“เยี่ยมมาก”
หลี่เจิ้งกล่าวด้วยรอยยิ้มเป็นคนแรกและใบหน้าเต็มไปด้วยความสุข
จากนั้นเหล่าขุนนางต่างก็ชื่นชมสรรเสริญ
แม้ว่ากลอนบทนี้จะไม่ได้ยอดเยี่ยมนัก จินตภาพค่อนข้างแย่ แต่มีการแบ่งเสียงวรรณยุกต์และเสียงสัมผัส ตรงตามกฎเกณ์ หากเทียบกับขององค์ชายเจ็ดแล้วย่อมยอดเยี่ยมกว่าเป็นธรรมดา
โดยเฉพาะสองวรรคแรก ถือว่ายอดเยี่ยมมาก
หลี่จุ่นเองก็แอบพยักหน้า
คิดไม่ถึงว่าน้องแปดคนนี้จะมีพรสวรรค์ด้านบนกลอนเล็กน้อย
“เยี่ยมมากเซียงเอ๋อร์ แต่อย่าได้ยโสถือตัวว่ามีดี เจ้ายังต้องมุ่งมานะกว่านี้” หลี่เจิ้งกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ขอพระทัยเพคะเสด็จพ่อ หม่อมฉันจะไม่ทำให้เสด็จพ่อผิดหวังแน่นอนเพคะ” ใบหน้าสวยของหลี่เซียงจู๋พลันเต็มไปด้วยรอยยิ้มทันที ยิ้มแย้มแจ่มใสจนหาอะไรเทียบมิได้ แล้วนั่งลงอย่างพึงพอใจ
จากนั้นหลี่จงก็ลุกขึ้นยืน
ทุกคนต่างคิดว่าเขาจะแต่งกลอน แต่หลี่จงกลับมองหลี่จุ่นด้วยสีหน้าเย้ยหยันและพลันกล่าวเสียงดังว่า
“เสด็จพ่อพะย่ะค่ะ หากจะว่าในบรรดาองค์หญิงองค์ชาย ใครที่มีพรสวรรค์ด้านบทกลอนมากที่สุด นั่นย่อมต้องเป็นน้องหกอย่างแน่นอน ข้าเห็นว่าการเขียนเพลงแต่งกลอนในครั้งนี้ควรมอบให้น้องหกได้แสดงฝีมือ ข้าและพี่น้องคนอื่นๆ จะชื่นชมอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ ก็พอแล้วพะย่ะค่ะ”
“เสด็จพ่อพะย่ะค่ะ หม่อมฉันก็เห็นด้วย” หลี่เฉียนก็กล่าวเสียงดัง “น้องหกมีพรสวรรค์ด้านกลอนกวีนิรันดร์ ไม่ควรปิดกั้นพะย่ะค่ะ”
ตามด้วยองค์รัชทายาทก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า “หม่อมฉันได้ยินมานานแล้วว่าคราวนั้นน้องหกแต่งกลอน ‘หิมะพิทักษ์เมือง’ ที่หอเหวินชวีและได้รับการยกย่องจากท่านอาจารย์ว่าเป็นสุดยอดกวีพันปี วันนี้หม่อมฉันก็อยากเห็นพรสวรรค์ด้านกลอนกวีของน้องหกอย่างหนำใจ หากน้องหกมีพรสวรรค์ด้านกลอนกวีจริงๆ นั่นถือเป็นเกียรติของราชวงศ์อู่ของเรา เสด็จพ่อโปรดประทานโอกาสให้น้องหกได้แสดงความสามารถอย่างหนำใจด้วยพะย่ะค่ะ”
ทั้งสามคนรวมหัวกันขออนุญาตกลางงาน
ดูเหมือนเป็นการขออนุญาต แต่ความจริงแล้วคือการกลั่นแกล้ง
ทันใดนั้นทั่วทั้งงานเลี้ยงก็ตกอยู่ในความเงียบงัน
กลิ่นเขม่าควันดินปืนลอยฟุ้งในอากาศ แม้แต่ขุนนางชั้นผู้น้อยที่มีตาหามีแววไม่ยังสามารถได้กลิ่น
ให้องค์ชายหกแต่งกลอนหรือ
ล้อเล่นอันใดกัน
ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าองค์ชายหกเป็นคนไม่เอาถ่านที่ไม่ร่ำเรียนเขียนอ่าน
ยอดกวีหรือ
เกรงว่าจะเป็นยอดไร้ประโยชน์เสียมากกว่า
กลอน ‘หิมะพิทักษ์เมือง’ บทนั้นแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองหลวงและแม้แต่ใต้หล้า แต่มีเพียงไม่กี่คนที่เชื่อว่าบทกลอนนี้เขียนโดยหลี่จุ่น
เหล่าขุนนางในราชสำนักยิ่งไม่เชื่อ
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงมองออกทันทีว่าพวกองค์รัชทายาทต้องการทำให้หลี่จุ่นเสียหน้า
ในขณะนั้นหลี่เหวินจวินขมวดคิ้วเล็กน้อย
และหลี่เจิ้งก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเช่นกัน
ส่วนจ้าวเซียงหนิงสองพี่น้องในคณะทูตของแคว้นหนานก็มองเห็นหลี่จุ่นจากการมองตามสายตาของทุกคน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
ตอนที่203หาย...
ไม่ update มาหลายวันแล้วครับ...
เรื่องนี้สนุกมากครับ ติดตามแล้ว update ช้าและน้อยไปนะครับ แค่วันละ 2 chapter ขอแนะนำให้เพิ่เป็นวันละ 5 Chapter ครับ...
ตอน 203 หาย...
เรื่องนี้ก็ ok ครับ สนุกดี ขอบคุณadminครับ...
ขอบคุณแอดมินมากครับที่อัปเดทให้อ่าน...
ปกติจะอัพ เพิ่มวันไหนครับ รึ ไม่มีอัพให้แล้ว...
ไม่อัปเดทแล้วเหรอครับ กำลังสนุก...
ขอบคุณครับที่ลงให้อ่าน...