องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 43

“ไม่เป็นไร น้องหกไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ยอมให้เราถูกคัดออกแน่ ๆ”

เมื่อหลี่เหวินจวินเห็นสีหน้าที่กังวลใจของหลี่จุ่น นางก็คิดได้ทันทีว่าหลี่จุ่นล่ากวางไม่ได้สักตัวเดียว นางจึงปลอบอย่างอ่อนโยน

“ได้ ได้เลย พี่หญิง...”

หลี่จุ่นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้บอกหลี่เหวินจวินว่าเขาล่ากวางไปแล้วสามตัว

หลี่เหวินจวินจัดผมและเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงของหลี่จุ่นอย่างอ่อนโยน และพูด

“น้องหก ในเมื่อเจ้าอยู่นี่แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็มากับข้าเถิด”

ไปกับท่าน?

ไปทางไหน

แล้วเขาจะใช้ ‘หิน’ ล่าสัตว์ได้ยังไงล่ะ

แบบนั้นไม่ได้เลย!

หลี่จุ่นพูดขึ้นทันที “พี่หญิง ข้าว่าเราแยกกันไปคนละทางจะดีกว่า เป็นแบบนี้เราจะได้หาเหยื่อได้มาก”

หลี่เหวินจวินขมวดคิ้วเบา ๆ นางไม่ได้บังคับอะไรต่อแต่กลับพูดด้วยสายตาที่ผิดหวังเล็กน้อย

“อย่างนั้นก็ได้ น้องหก เจ้าต้องระวังตัวและและดูแลตัวเองดี ๆ นะ”

“ได้ พี่หญิงเองก็ต้องระวังตัวด้วย”

หลี่จุ่นไม่ได้พูดอะไรต่อ เขารีบดึงม้าของตัวเองออกมา โบกมือให้หลี่เหวินจวิน และขี่ออกไปทันที

หลี่เหวินจวินมองแผ่นหลังของหลี่จุ่น ถอนหายใจออกมาอย่างเงียบ ๆ และเผยแววตาที่มีความรู้สึกแปลก ๆ

หลังจากนั้นก็ขี่ม้าเดินหน้าต่ออีกครั้ง

หลี่จุ่นเดินไปอย่างช้า ๆ บนที่ราบ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เห็นกวางอีกหนึ่งตัว เขาหยิบหน้าไม้ออกมาทันที เดินเข้าไปใกล้กวางอย่างช้า ๆ และยิงมันตอนที่มันไม่ทันได้ระวังจนสำเร็จ

เขาพลิกตัวลงจากหลังม้าและทำแบบเดิม

หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยและกำลังหาที่ซ่อนกวางที่ตายแล้ว ทันใดนั้นก็มีดอกไม้ไฟดอกหนึ่งพุ่งขึ้นบนท้องฟ้า!

มันคือพลุสัญญาณ!

ดวงตาของหลี่จุ่นเป็นประกาย

เขาพยายามมัดกวางที่ตายแล้วไว้กับม้าทันที จากนั้นจึงรีบขี่ม้าไปยังตำแหน่งที่พลุสัญญาณถูกยิงขึ้นไป

“องค์ชาย!”

ไม่นานหลี่จุ่นก็เห็นหยางจงซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เมื่อเขาเห็นหลี่จุ่นมาถึง เขาก็วิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

หลี่จุ่นถามขึ้น “เหยื่ออยู่ที่ไหน”

หยางจงรีบเดินนำหลี่จุ่นไปข้างหน้า และหลี่จุ่นก็เห็นกวางหกตัวเล็มหญ้าอย่างช้า ๆ ในพื้นที่โล่งเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลออกไป โดยที่พวกมันไม่ได้รู้ถึงอันตรายใด ๆ ที่กำลังคืบคลานเข้ามาใกล้เลย

“เยี่ยมมาก หัวหน้าขันทีหยาง ทำได้ดีมาก!” สีหน้าท่าทางของหลี่จุ่นดูมีความสุขมาก และรีบกล่าวชมหยางจงทันที

หยางจงยิ้มหน้าบานด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ “นี่คือสิ่งที่บ่าวควรทำพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่จุ่นปลดกวางที่ตายแล้วออกจากหลังม้าแล้วพูดว่า “หัวหน้าขันทีหยาง คอยสังเกตการณ์รอบ ๆ ถ้ามีใครมา รีบบอกข้าทันที!”

จากนั้นเขาก็ถือหน้าไม้แล้วขี่ม้าไปทางกลุ่มกวางเพื่อล่ามันทันที!

