องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1447

หลี่จุ่นใครครวญอยู่ชั่วครู่

ดูเหมือนหนี้พ่อที่อยู่บนบ่าตนเองนั้นมีมากพอสมควร

โชคดีที่ศิษย์สำนักจิ่งไม่เอาความตนเอง ไม่อย่างนั้น วิบัติแน่…

แน่นอนว่า ยังมีซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ที่ยังไม่ฟื้น คนนี้ถึงจะเป็นศิษย์คนสำคัญของสำนักจิ่ง เป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจในตอนนี้ ถ้านางไม่เอาเรื่องถึงจะถือว่าพ้นภัย

แต่ถ้าจะเอาเรื่อง…เห็นทีว่าตนจะต้องทำเรื่องที่ผิดต่ออาจารย์และบรรพบุรุษถึงจะรอดพ้นวิบัติครั้งนี้!

หลังจากนั้น

ตอนนี้สหายบนกำแพงของตนอย่างเสี่ยวฮวนฮวนก็ดูเหมือนจะมีความแค้นกับตนเอง…

ตนเป็นแค่คนที่รับผลกระทบ ภัยร้ายเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขา ไม่ใช่เรื่องของเขา!

หลี่จุ่นส่ายหน้าเงียบๆ ให้ปันหมิ่นนวดตัวให้เขาต่อไป

ทันใดนั้นสีหน้าปันหมิ่นเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ

หนึ่งวันผ่านไป

ข่าวสารการสู้รบจากเมืองเฟิงหั่วและด่านเฟิงเป่ยก็มาถึงพร้อมกัน แจ้งว่ากองทัพสองกลุ่มของลัทธิขงจื๊อไม่สามารถทำอะไรพวกเขาได้ และถูกโจมตีถอยหลังไปหลายสิบลี้ ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์นิ่งเฉย

หลี่จุ่นได้รับข่าวสาร ทันใดนั้นสีหน้าก็เผยความพอใจ จากนั้นก็เรียกอวี่เหวินจิ้งมาปรึกษาหารือ

“ไท่ซือ ตอนนี้ลัทธิขงจื๊อไม่มีการโจมตีเข้ามา คาดว่าคงจะรอพวกเราเป็นฝ่ายบุกเข้าไป ส่วนซือหม่าหยวนก็ไม่มีการเคลื่อนไหว เกรงว่ากำลังรออะไรบางอย่าง เมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเราเป็นฝ่ายโจมตีเข้าไปก่อนเถอะ ระเบิดพวกเขาให้ย่อยยับ”

อวี่เหวินจิ้งฟังแล้ว ทันใดนั้นสีหน้าก็เผยความดีใจ และเอ่ยว่า

“มหาจักรพรรดิทรงปรีชาสามารถ!”

หลี่จุ่นยิ้มขึ้นมา จากนั้นก็โบกมืออันใหญ่ สั่งการออกไปว่า

“ไท่ซือ ท่านนำกองทัพสองแสนนาย มุ่งหน้าไปยังค่ายทหารของข้าศึกในระยะหนึ่งลี้ สั่งการให้ค่ายทหารปืนใหญ่นำปืนใหญ่สามพันกระบอกออกเดินทางไปด้วย ระเบิดค่ายข้าศึกในคืนนี้! ข้าอยากได้ยินเสียงระเบิด!”

“ขอรับ มหาจักรพรรดิ!”

อวี่เหวินจิ้งเผยสีหน้ายินดี และไปดำเนินการทันที!

หลังจากนั้น!

อวี่เหวินจิ้งเปี่ยมด้วยความฮึกเหิม เหมือนได้ย้อนเวลาไปในช่วงวัยหนุ่ม

มาถึงค่ายทหารอย่างองอาจห้าวหาญ เริ่มต้นการวางแผนทหาร จากนั้นก็นำกองทัพออกโจมตี!

“จอมทัพ แย่แล้ว ทหารสอดแนมรายงานเข้ามา มีกองทัพข้าศึกขบวนใหญ่ออกจากค่าย กำลังมุ่งหน้าบุกมาทางพวกเรา!”

กองทัพพันธมิตรของแคว้นเยียนกับแคว้นจ้าว ผู้บัญชาการจางเฟิงลู่นั่งศึกษาแผนที่แถบชายแดนอยู่ในกระโจม ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงรายงานอย่างเร่งรีบของทหารใต้บัญชา จึงสะดุ้งขึ้นมากะทันหัน

สีหน้าดุดันเคร่งขรึม จางเฟิงลู่ที่ร่างใหญ่กำยำหน้าตาไม่เลวก็ลุกขึ้นมา เอ่ยเสียงดังว่า

“สั่งการให้ทหารในกองทัพ เตรียมพร้อมออกศึก รับมือกับศัตรู!”

“ขอรับ!”

เมื่อคำสั่งถูกประกาศออกไป ทันใดนั้นทั้งค่ายทหารก็ตื่นตัวเคลื่อนไหวขึ้นมา!

ท่าทางจริงจังหนักแน่น ตั้งตารอคอยรับมือกับข้าศึก!

……

แคว้นหนาน

เมืองหลวง

ความมืดเข้ามาเยือน

ในเรือนแห่งหนึ่ง

จี้จงชิงพยักหน้าก่อนจะเอ่ยว่า

“กระหม่อมได้ยินมาบ้างแล้ว”

หลี่เจิ้งเผยรอยยิ้มที่ซาบซึ้ง จากนั้นก็เอ่ยถามว่า

“ไม่ทราบเรื่องที่วานให้อัครเสนาบดีจี้ไปจัดการราบรื่นดีหรือไม่?”

จี้จงชิงส่ายหน้า ยิ้มเจื่อนๆและเอ่ยว่า

“ฝ่าบาทน่าจะรู้ดีว่าหลี่โจ้วเป็นคนอย่างไร เขาไม่มีทางจะเชื่อใครได้ง่ายๆ แม้แต่ศิษย์น้องอย่างข้าก็ไม่ละเว้น กระหม่อมด้อยความสามารถ ไม่สามารถทำได้สำเร็จ”

หลี่เจิ้งถอนหายใจเฮือกหนึ่ง รู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย และเอ่ยว่า

“ช่างเถอะ เรื่องก็มาถึงจุดนี้แล้ว คงจะไม่ทัน ปล่อยไปเถอะ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้แล้ว หลังจากนี้อัครมหาเสนาบดีจี้มีแผนการอย่างไรต่อไป?”

ได้ยินดังนี้ องค์รัชทายาทที่อยู่ข้างกายจี้จงชิงก็หันมามอง จากนั้นก็ยิ้มพลางเอ่ยว่า

“ที่กระหม่อมมาในวันนี้ ก็เพื่อต้องการขอตัวองค์รัชทายาทจากฝ่าบาท กระหม่อมอยากจะพาพระองค์ไปท่องโลกภายนอก”

หลี่เจิ้มขมวดคิ้วเล็กน้อย มองดูองค์รัชทายาทหลี่ลี่

หลี่ลี่คุกเข่าก้มกราบหลี่เจิ้งทันที และเอ่ยว่า

“ขอเสด็จพ่อทรงอนุญาต กระหม่อมอยากไปท่องใต้หล้ากับอัครมหาเสนาบดีจี้!”

ทันใดนั้นสีหน้าของหลี่เจิ้งก็เผยความสับสน อ้าปากค้าง แต่สุดท้ายก็พยักหน้า และเอ่ยว่า

“ตกลง ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เสด็จพ่อก็จะไม่ขัดขวางเจ้า และเจ้าไม่ต้องกังวลทางด้านเสด็จแม่ นางอยู่กับข้า แต่ว่า ก่อนออกเดินทางไปเยี่ยมนางสักหน่อยเถิด”

หลี่ลี่เผยรอยยิ้มที่สับสน และก้มหัวคารวะหลี่เจิ้ง พร้อมกับกล่าวขอบคุณ

“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน