องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1472

ทันทีที่ซือหม่าหยวนได้ยินเช่นนั้น เขาก็ชะงักสีหน้าไป

ไม่เอ่ยวาจาใดไปสักพัก

หลี่จุ่นยิ้มแล้วพูดต่อ “หากท่านไม่บอกข้ามา ข้าจักคิดว่าท่านมีเจตนาแอบแฝง วางแผนที่จะทำร้ายข้า ข้าจักจับท่านขังเอาไว้ เมื่อสงครามสิ้นสุดลง ข้าจะตัดศีรษะท่านประจานต่อหน้าธารกำนัล”

ซือหม่าหยวน “...”

เหตุใดมหาจักรพรรดิแห่งจงหยวนเอะอะก็ข่มขู่ผู้คนตลอด?

ประเด็นคือการข่มขู่ของเขานั้น มักจะไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!

ซือหม่าหยวนเหลือบมองหลี่จุ่นโดยพูดไม่ออก กัดฟันอยู่เป็นเวลานาน อธิบายเห็นผลออกมาอย่างช่วยไม่ได้

ก่อนที่ซือหม่าหยวนจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ยึดแคว้นจ้าวไว้ได้ ขุนนางหกกรมส่วนใหญ่ถูกหลี่เจิ้งฆ่าทิ้งไปนานแล้ว ซือหม่าหยวนจึงใช้อำนาจพระเดชและพระคุณเอาชนะขุนนางที่เหลืออยู่

หลังจากรวมแคว้นเยี่ยนและแคว้นจ้าวเข้าด้วยกัน เขาควบคุมเหล่าผู้หญิงและเด็กเล็กไว้ในเมืองหลวงแคว้นจ้าว โดยอ้างเหตุผลว่าทำเพื่อปกป้องครอบครัวของพวกเขา!

หนึ่งในนั้นมีครอบครัวของจางเฟิงลู่อยู่ที่เมืองหลวงแคว้นจ้าวด้วย พวกเขาจะอยู่หรือตายล้วนขึ้นอยู่การไตร่ตรองของซือหม่าหยวน

แม้ว่าปัจจุบันซือหม่าหยวนจะอยู่ในกองทัพจงหยวน แต่แค่เพียงเขาส่งจดหมายสั่งตัดศีรษะออกไป ก็ไม่มีอดีตคนนางแคว้นจ้าวคนใดที่อยู่ในเมืองหลวงแคว้นจ้าวโชคดีรอดไปได้ ถูกตัดศีรษะกันหมด

หลังจากที่หลี่จุ่นได้ยินดังนั้น เขาก็พยักหน้าฉับพลันทันที

เดาว่านี่คงมีแค่หนทางนี้ทางเดียวแล้ว

อย่างไรก็ตาม วิธีการของซือหม่าหยวนนั้นฟังดูมีเหตุผลและยุติธรรมเป็นอย่างยิ่ง

ขุนนางเหล่านั้นคงคิดว่าซือหม่าหยวนกำลังปกป้องครอบครัวของพวกเขาอยู่จริงๆ ทำให้พวกเขาสบายใจไร้กังวล แม้จะรู้ว่าซือหม่าหยวนกำลังคิดอะไรอยู่ แต่พวกเขาก็เต็มใจยินยอม

“สมแล้วที่เป็นใต้เท้าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”

หลี่จุ่นพยักหน้าด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มแล้วกล่าวชื่นชมเขา

นั่นทำให้ซือหม่าหยวนตื่นตระหนกอยู่ในใจ คิดว่ามหาจักพรรดิจงหยวนผู้นี้กำลังคิดวางแผนชั่วร้ายอีกแล้วแน่ ขณะนี้เขารู้สึกเสียดายที่บอกความจริงกับเขาไป

จากนั้นหลี่จุ่นก็ยิ้มแล้วพูดว่า

“ใต้เท้าอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ตอนนี้ข้ามีคำตอบให้กับคำถามของท่านแล้วว่าข้าจะต่อสู้กับหลี่โจ้วโดยไร้กังวลได้อย่างไร? นั่นเป็นเพราะตอนนี้ใต้เท้าอยู่ในกำมือของข้า จะอยู่หรือตายก็ขึ้นอยู่กับการไตร่ตรองของข้า”

ซือหม่าหยวน “...”

แม้ว่าภูเขากวนจะถูกเรียกว่าภูเขากวน ทว่าที่จริงแล้วกลับเป็นที่ราบ มีเพียงภูเขาเล็กๆ อยู่เพียงลูกหนึ่ง จึงถูกตั้งชื่อตามนั้น

บนดินแดนที่ราบอันกว้างใหญ่นี้ กองทัพทั้งสองประจันหน้า ทางเดียวที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือการพุ่งตัวเข้าสังหารศัตรู ผู้ที่แข็งแกร่งจะเป็นผู้ชนะ!

อวี่เหวินจิ้งเสนอคำแนะนำทันทีว่า

“มหาจักรพรรดิ ข้าน้อยคิดว่ารอและชะลอเวลาในการต่อสู้กับทัพศัตรู รอให้กองกำลังของจอมทัพจ้าวผ่านจวนชายแดนตะวันตกแล้วเข้ามาเสริมกำลังเสียก่อนจึงค่อยรวมพลังกันโจมตีศัตรูขอรับ!”

หลี่จุ่นครุ่นคิด หลังจากพยักหน้าเล็กน้อย เขาก็เรียกแม่ทัพของแต่ละกองทัพเข้ามาและปรึกษาหารือกัน ท้ายที่สุดพวกเขาลงความเห็นกันว่าวิธีการของอวี่เหวินจิ้งนั้นฟังดูเข้าท่า

หลี่จุ่นไม่เห็นด้วย คัดค้านทันที แล้วสั่งให้ตั้งปืนใหญ่ขึ้น!

เขาไม่ต้องการเสียเวลาไร้สาระ ใช้ปืนใหญ่ระเบิดกองทัพของหลี่โจ้วไปเสีย!

ระยะการยิงของปืนใหญ่ของเขานั้นไกลกว่าของหลี่โจ้วมากโข ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลกับมันมากนัก แต่ระยะห่างของกองทหารของทั้งสองฝ่ายนั้นไม่ไกลกันมากนัก จึงยังไม่แน่ชัดว่าใครจะเป็นฝ่ายชนะ!

ในเมื่อเราโจมตีได้ เหตุใดใยต้องมามัวกังวลอีกเล่า?

โจมตี!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน