องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 736

สรุปบท ตอนที่ 736 คารวะเหยียนอ๋องผู้เฒ่า !: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน

ตอน ตอนที่ 736 คารวะเหยียนอ๋องผู้เฒ่า ! จาก องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 736 คารวะเหยียนอ๋องผู้เฒ่า ! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนติกโบราณ องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน ที่เขียนโดย Toey เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ในขณะที่หลี่จุ่นพิจารณาจ้างจิ่งจ้ง อีกฝ่ายก็กำลังประเมินจอมทัพหนุ่มเช่นเดียวกัน

เมื่อผ่านไปครู่หนึ่งจ้าวจิ่งจ้งจึงค่อยพยักหน้า แล้วเผยรอยยิ้มบาง

“ฮ่า ๆ คิดไม่ถึงว่าองค์ชายหกที่ชอบอยู่แต่ในตำหนักริมวังหลวง ไม่เพียงแต่ไม่ใช่พวกไม่เอาไหน แต่ยังเป็นดั่งมังกรผู้เก่งกล้า วันนี้ได้พบ ช่างไม่ธรรมดาจริง ๆ”

หลี่จุ่นนึกละอายขึ้นมาอยู่บ้าง แต่เมื่อฟังดูแล้วหนึ่งในว่าที่พ่อตานั้นมีภาพจำที่ค่อนข้างดีต่อตนเอง ก็เอ่ยขึ้นทันที

“ทำให้ท่านอ๋องต้องหัวเราะเสียแล้ว”

จ้าวจิ่งจ้งยังคงมีสีหน้าเปี่ยมด้วยรอยยิ้มเช่นเคย คล้ายว่าจะพอใจในท่าทีนี้ของหลี่จุ่นยิ่งนัก ชายวัยกลางคนจึงพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้น

“แม้ข้าจะไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับท่านอ๋อง แต่ก็นับได้ว่าเป็นอาของท่าน หากองค์ชายไม่รังเกียจ ท่านเรียกข้าว่าอาหวังก็ได้”

หลี่จุ่นเกาหัวอย่างงุนงง แล้วก็รีบเรียกอีกฝ่ายทันที

“หลานขอคารวะท่านอาหวัง !”

ด้วยไม่รู้ว่าเหยียนอ๋องผู้เฒ่านั้นใกล้ชิดกับหลี่ตังเทียนมากกว่า หรือสนิทสนมกับหลี่เจิ้งมากกว่ากันแน่

เมื่อคิดดูว่าคนที่สามารถมีสกุลเป็นอ๋องได้เพียงหนึ่งเดียวในราชวงศ์อู่ ย่อมต้องเป็นคนที่สนิทสนมกับทั้งสองคนแน่นอน !

เป็นสหายสนิทที่รักใคร่กลมเกลียวกัน ส่วนเหยียนอ๋องผู้เฒ่าก็เป็นพ่อตาของตน

ไม่ว่าจะเป็นมิตรภาพกับใคร การที่ตนเองเรียกอีกฝ่ายว่าท่าอาหวังนั้นก็มิได้ผิดอะไร

อืม ว่าที่พ่อตากำลังใจยกระดับความใกล้ชิดกับตนเองเช่นนี้ แปลว่ามีภาพจำที่ดีมาก ๆ กับตนเองอยู่จริง

เมื่อนึกได้ดังนี้ ภายในใจของหลี่จุ่นก็แอบดีใจขึ้นมา

“ฮ่า ๆ ดีมาก ไม่เลวเลย”

สีหน้าของจ้าวจิ่งจ้งดูยินดียิ่งนัก ราวกับว่ากำลังใช้สายตาแห่งความชื่นชมมองมายังหลี่จุ่น

เขาค่อย ๆ หันกลับมามองดูแผนที่ตรงหน้าแล้วเอ่ยขึ้น

“เรื่องที่ท่านทำในชายแดนเหนือ ข้าได้ยินมาหมดแล้ว ช่างเก่งกาจยิ่งนัก ข้ากับเจิ้นเป่ยอ๋องนำทัพมานานนานหลายปีขนาดนี้ คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกเจ้าเบียดตกเก้าอี้เช่นนี้ได้...”

