ทันทีที่ซือหม่าหยวนได้ยินเช่นนั้น เขาก็ชะงักสีหน้าไป
ไม่เอ่ยวาจาใดไปสักพัก
หลี่จุ่นยิ้มแล้วพูดต่อ “หากท่านไม่บอกข้ามา ข้าจักคิดว่าท่านมีเจตนาแอบแฝง วางแผนที่จะทำร้ายข้า ข้าจักจับท่านขังเอาไว้ เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ข้าจะตัดศีรษะท่านประจานต่อหน้าธารกำนัล”
ซือหม่าหยวน “...”
เหตุใดมหาจักรพรรดิแห่งจงหยวนเอะอะก็ข่มขู่ผู้คนตลอด?
ประเด็นคือการข่มขู่ของเขานั้น มักจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!
ซือหม่าหยวนเหลือบมองหลี่จุ่นโดยพูดไม่ออก กัดฟันอยู่เป็นเวลานาน อธิบายเห็นผลออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ก่อนที่ซือหม่าหยวนจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ยึดแคว้นจ้าวไว้ได้ ขุนนางหกกรมส่วนใหญ่ถูกหลี่เจิ้งฆ่าทิ้งไปนานแล้ว ซือหม่าหยวนจึงใช้อำนาจพระเดชและพระคุณเอาชนะขุนนางที่เหลืออยู่
หลังจากรวมแคว้นเยี่ยนและแคว้นจ้าวเข้าด้วยกัน เขาควบคุมเหล่าผู้หญิงและเด็กเล็กไว้ในเมืองหลวงแคว้นจ้าว โดยอ้างเหตุผลว่าทำเพื่อปกป้องครอบครัวของพวกเขา!
หนึ่งในนั้นมีครอบครัวของจางเฟิงลู่อยู่ที่เมืองหลวงแคว้นจ้าวด้วย พวกเขาจะอยู่หรือตายล้วนขึ้นอยู่การไตร่ตรองของซือหม่าหยวน
แม้ว่าปัจจุบันซือหม่าหยวนจะอยู่ในกองทัพจงหยวน แต่แค่เพียงเขาส่งจดหมายสั่งตัดศีรษะออกไป ก็ไม่มีอดีตคนนางแคว้นจ้าวคนใดที่อยู่ในเมืองหลวงแคว้นจ้าวโชคดีรอดไปได้ ถูกตัดศีรษะกันหมด
หลังจากที่หลี่จุ่นได้ยินดังนั้น เขาก็พยักหน้าฉับพลันทันที
เดาว่านี่คงมีแค่หนทางนี้ทางเดียวแล้ว
อย่างไรก็ตาม วิธีการของซือหม่าหยวนนั้นฟังดูมีเหตุผลและยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง
ขุนนางเหล่านั้นคงคิดว่าซือหม่าหยวนกำลังปกป้องครอบครัวของพวกเขาอยู่จริงๆ ทำให้พวกเขาสบายใจไร้กังวล แม้จะรู้ว่าซือหม่าหยวนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่พวกเขาก็เต็มใจยินยอม
“สมแล้วที่เป็นใต้เท้าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”
หลี่จุ่นพยักหน้าด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแล้วกล่าวชื่นชมเขา
นั่นทำให้ซือหม่าหยวนตื่นตระหนกอยู่ในใจ คิดว่ามหาจักพรรดิจงหยวนผู้นี้กำลังคิดวางแผนชั่วร้ายอีกแล้วแน่ ขณะนี้เขารู้สึกเสียดายที่บอกความจริงกับเขาไป
จากนั้นหลี่จุ่นก็ยิ้มแล้วพูดว่า
“ใต้เท้าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ตอนนี้ข้ามีคำตอบให้กับคำถามของท่านแล้วว่าข้าจะต่อสู้กับหลี่โจ้วโดยไร้กังวลได้อย่างไร? นั่นเป็นเพราะตอนนี้ใต้เท้าอยู่ในกำมือของข้า จะอยู่หรือตายก็ขึ้นอยู่กับการไตร่ตรองของข้า”
ซือหม่าหยวน “...”
แม้ว่าภูเขากวนจะถูกเรียกว่าภูเขากวน ทว่าที่จริงแล้วกลับเป็นที่ราบ มีเพียงภูเขาเล็กๆ อยู่เพียงลูกหนึ่ง จึงถูกตั้งชื่อตามนั้น
บนดินแดนที่ราบอันกว้างใหญ่นี้ กองทัพทั้งสองประจันหน้า ทางเดียวที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือการพุ่งตัวเข้าสังหารศัตรู ผู้ที่แข็งแกร่งจะเป็นผู้ชนะ!
อวี่เหวินจิ้งเสนอคำแนะนำทันทีว่า
“มหาจักรพรรดิ ข้าน้อยคิดว่ารอและชะลอเวลาในการต่อสู้กับทัพศัตรู รอให้กองกำลังของจอมทัพจ้าวผ่านจวนชายแดนตะวันตกแล้วเข้ามาเสริมกำลังเสียก่อนจึงค่อยรวมพลังกันโจมตีศัตรูขอรับ!”
หลี่จุ่นครุ่นคิด หลังจากพยักหน้าเล็กน้อย เขาก็เรียกแม่ทัพของแต่ละกองทัพเข้ามาและปรึกษาหารือกัน ท้ายที่สุดพวกเขาลงความเห็นกันว่าวิธีการของอวี่เหวินจิ้งนั้นฟังดูเข้าท่า
หลี่จุ่นไม่เห็นด้วย คัดค้านทันที แล้วสั่งให้ตั้งปืนใหญ่ขึ้น!
เขาไม่ต้องการเสียเวลาไร้สาระ ใช้ปืนใหญ่ระเบิดกองทัพของหลี่โจ้วไปเสีย!
ระยะการยิงของปืนใหญ่ของเขานั้นไกลกว่าของหลี่โจ้วมากโข ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลกับมันมากนัก แต่ระยะห่างของกองทหารของทั้งสองฝ่ายนั้นไม่ไกลกันมากนัก จึงยังไม่แน่ชัดว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ!
ในเมื่อเราโจมตีได้ เหตุใดใยต้องมามัวกังวลอีกเล่า?
โจมตี!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...