรงหมายถึงให้บ่าวและเหล่าข้าราชบรพารดูแลท่านให้ดีเพคะ”

ลู่ยุ๋นหลัวก็มีสีหน้าผิดหวังในทันใด

กลับตำหนักเย็นก็ไม่ได้ แล้วยังจะให้นางอยู่เผชิญหน้ากับห้องมากมายที่ว่างเปล่าคนเดียวยิ่งน่าเบื่อเข้าไปใหญ่ ตอนนี้เวลาก็น่าจะประมานช่วงดึกแปดเก้านาฬิกา หากนางนอนแผ่บนเตียงตอนนี้ใครมันจะไปหลับลง ?

อยู่ดีดีนางก็เหลือบสายตาไปมองบนตัวขอบนางข้าหลวงหลู่เวย

หลู่เวยเมื่อถูกจ้องมองก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองจึงถามอย่างลังเลกลับไป “นายหญิงเพคะ ท่านจะมีรับสั่งอื่นใดอีกรึไม่เพคะ ?”

ลู่ยุ๋นหลัวยิ้มเราะออกมาอย่างสดใส “แน่นอนว่ามี !”

ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิท ภายในห้องทรงตำราก็มีกลุ่มควันจากเตากำยานลอยคลุ้งอยู่

แม่ทัพทหารองครักษ์เย่เฟิงก็ได้หาวออกมาเป็นครั้งที่ 18 แล้ว “องค์จักรพรรดิ ตอนนี้เวลาก็ถือว่าดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ฝ่าบาทก็ยังคงต้องทรงประชุมแต่เช้า หากฝ่าบาทบรรทมดึกเช่นนี้ จะมีปัญหาต่อพระวรกายพะยะค่ะ”

จี้อู๋เจวี๋ยทรงมองไปที่เขาอยู่ครู่ก่อนจะตรัส “นี่เจ้าเกลียดข้าที่เรียกเจ้าเข้ามาในวังรึ ?”

“ฝ่าบาท ข้าน้อยมิบังอาจ !”

แม่ทัพทหารองครักษ์เย่เฟิงผู้นี้ได้ติดตามจี้อู๋เจวี๋ยตั้งแต่ยังทรงเยาว์วัย ตอนที่จี้อู๋เจวี๋ยยังทรงเป็นมกุฎราชกุมารนั้นเขาได้ถูกจี้อู๋เจวี๋ยส่งไปยังค่ายทหารทุรกันดารให้เผชิญตามยถากรรม

สองปีให้หลังเขาถึงจะคลานออกมาจากนรกบนดินแห่งนั้นได้

หลังจากจี้อู๋เจวี๋ยขึ้นครองราชย์ เขาก็ได้รับความไว้วางใจและได้รับหน้าที่ที่สำคัญจนเป็นแม่ทัพทหารองครักษ์ดูแลทหารองครักษ์ทั้งหมด 50,000 นายในกำมือเพื่อคอยดูแลความสงบสุขในเมืองหลวงแห่งนี้

“เจ้าแพ้อีกแล้ว”

จี้อู๋เจวี๋ยทรงเริ่มจัดเก็บหมากในกระดานพร้อมกับตั้งกระดานใหม่

เย่เฟิงตอนนี้สีหน้าเริ่มที่จะอดรนทนไม่ได้ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าองค์จักรพรรดิจะทรงเล่นหมากกระดานนี้ไปอีกนานเท่าไหร่

จริง ๆ แล้วตัวเขานั้นหลับไปตั้งนานแล้ว จนกระทั่งผู้ใต้บังคับบัญชามาแจ้งว่าองค์จักรพรรดิให้เข้าเฝ้าในวัง

ตอนนั้นเองเขาก็คิดว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่ก็คิดไม่ถึงว่าองค์จักรพรรดิจะทรงสั่งให้เขาเข้ามาในวังกระทันหันเพื่อหาคนทรงเล่นหมากด้วย !