หลี่จุ่นเกิดความกังวลขึ้นทันที

เหยียนอ๋องผู้เฒ่ารู้เรื่องที่ตนเองทำในชายแดนเหนือหรือ ?

สิ่งนี้ไม่น่าเป็นไปได้ด้วยซ้ำ

ส่วนใหญ่ก็ต้องคิดว่าเป็นฝีมือจี้จงชิงสิถึงจะถูก

เว้นเสียแต่ว่า...

หลี่จุ่นหรี่ตาลง ยังคงสีหน้าเช่นเดิมแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

“ทำขายหน้าต่อหน้าท่านอาหวังเสียแล้ว ท่านกับท่านอาเจิ้นเป่ยอ๋องต่างหากที่เป็นแม่ทัพผู้มากฝีมืออย่างไม่ต้องสงสัย ข้าก็เป็นได้เพียงคนทำขวานที่หน้าบ้านลู่ปัน[ 班门弄斧 ทำขวานที่หน้าบ้านลู่ปัน หมายถึง การไม่รู้จักประมาณตน อวดฝีมือของตนต่อหน้าผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ]ก็เท่านั้น“

หลี่จุ่นเองก็รีบถามขึ้นทันที

“ทัพใหญ่ของโจวชิงบาดเจ็บล้มตายไปมากเพียงใดหรือ ?”

จ้าวจิ่งจ้งถอนใจแล้วเอ่ยขึ้น

“ไม่ถึงสามหมื่น แต่ทัพของข้าบาดเจ็บล้มตายไปเจ็ดหมื่น... เพราะเหตุนี้ ในมือของโจวชิงจึงยังมีกำลังพลที่พร้อมรบสมบูรณ์อยู่อีกแสนกว่านาย เกรงว่าคงยากรับมือยิ่งนัก”

เพียงหลี่จุ่นได้ยินก็ถึงกับตกตะลึงขึ้นในใจ

คุณพระคุณเจ้า !

นี่เรียกได้ว่าทำลายทัพเหยียนจนแตกพ่ายด้วยซ้ำ ที่สำคัญคืออีกฝ่ายยังสูญเสียไม่มากอีกด้วย

โจวชิงผู้นี้น่ากลัวจริง ๆ !

หลี่จุ่นมองดูแผนที่ ลองครุ่นคิดดูแล้วก็พูดขึ้น

“ตอนนี้ทัพของข้าสามารถรวบรวมกำลังพลได้หนึ่งแสนหกหมื่นนาย มีราว ๆ หนึ่งหมื่นนายที่ไม่เคยได้รับการฝึกทหารมาก่อน จึงยังไม่เหมาะที่จะเข้าร่วมการรบครังใหญ่เช่นนี้ นั่นแปลว่าทัพของข้าตอนนี้ที่เข้าร่วมรวบได้มีราว ๆ หนึ่งแสนห้าหมื่นนาย ขณะที่โจวชิงมีทหารหนึ่งแสนกว่านาย...”

“อืม เรื่องกำลังพล กองทัพของข้าถือว่าได้เปรียบอยู่มาก ตอนนี้สิ่งที่ต้องคำนึงก็คือการต้องแบ่งทหารเป็นสองฝ่าย ทางหนึ่งให้โจมตีจากนอกด่านฝานหลง อีกทางเข้าจากด่านเฟิงเป่ย จากนั้นให้ทางใต้บุกเข้ามาพร้อมกัน ประกบโจมตีจากสองด้าน”

“แต่ว่า วิธีนี้จะไม่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นการแบ่งกำลังทหารออก เกรงว่าจะไม่พอต่อการที่ทัพใหญ่ของโจวชิงจะบุกทะลวงออกมา กลายเป็นว่าทัพของเราจะบาดเจ็บล้มตายกันมาก คิดว่าโจวชิงเองก็คงทำไปเพื่อป้องกันการถูกประกอบโจมตีจากเราเช่นกัน จึงได้บุกโจมตีด่านเฟิงเป่ยยามดึก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน