ขึ้นเหนือมาครานี้จี้จงชิงนำพระราชโองการมาสองฉบับ หนึ่งในโองการนั้นคือที่พวกหลินชิงสามคนได้รับไปเมื่อตอนกลางวันนั่น
อีกโองการหนึ่ง เป็นเพียงผ้าขาวที่ประทับตราประทับหยกไว้แผ่นหนึ่ง และเนื้อหาในนั้นจี้จงชิงจะเขียนลงไปโดยดูจากสถานการณ์
นี่เป็นการเตรียมการเพื่อรับช่วงต่ออำนาจทางทหาร
ก่อนหน้านี้ไม่มั่นใจว่าจะรับช่วงต่ออำนาจทหารได้สำเร็จหรือไม่ ด้วยเหตุนี้จึงปล่อยว่างเอาไว้ ตอนนี้กลยุทธ์ทั้งหมดที่หลี่จุ่นวางแผนเอาไว้ ก็จัดการไปเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้นสำหรับเนื้อหาในพระราชโองการจึงเขียนลงไปตามเนื้อหาความเป็นจริงก็สิ้นเรื่องแล้ว
เมื่ออาหยวนที่อยู่ข้างๆ ได้ฟังบทสนทนาของทั้งสอง ในใจก็ตึงเครียดอยู่เล็กน้อย รู้สึกถึงความน่าตกตะลึงอยู่หน่อยๆ นางรู้เรื่องที่หลี่จุ่นจะรับช่วงต่อคุมอำนาจทหาร แต่ไม่นึกว่าจะเร็วขนาดนี้
วันหน้าจะรับช่วง...เหลือเวลาเพียงแค่หนึ่งวันแล้ว!
จี้จงชิงพยักหน้าแล้วค่อย ๆ เอ่ยถามขึ้นว่า
“เรื่องศึกครั้งนี้ไม่ง่าย วันนั้นท่านอ๋องวิเคราะห์กับข้าอย่างชัดเจนแล้ว แต่ว่าจะช่วยแคว้นหลาง ท่านอ๋องมีกลยุทธ์ที่แล้วหรือ?”
“ข้าคิดว่า ครานี้ผู้ที่ช่วยแคว้นหลางได้มีเพียงแค่เหยียนอ๋องเท่านั้น แต่ทว่าเหยียนอ๋องเคลื่อนพลไปยังชายแดนตะวันตกจริงๆ เข้าไปในเขตแดนของแคว้นหลาง เช่นนั้นราชวงศ์ของเราก็อันตรายแล้ว”
เมื่อหลี่จุ่นได้ฟัง ก็เพียงแค่ขมวดคิ้วแล้วหยิบเบี้ย “ม้า” ของจี้จงชิงขึ้นมาตัวหนึ่ง ถึงค่อยๆ สบายใจขึ้นมา จากนั้นก็หัวเราะพลางเอ่ยชืดๆ ว่า
“ท่านอัครมหาเสนาบดี นี่เป็นความลับทางทหาร เพื่อป้องการการรั่วไหล ข้ารู้อยู่แก่ใจก็พอ เพียงแต่ถึงเวลานั้นไม่ว่าอย่างไรท่านอัครมหาเสนาบดีก็ต้องหนุนหลังข้าผู้แซ่หลี่นะ”
ไม่หนุนหลังก็ไม่เป็นไร หากถึงเวลานั้นตัวเขามีอำนาจทหารอยู่ในมือ และทัพใหญ่เองก็ฟังคำสั่งของเขา อย่างมากหากจี้จงชิงไม่เชื่อฟังก็แค่จับมัดเอาไว้ก็สิ้นเรื่องแล้ว
ไม่จำเป็นต้องพูดเพ้อเจ้อ!
เรื่องนี้เขาหลี่จุ่นทำได้!
เมื่อได้ยินดังนั้น จี้จงชิงก็ขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ท่านอ๋อง เรื่องทางหทารไม่ใช่การละเล่นของเด็ก ข้าจำเป็นต้องรู้แผนของท่านอ๋อง...”
แต่ทว่า!
หลี่จุ่นรีบพูดแทรกเขา แล้วหยิบเบี้ย “ทหารปืนใหญ่” ของเขาออกไปตัวหนึ่งอย่างแข็งกร้าว ก่อนจะเอ่ยขึ้นชืดๆ ว่า
“ทำไมหรือ? ฝ่าบาทกับท่านอัครมหาเสนาบดีจี้ต่างเชื่อในตัวข้าผู้แซ่หลี่ ก็เลยให้ข้าผู้แซ่หลี่ขึ้นเหนือมาไม่ใช่หรือ? ตอนนี้ความเชื่อใจนี้หายไปหมดแล้วหรือ? เป็นสิ่งต้องห้ามนะ ก่อนจะถึงช่วงเวลาศึกนี้”
จี้จงชิงขมวดคิ้วเข้าหากันเป็นปมแน่นยิ่งขึ้น พลางมองกระดานหมากรุก
และไม่รู้ว่าเป็นเพราะเบี้ย “ทหารปืนใหญ่” ของตนถูกกิน หรือเป็นเพราะคำพูดของหลี่จุ่น ถึงได้ทำให้เขาขมวดคิ้วแบบนี้
“ท่านอัครมหาเสนาบดีวางใจเถิด ข้าผู้แซ่หลี่อยากไปจากชายแดนทางตอนเหนือทั้งยังมีชีวิตอยู่ กลับไปยังเมืองหลวงเป็นๆ ด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจได้เลย ขอเพียงแค่ท่านอัครมหาเสนาบดีร่วมมือจัดการเรื่องกับข้าผู้แซ่หลี่ก็เพียงพอแล้ว ส่วนเรื่องข่าวนี้ สำคัญเป็นอย่างมาก ยังหวังว่าท่านอัครมหาเสนาบดีจะทำอย่างสุดความสามารถ” หลี่จุ่นเอ่ย
จี้จงชิงชำเลืองมองเขาทีหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “เรื่องนี้ท่านวางใจได้เลย ฝ่าบาทต้องการให้ข้าร่วมมือกับท่าน ย่อมต้องทำอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว”
หลังจากนั้น เขาถอนหายใจ ก่อนจะค่อยๆ เอ่ยขึ้นว่า “ก็ดี ในเมื่อท่านอ๋องมีแผน เช่นนั้นก็ดูท่านอ๋องแล้ว เพียงแต่ข้ายังต้องพูดมากอีกสักประโยค ชายแดนทางตอนเหนือสำคัญเป็นอย่างมาก ไม่ว่าอย่างไรจะขาดการคุ้มกันไม่ได้”
“แน่นอนอยู่แล้ว” หลี่จุ่นพยักหน้า
ในขณะนี้เองจี้จงชิงถึงค่อยๆ ล้วงป้ายทองออกมาจากในอกป้ายหนึ่ง แล้วส่งให้หลี่จุ่น จากนั้นก็บอกเนื้อหาในพระราชโองการที่มอบให้กับพวกหลินชิงสามคนให้เขาฟังอย่างง่าย ๆ จากนั้นเอ่ยขึ้นว่า
“ตอนนี้ท่านเป็นผู้ตรวจการทางทหารแห่งพื้นที่ทางเหนือ มีอำนาจตัดสินใจด้วยตัวเองโดยไม่ต้องรอขออนุญาตจากฝ่าบาท หากรับช่วงต่อคุมอำนาจทหารไม่สำเร็จ คิดว่าก็สามารถอาศัยฐานะนี้แสดงความสามารถออกมาได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...
หายเงียบเลยยยยรอตอนต่อไปนานแล้วนะะะะะเมื่อไหร่จะอัพเพิ่มมมมมมมมมมม...
มีชื่อภาษาอังกฤษของนิยายเรื่องนี้ไหมครับ...
อยากให้ อัพ ต่อครับ รอนะครับ...
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
ตอนที่203หาย...
ไม่ update มาหลายวันแล้วครับ...
เรื่องนี้สนุกมากครับ ติดตามแล้ว update ช้าและน้อยไปนะครับ แค่วันละ 2 chapter ขอแนะนำให้เพิ่เป็นวันละ 5 Chapter ครับ...
ตอน 203 หาย...