จักรพรรดินีไม่ได้ขัดขืนใดๆ เพียงแต่ใบหน้าแดงก่ำจนถึงขีดสุด ถึงขั้นร้อนผ่าว และปล่อยให้หลี่จุ่นประคองนางตามอำเภอใจ
ทั้งสองคนนอนตะแคงลงบนเตียงพร้อมกัน สบตากัน และจ้องมองอีกฝ่าย
นัยน์ตาของหลี่จุ่นเปี่ยมไปด้วยความรักผสานกับอารมณ์พลุ่งพล่าน
ใบหน้าของจักรพรรดินีแดงก่ำ นางเพียงกระพริบตา
วินาทีต่อมา...
หลี่จุ่นก็ตัวสั่นเล็กน้อยพลางมองจักรพรรดินี ทันใดนั้นเขาพลันโน้มตัวเข้าหานางอย่างรวดเร็ว
จากนั้นปากของเขาก็จูบไปยังจักรพรรดินี
ในขณะที่ริมฝีปากของทั้งสองคนกำลังจะประกับกัน แต่แล้วในวินาทีสุดท้าย จู่ๆ จักรพรรดินีพลันเบื้อนหน้าหนี
จากนั้นฟาดต้นคอของหลี่จุ่นด้วยมือเดียว
“โอ๊ย...”
หลี่จุ่นครางเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ล้มทับจักรพรรดินี
เขารู้สึกหดหู่เล็กน้อยก่อนจะหมดสติไป... ไฉนผู้หญิงคนนี้จึงเป็นเช่นนี้
จักรพรรดินีพลันมีสีหน้าซับซ้อน หลังปล่อยให้หลี่จุ่นนอนซบอยู่บนอกนานพอสมควรแล้วถึงถอนหายใจเบาๆ
จากนั้นค่อยๆ ดันหลี่จุ่นออกแล้วประคองเขาให้นอนลงบนเตียง
ใต้แสงเทียน
จักรพรรดินียืนอยู่ข้างเตียงพลางมองหลี่จุ่นที่หลับสนิทแล้วถอนหายใจยาวๆ
ก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบที่หน้าผากของหลี่จุ่นเบาๆ...
แค่จูบเบาๆ เท่านั้น
แต่นัยน์ตากลับเต็มไปด้วย... ความรักอันลึกซึ้งที่ไม่อาจปกปิดได้
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้รักข้าจริง และไม่ได้อยากแต่งงานกับข้าจริงๆ... ข้าเข้าใจทุกสิ่งอย่าง”
นางจ้องมองใบหน้าของหลี่จุ่นพลางพูดกับตัวเองเบาๆ
ด้วยสีหน้าเศร้าหมอง
จากนั้นถอดรองเท้าให้หลี่จุ่นแล้วห่มผ้าให้เขา
เสร็จแล้วก็จากไปด้วยสีหน้าเย็นชาทันที
นางเรียกให้คนเข้ามาเพื่อสั่งงานบางอย่าง จากนั้นเปลี่ยนเป็นชุดดำก่อนจะออกจากค่ายทหาร
เมื่อนางมาถึงบ้านตระกูลเฟิง
ก็ตรงไปยังห้องของซั่งกวนหว่านเอ๋อร์โดยไร้ซุ่มเสียง
แน่นอนว่าเซียวเจิ้นไปร่วมงานเลี้ยงงานแต่งงานแล้ว
ในเวลานี้มีเพียงอวิ๋นเอ๋อร์อยู่ในห้องของซั่งกวนหว่านเอ๋อร์
จู่ๆ จักรพรรดินีก็ปรากฏตัวอย่างกะทันหัน ทำให้อวิ๋นเอ๋อร์ตกใจมาก
ในห้อง
จักรพรรดินีมองซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ที่นอนแน่นิ่งเป็นผักอยู่บนเตียง และค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้ นางลูบแก้มของซั่งกวนหว่านเอ๋อร์เบาๆ แล้วพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ ว่า
“น้องหญิงเอ๋ย วันนี้ข้าแต่งงานกับศิษย์รักของเจ้าแล้ว แต่น่าเสียดายที่เจ้าไม่อยู่เห็นด้วยตัวเอง”
ใบหน้าของจักรพรรดินีเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แม้ว่าจะเสแสร้ง แต่ในเวลานี้กลับดูเหมือนจริงมาก
หากซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ได้เห็นรอยยิ้มนี้ของจักรพรรดินี เกรงว่าทั้งสองคนคงได้ต่อสู้กันเป็นแน่
แต่น่าเสียดาย ตอนนี้ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์เป็นเพียงเจ้าหญิงนิทรา ไม่รู้สึกตัวและไม่รับรู้ทุกสิ่งในโลกภายนอกเลย
จักรพรรดินีนั่งบนขอบเตียง และพร่ำเพ้อกับตัวเองมากมาย ส่วนใหญ่ก็เพื่ออวด
อวดที่ตัวเองได้แต่งงานกับหลี่จุ่น อวดว่าตัวเองแย่งผู้ชายที่นางชอบได้สำเร็จ...
ทว่า พูดไปพูดมา
ท้ายที่สุด จักรพรรดินีพลันมองหน้าซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ และน้ำเสียงค่อยๆ อ่อนโยนลง พูดว่า
“น้องหญิง เราโกรธกันมานานหลายปีแล้ว... ข้ารู้สึกเหนื่อยแล้ว คิดถึงเมื่อก่อนตอนที่เราสนิทกัน หากเจ้าตื่นขึ้นมาได้ เรากลับมาคืนดีกันอีกครั้ง... เจ้าคิดว่าอย่างไร”
นางพูดจบก็เอื้อมไปลูบหน้าของซั่งกวนหว่านเอ๋อร์อีกครั้ง จากนั้นค่อยๆ นอนลงข้างๆ นาง ใบหน้าของทั้งสองคนแนบชิดกัน เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจของอีกฝ่ายก็รับรู้ถึงความอบอุ่นของอีกฝ่าย
เหมือนกับเมื่อก่อน
ในใจของจักรพรรดินี... เงียบสงบสุขอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...