หลังจากเย่เฟิงได้แพ้ให้กับองค์จักรพรรดิไปแล้ว 36 ครั้ง ในที่สุดจี้อู๋เจวี๋ยก็ได้ตรัสเรียกเฉาจงฉวนเข้ามาเพื่อถามถึงสถานการณ์ในตำหนักซู่ซิน

“กราบบังคมทูลองค์จักรพรรดิ นายหญิงตอนนี้ที่อยู่ในตำหนักซู่ซินดูเหมือนว่าจะอยู่สบายดีพะยะค่ะ” เฉาจงฉวนตั้งใจพยายามที่จะหาคำศัพท์มาอธิบายให้ได้ดีที่สุดแล้ว

“อยู่สบายดีหมายความว่าเยี่ยงไร ?” จี้อู๋เจวี๋ยเลิกพระขนงค์ถามกลับไป

“ฝ่าบาท บ่าวคิดว่าฝ่าบาทเสด็จไปทอดพระเนตรด้วยพระองค์เองจะดีกว่าพะยะค่ะ” เฉาจงฉวนตอบกลับอย่างระแวดระวัง

จี้อู๋เจวี๋ยทรงลุกขึ้น เขาก็อยากจะไปดูด้วยตัวเองเหมือนว่าอะไรที่เรียกว่า ‘อยู่สบายดี’

ภายในโถงด้านในของตำหนักซู่ซิน

ลู่ยุ๋นหลัวกับนางข้าหลวงอีกสามคนที่บัดนี้นั่งล้อมอยู่ที่โต๊ะตัวหนึ่ง โดยในมือแต่ละคนได้ถือไพ่หนึ่งชุดไว้ในมือ

“ตองห้าคู่เจ็ด !”

“ไอ้หยา แต่ยังดีที่ในมือข้ามีตอง...ตองเก้าคู่สี่” เสว่เวยพูดขึ้นขณะที่เพิ่งจะลงไพ่ต่อลงไปเสร็จ

“ตองสองคู่สาม !” ลู่ยุ๋นหลัวยักคิ้วด้วยความดีใจ

ตานี้นางเพิ่งได้เป็นเจ้ามือ “มีใครจะลงอีกมั๊ย ? ถ้าไม่มีใครลงแล้วตาข้าลงไพ่ละน่ะ !”

“มือพวกเจ้ามีระเบิด(ระเบิด หมายถึง ชุดไพ่ที่มี 4 ใบเหมือนกัน)อะไรอีกมั๊ย ? ถ้ามีก็รีบ ๆ ลงมา ถ้าไม่มีแล้วไพ่ในมือนายหญิงท่านนี้อาจลงต่อได้หมดเลยนะ” เสว่เวยบอกเตือนคนในวงไพ่

ก่อนถึงตานายหญิงในมือมีแค่แปดเก้าใบเอง พริบตาเดียวก็ออกไพ่แถบจะหมดมือ

“ข้ามี ข้ามีแปดสี่ใบ !”

“เจ้ามีแปดสี่ใบก็ไร้ประโยชน์ เอาไป ! คู่โจ๊ก !” ลู่ยุ๋นหลัวยิ้มแย้มโยนไพ่ในมือออกไปในทันที

พอเห็นลู่ยุ๋นหลัววางไพ่คู่โจ๊ก นาข้าหลวงที่เหลือในวงไพ่ต่างก็ถอนหายใจไปตาม ๆ กัน ดูเหมือนว่าตานี้นายหญิงจะชนะอีกแล้ว

“คู่สาม !”

“เย้ ชนะอีกแล้ว !” ลู่ยุ๋นหลัวไม่รู้สึกสักนิดว่ากำลังกลั่นแกล้งมือใหม่อย่างพวกนางขณะที่เล่นไพ่โปเกอร์

แต่อย่าริอาจดูถูกพวกนางไป เมื่อกี้นางก็แพ้ให้กับไพ่ของพวกนางไปแล้วสามตาได้

นางลุกขึ้นพร้อมกับไปหยิบพู่กันมาขีดวาดบนหน้าพวกนางเพิ่มไม่กี่เส้น

ขณะที่กำลังวาดหางตาก็เหลือบไปเห็นคนเดินมาเข้ามา พอนางแหงนหน้ามองไปก็พบเขากับจี้อู๋เจวี๋ยที่สบพระเนตรมาที่นางพอดี

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น