“นายหญิง ได้โปรดยกโทษให้ด้วย ! บ่าวแต่ก่อนไม่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของท่าน ได้โปรดยกโทษสิ่งที่บ่าวประพฤติอันน่าอัปยศก่อนหน้านั้นด้วย !”
ลู่ยุ๋นหลัวเปลี่ยนสายตาเป็นเย็นชามองไปยังขันทีเฉิง “แน่นอนว่าต้องยกโทษให้ เพียงแต่ เจ้าต้องเอานารีแดง (นารีแดง คือ เหล้าขึ้นชื่อ)ที่ฝังไว้กว่า 20 ปีใต้ที่พำนักเจ้าแก่ข้าเป็นการชดใช้”
“นายหญิงวางใจ บ่าวจะให้คน....” ขันทีเฉิงขณะที่พูด ทันใดนั้นร่างกายเขาก็หยุดไปครู่ ไม่ถูกต้อง ! เขาฝังเหล้าเก่าแก่นั้นไว้ใตต้นไม้กว่า 20 ปี มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ นายหญิงท่านนี้ทราบได้เยี่ยงไร ?
หรือว่าอาจจะเป็น.......
พอคิดถึงตรงนี้ หัวใจของขันทีเฉิงก็เต้นกระตุกขึ้นมาอย่างรุนแรง
เขาถามลองเชิงเสียงสั่นกลับไป “นายหญิง แต่ว่าเหล้านั้นถูกท่าน....”
“ถูกข้าขุดขึ้นมาตั้งนานแล้ว เสี่ยวลี่จึ รสชาติไม่เลวเลยใช่มั๊ย ?” ลู่ยุ๋นหลัวยิ้มแย้มกันไปทางเสี่ยวลี่จึ
เสี่ยวลี่จึเมื่อถูกลู่ยุ๋นหลัวมองก็หน้าแดงขึ้นมา เขาก้มหน้าลงและลูบศีรษะอย่างลำบากใจ
ท่าทางในตอนนี้ ขันทีเฉิงก็เข้าใจอย่างเป็นธรรมชาติว่าเหล้าของเขาถูกพวกเขาทั้งสองแบ่งไปเรียบร้อยแล้ว
เวลานั้นเขาโกรธนั้นจนยื่นมือออกไปเขกที่หัวเสี่ยวลี่จึไปที
เด็กคนนี้ ริอาจกล้าขโมยเหล้าของเขาดื่มเลยรึ ?
นั่นเป็นถึงเหล้าที่เขาหวงแหนกว่า 20 ปี !
“อาจารย์อย่าตีข้า นายหญิงให้ข้าไปขุดขึ้นมา” เสี่ยวลี่จึพูดปัดเลี่ยง
“ในเมื่อเจ้าโยนความผิดให้นายหญิงรับผิดชอบ วันนี้หลังจากกลับไปคอยดูว่าข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร !” ขันทีเฉิงเดือดดาลจ้องเสี่ยวลี่จึเขม็ง
แล้วยังผลักความรับผิดชอบไปไว้ที่นายหญิงอีก กล้าอาศัยเขาตอนนี้ที่ไม่มีทางทำอะไรนายหญิงได้งั้นเหรอ ?
เขานั้นก็ไม่มีทางทำอะไรนายหญิงได้ก็จริง แต่เขามีวิธีจัดการกับไอเด็กนี้ได้ !
เหล้าที่เขาขุดฝังไว้กว่า 20 ปี !
ไม่รู้หายไปตั้งแต่ตอนไหน !
ขันทีเฉิงอยากร้องไห้ขึ้นมาทันที เจ้าเสี่ยวลู่จึ ไม่สิ นายหญิงท่านช่างโหดร้ายยิ่งนัก !
ขณะที่เอะอะโวยวายนั้น ขันทีเฉิงก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าทำไมนายหญิงถึงไม่เอาเรื่องเขาแล้ว นั่นเพราะว่านายหญิงแต่ก่อนก็รังแกเขาไปไม่น้อย !
