องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 868

กลับมาถึงยังจวนตระกูลเฟิง

หลี่จุ่นรีบไปยังห้องของตนเอง

เฟิงเป่าจินเองก็รีบกลับไปยังห้องของตนเองเช่นกัน

ลูกและภรรยาของเฟิงเป่าจินล้วนอยู่ที่เมืองหลวง ช่วงวันหยุดไม่พาลูกและภรรยากลับมาเยี่ยมพ่อที่แก่ชราหรือญาติสนิทมิตรสหาย

นั่นก็อธิบายได้ว่าไม่ใช่วันหยุดปกติ ๆ ทั่วไป

เฟิงเป่าจินเข้าไปในห้อง จากนั้นก็รีบให้คนมาเฝ้าหน้าประตูห้องเอาไว้

ทันใดนั้นเขาก็พลันขมวดคิ้วและเขียนจดหมายฉบับหนึ่งอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นเรียกให้คนออกไปส่ง ในตอนนี้เองเขาถึงได้ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง

เขาพูดกระซิบกระซาบกับตัวเองว่า

“เจ้าเด็กนี่เก่งกาจยิ่งนัก...ไม่นึกเลยว่าจะใช้แผนมาหลอกถามข้า!”

เฟิงเป่าจินไม่ใช่คนโง่อยู่แล้ว

เมื่อนึกถึงบทสนทนาของทั้งสองคนภายในห้องโดยสารแล้ว ก็คงจะรู้ได้ว่าตนถูกหลี่จุ่นหลอกถาม

น่ากลัวชะมัด!

เจ้าหมอนี่รู้แล้วว่าตอนนี้ฝ่าบาทอยู่ที่นี่!

ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ!

จดหมายที่เขาเขียนเมื่อครู่ ก็คือขอร้องให้ฝ่าบาทหาข้อพิสูจน์มาว่าเรื่องที่รับหลี่จุ่นเป็นศิษย์เป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นก็ดูท่าจะไม่ดีอยู่หน่อย ๆ แล้ว

เขาต้องบอกตัวตนที่แท้จริงของเจ้าหมอนี่กับฝ่าบาท!

ตอนนี้ยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเจ้าหมอนี่คืออะไร...

แล้วก็เขาเป็นคนของลัทธิขงจื๊อจริง ๆ หรือ?

เจ้าเด็กคนนี้อ้าปากแต่ละทีรู้จักแต่เรียกท่านพี่ปัน คงจะหมายถึงปันหมิ่น

และเหมือนกับว่าปันหมิ่นจะมีศิษย์พี่แซ่เมิ่ง เคยเอ่ยถึงโดยไม่ได้ตั้งใจอยู่ครั้งหนึ่ง

ตอนนี้เจ้าหมอนี่พูดถึงสองคนนี้ออกมาได้อย่างเต็มปาก เกรงว่าจะไม่ใช่ธรรมดา ๆ เป็นแน่

เป็นไปได้มากว่าจะเป็นคนของลัทธิขงจื๊อจริง ๆ!

หากเป็นคนของสำนักขงจื๊อจริง ๆ เช่นนั้นเขาแกล้งตายมาแคว้นหนานทำไมกัน?

แล้วก็เรื่องแกล้งตายนี่ด้วย เป็นเรื่องจริงหรือไม่?

เมื่อคืนเฟิงเป่าจินส่งจดหมายไปราชวงศ์อู่เพื่อขอให้พิสูจน์เรื่องนี้แล้ว เชื่อว่าอีกสองวันคงจะได้รับคำตอบ

“เจ้าเด็กคนนี้สุดยอดจริง ๆ...”

เฟิงเป่าจินลอบถอนหายใจอยู่ในใจ

ทว่าในวินาทีนี้!

หลี่จุ่นเองก็นั่งอยู่ภายในห้องของตน กำลังคลี่กระดาษออก

ถือพู่กันเขียนความคิดที่อยู่ในใจลงไปบนกระดาษ แล้วทำการวิเคราะห์

เหตุใดจักรพรรดินีถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?

ที่นี่มีอะไรเป็นพิเศษอย่างนั้นหรือ?

หลี่จุ่นคิดทบทวนนับจำนวนลมหายใจ ทันใดนั้นนัยน์ตาก็พลันเคร่งขรึม

นึกถึงตอนที่ให้สมาคมเทียนตี้มาตรวจสอบตระกูลเฟิงก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้ ในรายงานลับเคยบอกเอาไว้ว่าบนที่ราบกว้างใหญ่ทางตะวันออกของเมืองซ่างหยวน เป็นที่ปักหลักของหัวแรงหลักทัพใหญ่แห่งแคว้นหนาน!

“หากข้าเดาไม่ผิด ตอนนี้เฟิงเป่าจินน่าจะกำลังจับน้ำเสียงของจักรพรรดินีอยู่ คงกำลังถามเรื่องที่ว่าจักรพรรดินีเคยเห็นข้ามาก่อนหรือไม่เป็นแน่...”

หลี่จุ่นลอบฉีกยิ้มขึ้นมา

หลี่จุ่นจัดการแนวทางความคิดของตัวเองจนเกลี้ยง แล้วเผากระดาษทิ้งไป

จากนั้นกำลังจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อเตรียมไปดูภายในร้าน

เสียงของเฟิงเป่าหลินดังเข้ามาจากด้านนอก

“เสียวจุ่น ท่านลุงใหญ่ของข้าลงจากเขาแล้ว เจ้ารีบออกมาสิ!”

เฟิงอู่หังมาแล้วอย่างนั้นหรือ?

สีหน้าของหลี่จุ่นเต็มไปด้วยความปลื้มปีติ ก่อนจะรีบตะโกนกลับไป เขาเอ่ยว่า

“เยี่ยมเลย ข้าจะออกไปเดี๋ยวนี้!”

ในที่สุดก็สามารถซ้อมวรยุทธ์ยกใหญ่ได้แล้ว!

หลี่จุ่นเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็รีบมุ่งหน้าออกไป

เขามาถึงยังห้องโถงใหญ่พร้อมกับเฟิงเป่าหลิน

เห็นเฟิงอู่หังกำลังพูดคุยกับเฟิงฉีถัวอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ และในตอนนี้เฟิงเป่าจินก็ออกมาทักทายกับลุงใหญ่ของตนผู้นี้เช่นกัน

เมื่อเห็นหลี่จุ่นเฟิงอู่หังก็ราวกับยิ่งดีใจเข้าไปกันใหญ่

ชำเลืองมองอยู่สองที ทันใดนั้นก็ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“เยี่ยมไปเลยพ่อหนุ่ม ไม่เจอกันสองสามวัน ดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาเยอะเลยนะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน