“เราสืบมาว่าคาราวานพ่อค้าที่น้องสาวข้าติดตามไปด้วยถูกโจรขี่ม้าโจมตี น้องสาวข้าและคนในคาราวานพ่อค้าถูกโจรขี่ม้าลักพาตัวไปหมดเลย...”
โจรขี่ม้า? !
ทันใดนั้นดวงตาของหลี่จุ่นก็เปลี่ยนไป และพูดเสียงเข้ม “ตอนนี้มีสงครามปะทุขึ้นที่ชายแดนทางตอนเหนือ พวกโจรขี่ม้าที่ไหนที่กล้ามาก่อความวุ่นวายอีก”
อาหยวนก็ประหลาดใจเช่นกัน พวกโจรที่กล้าออกมาในเวลานี้ช่างใจกล้ามาก พวกเขาไม่กลัวการปะทะกับกองทัพจากแคว้นต่าง ๆ และถูกกวาดล้างงั้นหรือ
เสิ่นเลี่ยรีบอธิบายทันที “น่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่ชายแดนทางตอนเหนือยังไม่ได้ทำสงครามกับแคว้นเฟิงเฉวี่ยน”
หลี่จุ่นถามเสียงเข้ม “พี่เขย ถ้าอย่างนั้นพวกท่านรู้หรือไม่ว่าตอนนี้โจรขี่ม้าอยู่ที่ใด”
เสิ่นเลี่ยกล่าว “รู้ พี่หม่าและข้าไม่ได้รับอะไรเลยหลังจากไปที่แคว้นเฟิงเฉวี่ยน หลังจากนั้นเราก็ไปที่มุมซีเป่ยและในที่สุดก็ได้รับข่าวจากน้องสาวข้า เรารู้มาจากชาวบ้านในหมู่บ้านละแวกใกล้เคียงว่าที่นั่นมีกลุ่มโจรขี่ม้ายึดภูเขาเป็นราชา น้องสาวของข้าถูกกลุ่มโจรขี่ม้าลักพาตัวไป เดิมทีข้ากับพี่หม่าวางแผนจะช่วยเหลือพวกเขาเอง แต่ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะมีจำนวนมากขนาดนั้น เราจึงต้องล่าถอยแล้วมาหาท่านจอมทัพเพื่อยืมกองกำลัง”
“มุมซีเป่ย?”
หลี่จุ่นรีบหันกลับไปมองดูแผนที่แล้วพูดว่า “พี่เขย ท่านยังจำได้หรือไม่ว่าอยู่ตรงช่วงใด”
ไม่แปลกใจว่าทำไมเสิ่นเลี่ยและลัทธิเทียนซานนั่นจะไม่ได้เจอพวกเขาตอนกลับมา ที่แท้พวกเขาก็ไปที่มุมซีเป่ย ซึ่งถ้าเป็นมุมซีเป่ยก็แน่นอนว่าจะต้องไม่เจอกองทัพของเขา
เสิ่นเลี่ยลุกขึ้นยืนทันที ดูแผนที่ สักพักก็ชี้ไปที่ภูเขาแล้วพูดว่า
“มันน่าจะอยู่ที่นี่ ชาวบ้านเคยบอกว่าภูเขาลูกนี้เรียกว่าเขาเฟิงโหยว เราไปสำรวจมาแล้ว ในรัศมีร้อยลี้นี้มีภูเขาลูกนี้เพียงลูกเดียวเท่านั้น”
ทางตอนเหนือส่วนใหญ่จะถูกปกคลุมด้วยทุ่งหญ้า และเห็นภูเขาน้อยมาก ดังนั้นจึงเป็นไปได้น้อยมากที่เสิ่นเลี่ยจะพลาด
เมื่อเห็นที่ตั้งของภูเขา ดวงตาของหลี่จุ่นก็หรี่ลงและขมวดคิ้วเล็กน้อย
เขาเฟิงโหยวนั่นอยู่ไม่ไกลจากแคว้นเฟิงเฉวี่ยน ห่างออกไปประมาณห้าสิบถึงหกสิบลี้ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของสงคราม ฮูเถี่ยถูจะมีหน่วยสอดแนมประจำการอยู่ในรัศมีร้อยลี้โดยเฉพาะทางตอนใต้
ดังนั้น หากกองทัพเล็ก ๆ ปรากฏขึ้นใกล้เขาเฟิงโหยวที่ชายแดนทางตอนเหนือ มันจะต้องดึงดูดความสนใจให้ฮูเถี่ยถูนำกองทัพเข้าโจมตีอย่างแน่นอน!
ดังนั้น หากมีเพียงกองทัพกลุ่มเล็ก ๆ ไปช่วยเหลือเสิ่นจิงหง ก็มีโอกาสถึงแปดสิบเปอร์เซ็นต์ที่พวกเขาจะไม่ได้กลับมา
เมื่อเสิ่นเลี่ยสังเกตเห็นการขมวดคิ้วของหลี่จุ่นก็เข้าใจทันทีว่าคงเป็นเรื่องยากแล้ว เขาคิดว่าหลี่จุ่นอาจจะกำลังชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสีย ซึ่งหากความเสียหายมีมากกว่าผลประโยชน์ก็อาจจะปฏิเสธที่จะส่งทหารไป เขาถามขึ้นเสียงเข้มทันที
“ท่านจอมทัพ โปรดส่งกองกำลังทหารให้ข้าสามพันนายเถิด...ข้าผู้แซ่เสิ่นไม่ได้ต้องการสิ่งใดไปมากกว่านั้น แค่เพียงสามพันก็เพียงพอแล้ว!”
เสิ่นเลี่ยเป็นผู้บัญชาการทหาร แม้ว่าเขาจะไม่เคยอยู่ในสนามรบอย่างจริงจัง แต่เมื่อก่อนเขาก็เคยเป็นองครักษ์ของจวนรัชทายาทและยังเป็นผู้บัญชาการของเขาอีกด้วย
นำขบวนคนห้าร้อยคนยังเหลือเฟือ ดังนั้นเขาจึงเป็นสามารถนำคนสามพันคนได้อย่างแน่นอน!
ยิ่งไปกว่านั้น หากหลี่จุ่นเห็นด้วยจริง ๆ เขาจะต้องส่งแม่ทัพที่มีความสามารถมาช่วยเขาอย่างแน่นอน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...
หายเงียบเลยยยยรอตอนต่อไปนานแล้วนะะะะะเมื่อไหร่จะอัพเพิ่มมมมมมมมมมม...
มีชื่อภาษาอังกฤษของนิยายเรื่องนี้ไหมครับ...
อยากให้ อัพ ต่อครับ รอนะครับ...
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
ตอนที่203หาย...
ไม่ update มาหลายวันแล้วครับ...
เรื่องนี้สนุกมากครับ ติดตามแล้ว update ช้าและน้อยไปนะครับ แค่วันละ 2 chapter ขอแนะนำให้เพิ่เป็นวันละ 5 Chapter ครับ...