ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 87

ใครจะรู้ หยินซวางเมื่อได้ยินก็ส่งเสียง “คิกคิก” ออกมา

ดูเหมือนพวกเขาถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ ว่าขันทีเสี่ยวลู่จึก็คือนายหญิง

แต่นางก็ไม่ได้อธิบายอะไร พาสองคนนั้นมาถึงด้านข้างของห้องนอนและพูดว่า “พวกเจ้ารอตรงนี้ครู่หนึ่งก่อน เดี๋ยวข้าจะเชิญนายหญิงมาหา” เมื่อได้เห็นแผ่นหลังของหยินซวางจากไป เสี่ยวลี่จึก็มีสีหน้าสงสัยขึ้นมา “ท่านอาจารย์ ทำไมแม่นางหยินซวางถึงไม่ยอมตอบคำถามที่ข้าถามไปล่ะ ?”

ขันทีเฉิงตีไปที่หัวของเสี่ยวลี่จึไปที “บอกเจ้าไปกี่รอบแล้ว ไม่ควรถามก็อย่าถาม ! ระวังหัวเจ้าเอาไว้ดี ๆ เถอะ”

เสี่ยวลู่จึคนนั้น ตัวตนจะต้องไม่ธรรมดาเป็นแน่ 

คราวก่อน ฝ่าบาทเพื่อทรงต้องการหาเขาถึงกับไปหาเขาถึงที่พำนัก

ตัวตนเช่นนั้น เจ้ากล้าจะถามไถ่อีกรึ ?

อยากจะอยู่ให้รอดในวังได้นาน ลืมตาข้างปิดตาข้างก็พอแล้ว

ขันทีเฉิงยังคงกังวลอยู่เลยเตือนขึ้นมาอีกรอบ “รอจนนายหญิงออกมาเมื่อไหร่ จำไว้ว่าตาเจ้าอย่าริอาจสุ่มสี่สุ่มห้ามองไปทั่ว !”

เสี่ยวลี่จึลูบไปที่หัวตัวเองและพูด “ท่านอาจารย์ข้าเข้าใจแล้ว”

ทั้งสองคนรอไม่นานนักลู่ยุ๋นหลัวก็ออกมา

ขันทีเฉิงและเสี่ยวลี่จึเมื่อได้เห็นเงาร่างสีเหลืองอ่อนก็รีบก้มหัวคุกเข่าในทันที

“บ่าวผู้ดูแลห้องปรุงพระกระยาอาหาร ขันทีเฉิงฟาง !”

“บ่าวขันทีประจำห้องปรุงพระกระยาอาหาร เสี่ยวลี่จึ !”

“ถวายบังคมนายหญิง !”

“ลุกขึ้นเถอะ ข้าไม่มีกฎระเบียบมากมายอะไรในที่แห่งนี้” ลู่ยุ๋นหลัวมองพวกเขาหลังจากเข้ามา พบว่าพวกเขาทั้งสองค่อนข้างประหม่า

เสี่ยวลี่จึขมวดคิ้ว เสียงนี้เขาทำไมรู้สึกเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ?”

ขันทีเฉิงก็ผงะไปเล็กน้อยเช่นกัน

เสียงนี้ หากเขาได้ยินไม่ผิด ทำไมรู้สึกคล้ายเสี่ยวลู่จึ ?

ทั้งสองก้มหน้าสบมองกันอยู่ครู่หนึ่ง

“นายหญิงให้พวกเจ้าลุกขึ้นได้แล้ว !” แม่นมโจวที่อยู่ด้านข้างมองพวกเขาทั้งสองด้วยแววตาแปลก ๆ

“ขอบพระทัยนายหญิง !” ขันทีเฉิงและเสี่ยวลี่จึเพิ่งมีสติกลับมารีบก้มหัวลุกขึ้น

ขันทีเฉิงหลังจากลุกขึ้นมาแล้วยังคงก้มศีรษะไว้อยู่ นี่คือกฎระเบียบของตำหนักใน

เมื่อไม่มีพระบรมวงศานุวงศ์ท่านใดตรัส ก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้เงยหน้า

ส่วนทางด้านเสี่ยวลี่จึ ยังคงคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าเสียงนี้เคยได้ยินที่ไหนมาก่อน ดังนั้นเขาจึงแอบสอดส่องสายตามองไปยังเงาร่างสีเหลืองอ่อนเบื้องหน้า

เมื่อได้เห็นก็ได้ทำให้เขาตกใจเป็นอย่างมาก เวลานั้นได้ลืมสิ่งที่ขันทีเฉิงได้บอกไว้ แหงนหน้าขึ้นตาเบิกโพรงอ้าปากค้างมองนายหญิงท่านนี้ที่ยิ้มแย้ม

นี่มันไม่ใช่.....

เสี่ยวลู่จึหรอกเหรอ ?

“ท่านอา.....อาจารย์.....” เสี่ยวลี่จึใช้ศอกสะกิดขันทีเฉิงที่อยู่ด้านข้าง โดยที่พูดอะไรไม่ออก

ขันทีเฉิงขมวดคิ้ว เสี่ยวลี่จึเป็นอะไรไป ?

ต่อหน้านายหญิงต้องใส่ใจเคารพกฎระเบียบ

ด้วยเหตุนี้ขันทีเฉิงจึงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน

“อาจารย์....ท่าน.....รีบดู....นายหญิง...” ขันทีเฉิงยังคงสะกิดเรียกเขาโดยที่ยิ่งพูดยิ่งติดอ่าง

ขันทีเฉิงก้มหน้าลงอยู่นั้นได้เห็นชายกระโปรงสีเหลืองอ่อนทิ้งตัวบนพื้นเข้ามาอยู่ในสายเขา “ขันทีเฉิง ไม่ได้เจอกันนาน !”

เหนือศีรษะได้ยินเสียงที่คุ้นเคยลอยแว่วมา

ขันทีเฉิงแหงนหน้าได้พบกับหญิงท่านหนึ่งที่ใบหน้ากำลังยิ้มเยอะมองเขา

ขันทีเฉิงตัวสั่นอย่างรุนแรง

นี่ไม่ใช่เสี่ยวลู่จึหรอกเหรอ ?

เขารู้ดีว่าตัวตนของเสี่ยวลู่จึนั่นไม่ธรรมดา

แต่เขาก็ไม่คิดมาก่อนว่าเสี่ยวลู่จึจะกลายเป็นหญิงไปได้ อีกทั้ง ยังเป็นนายหญิงของตำหนักเย็น !

เขาคิดไปถึงเมื่อก่อนว่าถึงแม้เขาจะได้ช่วยเสี่ยวลู่จึไปไม่น้อย แต่เขาก็รังแกนางไปอยู่ไม่น้อย ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ขโมยของนางทาน และมักอ้างเหตุผลช่วยนางหาของมาให้ เอามาขู่นางให้ทำอาหารอร่อย ๆ ให้เขาได้ทาน นอกจากนี้ทุกครั้งที่ที่ช่วยนางไปเอาของจากนอกวังมาให้ ก็มักจะรับเงินเป็นค่าดำเนินการไว้สูง

พอคิดถึงตรงนี้ เหงื่อเย็น ๆ ก็ไหลอาบท่วมหน้าผากเขา ตอนนั้นเองที่เขาตกใจจนคุกเข่าลงไปอีกครั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น