พอคิดถึงไหที่ใส่เหล้าไว้กว่า 20 ปี ขันทีเฉิงก็เจ็บปวดใจขึ้นมาทันที
ลู่ยุ๋นหลัวเมื่อเห็นขันทีเฉิงที่มีอารมณ์ฉุนเฉียวแต่ก็ไม่กล้าจะโกรธเคืองก็อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก มุมปากกระตุกยิ้มขึ้นมา พูดถึงเหตุที่พวกเขามาในครั้งนี้ “ข้าได้ยินจากหยินซวางบอกว่าพวกเจ้ามาเพื่อเรียนนึ่งหมั่นโถว หยินซวางนึ่งหมั่นโถวได้ไม่เลว พวกเจ้าก็ไปเรียนจากนางเถอะ”
“ขอบพระทัยนายหญิง !”
วันเวลาผ่านไปไม่เร็วไม่ช้าไปหลายวัน
หลังจากไถพื้นที่ที่รกร้างกว่า 300 หมู่ ข้าวสาลีก็ได้เอาไปเพาะปลูกในพื้นที่ โดยปลูกไปทั้งหมด 200 หมู่และมีคนคอยตรวจตราเฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมง
หลังจากเพาะปลูกเสร็จ นอกจากการรดน้ำแล้ว คนส่วนใหญ่ก็จะเริ่มว่างไม่มีอะไรทำ
ลู่ยุ๋นหลัวนำคนพวกนี้ทั้งหมดไปที่แผนกอาหาร
คนที่ว่างทั้งหมดเริ่มทำเครื่องดื่มเย็น ๆ
อุปกรณ์ที่ใช้ทำเครื่องดื่มเย็น ๆ รวมไปถึงแท่งไม้เล็ก ๆ ได้ ถูกห่อไว้ในกระดาษที่ส่งมาจากสำนักพระราชวังที่ได้สั่งทำไว้ให้ส่งกลับมา
ของพวกนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นของที่ใช้ประจำวันในวัง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นลู่ยุ๋นหลัวออกเงินซื้อเองทั้งหมด
หลังจากได้สอนทุกคนในการทำเครื่องดื่มเย็นแล้ว ทุกคนต่างก็รู้สึกเหลือเชื่อ
เพียงแค่หินโดนน้ำก็จับตัวกลายเป็นก้อนน้ำแข็งขึ้นมาได้ ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก
อีกทั้งหินที่ใช้ทำนี้ไม่ใช่ว่าหินอะไรก็เอามาทำได้ แต่ต้องเป็นหินที่อยู่ในพื้นดินของตำหนักเย็นโดยเฉพาะเท่านั้น พอคิดอีกรอบถึงข้าวสาลีที่มีกำลังปลูกผลิต 10 ชึแล้ว ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าตำหนักเย็นแห่งนี้เป็นสถานที่อัศจรรย์
กำแพงด้านนอกของตำหนักเย็นนั้นถูกลู่ยุ๋นหลัวทุบผนังออกไปบางส่วน ปรับปรุงให้เป็นร้านค้าที่ไม่เล็กไม่ใหญ่ไม่กี่ร้าน หนึ่งในร้านนั้นได้ตกแต่งเสร็จเรียบร้อย โดยใช้เป็นร้านค้าตำหนักเย็น หลังจากนี้จะเป็นแผนกปรุงอาหารต่าง ๆ และขายอาหารปลีกย่อยโดยเฉพาะ
“ร้านค้าตำหนักเย็น” เมื่อแหงนหน้าแขวนขึ้นไป ร้านค้านี้ก็ถือว่าเปิดอย่างเป็นทางการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ข้ายุ่งอยู่กับทํานาในตำหนักเย็น
รออัพค่าาาา...
รออัพเดทตอนใหม่อยู่นะคะ มาส่องทุกวัน รอทุกวันค่ะ...
อยากให้ท่านอ๋องเฉินเป็นพระเอกจัง ส่วนฮ่องเต้นั่น ก็คู่สนมเหยาเถอะ โปรดปราณกันจนาดนั้น...
ฝ่าบาทผีอะไรเข้าสิงมาอี้กกกก...
555555...
รวยๆๆๆๆๆ...
เอาแล้วววว 55555...
555555...
มาต่อหน่อยค่า...
รบกวนอัพต่อให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ...