หลี่จิ้งไม่ต้องการไป
แม้ว่าเขาต้องการจะฆ่าหลี่จุ่น แต่เขาก็รู้จักประเมินตน
ตอนนี้หากเทียบกับหลี่จุ่นแล้ว นอกจากมีอายุมากกว่าแล้ว นอกนั้นก็เอาชนะเขาไม่ได้เลย
มีแต่จะเสียเปรียบก็เท่านั้น
ทว่าท่านปู่ท่านนี้ที่กลายมาเป็นเสด็จพ่อของเสด็จพ่อของตนได้เอ่ยปากแล้ว จักไม่ไปได้หรือ?
ไม่ได้
หากไม่ไปก็หมายความเขาไม่รักษาหน้าท่าน หากไม่รักษาหน้า แล้วเขาจะเป็นนายน้อยเจ้าสำนักที่ดีได้อย่างไร?
ทันใดนั้นหลี่จิ้งก็แอบถอนหายใจ กัดฟันรับคำสั่ง
“พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ!”
หลี่โจ้วพูดด้วยใบหน้าอันมีเมตตาว่า
“หากเจ้าต้องการอะไร บอกกับข้ามาได้เลย ข้าจะหามาให้”
หลี่จิ้งครุ่นคิดแล้วพูดว่า
“ข้าต้องการยืมกำลังคน...จากเสด็จพ่อ!”
หลี่โจ้วพยักหน้าทันทีและพูดว่า “ไม่มีปัญหา!”
“ขอขอบพระคุณเสด็จพ่อ! ข้าจักทำให้สำเร็จ!” หลี่จิ้งมีสีหน้าเคร่งขรึม
หลี่จิ้งออกไปแล้ว!
“กราบทูลท่านมหาจักรพรรดิ ผู้บังคับกองพันค่ายทหารปืนใหญ่ จ้าวต้าเฉียนขอรายงานสถานการณ์ขอรับ! ผู้ใต้บังคับบัญชาได้รวบรวมปืนใหญ่ ทั้งหมดหนึ่งหมื่นกระบอกแล้ว โดยทั้งหมดมุ่งเป้าไปที่ค่ายทหารของศัตรู ขอเพียงรอให้มหาจักรพรรดิออกคำสั่ง ก็จักดำเนินการทำลายทัพศัตรูทันทีขอรับ!
จ้าวต้าเฉียน โค้งคำนับลง ณ กลางกระโจม ขนาบข้างด้วยกลุ่มนายพลและกุนซือ
ศึกครั้งนี้ไม่มีผู้ใดแนะนำให้โจมตี ทว่าหลี่จุ่นยืนกรานที่จะต่อสู้
ดังนั้นขุนนางฝ่ายบุ๋นและบู๊เหล่านี้ยังยากที่ยอมรับได้
ทว่า ในปีนั้นที่มหาจักรพรรดิต่อสู้แบบคลาสสิค โดยเฉพาะการต่อสู้กับชายแดนทางตอนเหนือ ถือเป็นสีสันที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง
ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าคัดค้าน
เวลานี้ เมื่อหลี่จุ่นได้ยินคำพูดของจ้าวต้าเฉียน เขาก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ จากนั้นก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า
“รอให้มืดค่ำเสียก่อน แล้วลงมือทันที!”
“พ่ะย่ะค่ะ มหาจักรพรรดิ!” จ้าวต้าเฉียนรับคำสั่งมาทันที ในใจตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
ขุนนางฝ่ายบู๊และบุ๋นในกระโจมต่างพากันมีสีหน้าคร่ำเครียด หลายคนพากันซุบซิบด้วยความเป็นกังวล
อวี่เหวินจิ้งก้าวไปข้างหน้าทันทีแล้วถามว่า
“โปรดบอกทีท่านมหาจักรพรรดิ ถ้ากองทัพของเราเปิดศึกการโจมตีด้วยปืนใหญ่ ศัตรูก็จะตอบโต้อย่างแน่นอนซึ่งอาจทำให้ทหารของเราบาดเจ็บล้มตายได้ ข้าน้อยขอเสนอว่าให้เราถอยหลังไปสักสามลี้ขอรับ!”
“ใช่แล้ว ดีเลย!”
“ที่ไท่ซือพูดนั้นมีเหตุผล!”
“ข้าเห็นด้วย!”
“ฟังท่านไท่ซือเถิด!”
“...”
หลี่จุ่นได้ยินเช่นนั้นแล้วจึงพยักหน้า มองดูอวี่เหวินจิ้ง แล้วพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม
ปันหมิ่นกระโจนตัวขึ้นมาทันทีราวกับแมวขนพองที่กระโดดขึ้นมา มองหน้าหลี่จุ่นพร้อมกับความเขินอายที่ปรากฏท่วมท้นบนดวงหน้า จ้องมองไปที่หลี่จุ่นอย่างดุเดือด
หลี่จุ่นพูดด้วยรอยยิ้มขี้เล่นว่า
“แม่หญิง เจ้าจงจำไว้เสีย ข้าเป็นผู้ชายทั่วไป หากเจ้าไม่อยากถูกข้านำตัวเข้าวังหลังแล้วล่ะก็ จงแต่งตัว...ให้มิดชิดกว่านี้หน่อย”
ขณะที่เขาพูด หลี่จุ่นก็จงใจมองไปที่หน้าอกของเธอที่เผยให้เห็นผิวขาวนวลเป็นบริเวณกว้าง
“ท่าน! อ๊าๆๆ~”
ปันหมิ่นทั้งอายทั้งโกรธ ปิดหน้าอกตัวเองไว้ทันทีและกระโดดโวยวายด้วยความโมโห
“ฮ่าๆๆ ~”
เมื่อได้หยอกล้อผู้หญิงอกใหญ่ไร้สมองผู้นี้ หลี่จุ่นก็อารมณ์ดีขึ้นมาก จากนั้นเขาก็หันหลังแล้วเดินออกไปจากกระโจมทัพ
ตะวันค่อยๆ ลับฟ้า
คืนอันเงียบสงบ มักจะซ่อนความอาฆาตเอาไว้
หลี่จุ่นสวมชุดเกราะเบา นั่งอยู่บนหลังม้า มองดูค่ายทหารของขงจื๊ออยู่บนเนินเขา
ทางซ้ายและขวาคือหม่าหยวนฮั่นและซ่งเซี่ยงอวี่ขี่ม้าออกมาเพื่อปกป้องเขา
ทั้งสองไม่กล้าชะล่าใจ มองไปรอบ ๆ ตัวพวกเขาอย่างระมัดระวัง
“เริ่มแล้ว”
หลี่จุ่นเอ่ยปากพูดเบาๆ
ระยะไกลออกไป มีไฟระเบิดขึ้น ตามมาด้วยเสียงกึกก้อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...