ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น นิยาย บท 88

“นายหญิง ได้โปรดยกโทษให้ด้วย ! บ่าวแต่ก่อนไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของท่าน ได้โปรดยกโทษสิ่งที่บ่าวประพฤติอันน่าอัปยศก่อนหน้านั้นด้วย !”

ลู่ยุ๋นหลัวเปลี่ยนสายตาเป็นเย็นชามองไปยังขันทีเฉิง “แน่นอนว่าต้องยกโทษให้ เพียงแต่ เจ้าต้องเอานารีแดง (นารีแดง คือ เหล้าขึ้นชื่อ)ที่ฝังไว้กว่า 20 ปีใต้ที่พำนักเจ้าแก่ข้าเป็นการชดใช้”

“นายหญิงวางใจ บ่าวจะให้คน....” ขันทีเฉิงขณะที่พูด ทันใดนั้นร่างกายเขาก็หยุดไปครู่ ไม่ถูกต้อง ! เขาฝังเหล้าเก่าแก่นั้นไว้ใตต้นไม้กว่า 20 ปี มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ นายหญิงท่านนี้ทราบได้เยี่ยงไร ?

หรือว่าอาจจะเป็น.......

พอคิดถึงตรงนี้ หัวใจของขันทีเฉิงก็เต้นกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรง

เขาถามลองเชิงเสียงสั่นกลับไป “นายหญิง แต่ว่าเหล้านั้นถูกท่าน....”

“ถูกข้าขุดขึ้นมาตั้งนานแล้ว เสี่ยวลี่จึ รสชาติไม่เลวเลยใช่มั๊ย ?” ลู่ยุ๋นหลัวยิ้มแย้มกันไปทางเสี่ยวลี่จึ

เสี่ยวลี่จึเมื่อถูกลู่ยุ๋นหลัวมองก็หน้าแดงขึ้นมา เขาก้มหน้าลงและลูบศีรษะอย่างลำบากใจ

ท่าทางในตอนนี้ ขันทีเฉิงก็เข้าใจอย่างเป็นธรรมชาติว่าเหล้าของเขาถูกพวกเขาทั้งสองแบ่งไปเรียบร้อยแล้ว

เวลานั้นเขาโกรธนั้นจนยื่นมือออกไปเขกที่หัวเสี่ยวลี่จึไปที

เด็กคนนี้ ริอาจกล้าขโมยเหล้าของเขาดื่มเลยรึ ?

นั่นเป็นถึงเหล้าที่เขาหวงแหนกว่า 20 ปี !

“อาจารย์อย่าตีข้า นายหญิงให้ข้าไปขุดขึ้นมา” เสี่ยวลี่จึพูดปัดเลี่ยง

“ในเมื่อเจ้าโยนความผิดให้นายหญิงรับผิดชอบ วันนี้หลังจากกลับไปคอยดูว่าข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร !” ขันทีเฉิงเดือดดาลจ้องเสี่ยวลี่จึเขม็ง

แล้วยังผลักความรับผิดชอบไปไว้ที่นายหญิงอีก กล้าอาศัยเขาตอนนี้ที่ไม่มีทางทำอะไรนายหญิงได้งั้นเหรอ ?

เขานั้นก็ไม่มีทางทำอะไรนายหญิงได้ก็จริง แต่เขามีวิธีจัดการกับไอเด็กนี้ได้ !

เหล้าที่เขาขุดฝังไว้กว่า 20 ปี !

ไม่รู้หายไปตั้งแต่ตอนไหน !

ขันทีเฉิงอยากร้องไห้ขึ้นมาทันที เจ้าเสี่ยวลู่จึ ไม่สิ นายหญิงท่านช่างโหดร้ายยิ่งนัก !

ขณะที่เอะอะโวยวายนั้น ขันทีเฉิงก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าทำไมนายหญิงถึงไม่เอาเรื่องเขาแล้ว นั่นเพราะว่านายหญิงแต่ก่อนก็รังแกเขาไปไม่น้อย !

พอคิดถึงไหที่ใส่เหล้าไว้กว่า 20 ปี ขันทีเฉิงก็เจ็บปวดใจขึ้นมาทันที

ลู่ยุ๋นหลัวเมื่อเห็นขันทีเฉิงที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวแต่ก็ไม่กล้าจะโกรธเคืองก็อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก มุมปากกระตุกยิ้มขึ้นมา พูดถึงเหตุที่พวกเขามาในครั้งนี้ “ข้าได้ยินจากหยินซวางบอกว่าพวกเจ้ามาเพื่อเรียนนึ่งหมั่นโถว หยินซวางนึ่งหมั่นโถวได้ไม่เลว พวกเจ้าก็ไปเรียนจากนางเถอะ”

“ขอบพระทัยนายหญิง !”

วันเวลาผ่านไปไม่เร็วไม่ช้าไปหลายวัน

หลังจากไถพื้นที่ที่รกร้างกว่า 300 หมู่ ข้าวสาลีก็ได้เอาไปเพาะปลูกในพื้นที่ โดยปลูกไปทั้งหมด 200 หมู่และมีคนคอยตรวจตราเฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมง

หลังจากเพาะปลูกเสร็จ นอกจากการรดน้ำแล้ว  คนส่วนใหญ่ก็จะเริ่มว่างไม่มีอะไรทำ

ลู่ยุ๋นหลัวนำคนพวกนี้ทั้งหมดไปที่แผนกอาหาร

คนที่ว่างทั้งหมดเริ่มทำเครื่องดื่มเย็น ๆ

อุปกรณ์ที่ใช้ทำเครื่องดื่มเย็น ๆ รวมไปถึงแท่งไม้เล็ก ๆ ได้ ถูกห่อไว้ในกระดาษที่ส่งมาจากสำนักพระราชวังที่ได้สั่งทำไว้ให้ส่งกลับมา

ของพวกนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นของที่ใช้ประจำวันในวัง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นลู่ยุ๋นหลัวออกเงินซื้อเองทั้งหมด

หลังจากได้สอนทุกคนในการทำเครื่องดื่มเย็นแล้ว ทุกคนต่างก็รู้สึกเหลือเชื่อ

เพียงแค่หินโดนน้ำก็จับตัวกลายเป็นก้อนน้ำแข็งขึ้นมาได้ ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

อีกทั้งหินที่ใช้ทำนี้ไม่ใช่ว่าหินอะไรก็เอามาทำได้ แต่ต้องเป็นหินที่อยู่ในพื้นดินของตำหนักเย็นโดยเฉพาะเท่านั้น พอคิดอีกรอบถึงข้าวสาลีที่มีกำลังปลูกผลิต 10 ชึแล้ว ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าตำหนักเย็นแห่งนี้เป็นสถานที่อัศจรรย์

กำแพงด้านนอกของตำหนักเย็นนั้นถูกลู่ยุ๋นหลัวทุบผนังออกไปบางส่วน ปรับปรุงให้เป็นร้านค้าที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ไม่กี่ร้าน หนึ่งในร้านนั้นได้ตกแต่งเสร็จเรียบร้อย โดยใช้เป็นร้านค้าตำหนักเย็น  หลังจากนี้จะเป็นแผนกปรุงอาหารต่าง ๆ และขายอาหารปลีกย่อยโดยเฉพาะ

“ร้านค้าตำหนักเย็น” เมื่อแหงนหน้าแขวนขึ้นไป ร้านค้านี้ก็ถือว่าเปิดอย่างเป็นทางการ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น