จู่ ๆ หยางจงก็รู้สึกกังวลขึ้นมาและจับจ้องดูการล่าสัตว์ของหลี่จุ่น

หลังจากผ่านไปหนึ่งก้านธูป หลี่จุ่นก็ลากกวางที่ล่าได้สามตัวกลับมาด้วยความเสียใจ

ท้ายที่สุดแล้วทักษะการยิงธนูและขี่ม้าของเขาก็แย่เกินไป ไม่อย่างนั้นกวางทั้งหกตัวคงจะไม่สามารถหนีเขาไปได้ สุดท้ายแล้วเขาที่ไล่ล่าพวกมันอยู่นานก็ประสบความสำเร็จในการล่าได้เพียงแค่สามตัวเท่านั้น

ต้องยกความดีความชอบให้หน้าไม้อันนี้ ไม่อย่างนั้นก็คงจะเหนื่อยเปล่า

“องค์ชาย ไม่เลวเลยพ่ะย่ะค่ะ”

หยางจงเห็นสีหน้าเศร้าเสียใจของหลี่จุ่นก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อปลอบใจเขาทันที

แต่หยางจงก็รู้สึกว่าหลี่จุ่นทำได้ดีแล้ว และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่องค์ชายได้ออกล่าสัตว์ด้วย

หลี่จุ่นส่ายหัวและไม่พูดอะไร

เขาสั่งให้หยางจงจัดการกับกวางที่ตายแล้วทั้งสามตัวเหมือนที่ทำก่อนหน้านี้

ก่อนหน้านี้หยางจงรู้สึกประหลาดใจ แต่ต่อมาเขากลับเลื่อมใสในความอัจฉริยะของหลี่จุ่น สมแล้วที่เป็นองค์ชายของตนเอง เฉลียวฉลาดไม่มีใครเทียบได้จริง ๆ

หลังจากที่ทั้งสองจัดการกับกวางทั้งสามตัวเสร็จและซ่อนพวกมันไว้ พวกเขาก็แยกย้ายกันไปอีกรอบ

เวลาผ่านไป

คนจากกลุ่มอื่นก็ทยอยขึ้นมาบนภูเขา แต่สิ่งที่น่าแปลกก็คือดอกไม้ไฟหลากสีจะเบ่งบานบนท้องฟ้าเป็นครั้งคราวซึ่งทำให้ทุกคนที่อยู่ในภูเขาต่างก็รู้สึกประหลาดใจ

ไม่รู้ว่านี่คือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอะไร

มันช่างแปลกประหลาด

ปรากฏการณ์นี้ทำให้หลี่เจิ้งที่อยู่ในตำหนักเฟิงหยางของสวนชั้นในรู้สึกตื่นตระหนก

“หัวหน้าขันทีหวัง ตรวจดูแล้วใช่หรือไม่ นั่นมันคืออะไรกันแน่”

หลี่เจิ้งและหวังเหลียนยืนอยู่ด้วยกันในสวน พวกเขาเพิ่งเห็นดอกไม้ไฟบนท้องฟ้า แต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ก่อนหน้านี้มีคนรายงานว่า ปรากฏการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้วหลายครั้ง และได้ส่งองครักษ์ไปตรวจสอบแล้ว

หวังเหลียนพูดขึ้น “ฝ่าบาท องครักษ์ที่ส่งไปตรวจสอบบนภูเขายังไม่ได้ส่งข่าวคราวใด ๆ กลับมาเลยพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่เจิ้งขมวดคิ้วเล็กน้อย “มันคือสิ่งใดกันแน่ เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติหรือสิ่งใดกัน”

หวังเหลียนก็สงสัยเช่นกัน “ฝ่าบาท อาจจะมีสิ่งแปลกประหลาดในภูเขาที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้นะพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่เจิ้งพยักหน้าและพูด “อืม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าต้องรู้ให้ได้ว่าสิ่งใดกันแน่ที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้!”

“พ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!”

หวังเหลียนถอยตัวออกไปด้วยความเคารพและจัดองครักษ์เข้าไปในภูเขาเพื่อตรวจสอบเพิ่ม

ในขณะนั้น หลี่จุ่นและหยางจงก็เก็บผลผลิตได้มากมาย ไป ๆ มา ๆ พวกเขาก็ล่าได้ถึงสิบหกตัว

เนื่องจากมีพลุสัญญาณทั้งสองจึงแยกทางกันและพบเจอเหยื่ออย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีหน้าไม้ที่เพิ่มความความสะดวกสบาย จึงมีเหยื่อเพียงไม่กี่ตัวที่สามารถหนีจากเงื้อมมือของหลี่จุ่นได้

และพวกเขาทั้งสองก็ไม่รู้ว่าการใช้พลุสัญญาณนั้นนำมาซึ่งความวุ่นวายบางอย่างตามมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน