รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 101

“ตะโกนอะไร? เมื่อคืนเธอยังจับหน้าฉันมาจูบอยู่เลย มันนับว่ามัวไหมล่ะ?” ผู้ชายถามอย่างเสียงแหบ เมื่อคืนผู้หญิงคนนี้เป็นคนเริ่มก่อน

ถังจือซย่าหน้าแดงเลย แก้ตัวอย่างติดอ่าง “เมื่อคืน…ฉัน…ฉันไม่มีสติ ฉันลืมไปหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง”

ผู้ชายหัวเราะอย่างเย็นชา" ใช่เหรอ? ให้ผมช่วยรื้อฟื้นความทรงจำไหม?"

“ไม่ต้อง…” เธอยังพูดไม่จบ ผู้ชายก็ตัดสินใจที่จะช่วยเธอรื้อฟื้นความทรงจำแล้ว ริมฝีปากที่บางนั้นได้โจมตีลงไปที่ริมฝีปากสองใบที่แดงนั้นอย่างเอาแต่ใจ

สมองของถังจือซย่าว่างเปล่าไปเลย ผู้ชายคนนี้อยากจูบเธอก็บอกมาตรงๆ สิ แสดงละครอยู่นั่นแหละ

แต่ไม่รู้ทำไม ทุกครั้งที่ผู้ชายคนนี้จูบเธอ ถึงแม้ว่าตอนแรกอาจจะรนไปหน่อย แต่ไม่ช้าการโจมตีของผู้ชายคนนี้ก็ทำให้สมองเธอว่างเปล่าไปเลย ทั้งหน้าทั้งหูแดงไปหมดเลย แค่นั้นไม่พอถังจือซย่ายังรู้สึกถึงสนุกของการจูบอีก

‘ไม่…’

เธอจะไม่ยอมรับเรื่องนี้เด็ดขาด ถูกผู้ชายคนนี้จูบ เธอไม่รู้สึกดีเลย

สุดท้าย ผู้ชายนอกจากจะจูบแล้ว พื้นที่อันตรายบนร่างกายเธอก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ถังจือซย่าเริ่มรนแล้ว ถ้ายังทำต่อไปอยู่ ผลที่จะตามมาไม่อยากจะคิดเลย

“ฮึ…” ถังจือซย่าใช้มือทุบตีไปที่แผ่นหลังของเขา พึ่งสังเกตได้ว่าแผ่นหลังของเขาแข็งมากจนหมัดของเธอเจ็บไปหมด

สีจิ่วเฉินปล่อยเธอออก แต่ก็ไม่ได้ยืนขึ้นแล้วปล่อยตัวเธอ แต่คือมองไปที่ผู้หญิงผมยุ่งที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ที่เหมือนปีศาจน้อยที่มีเสน่ห์

แต่ไม่รู้ทำไม แค่นึกถึงว่าเธอเคยโดนไอ้เวรคนหนึ่งกระทำอย่างนี้มาก่อน ในใจของเขาเกิดอาการที่อยากจะไปฆ่าไอ้เวรนั้นซะ

จู่ๆ ถังจือซย่ามีความรู้สึกเจ็บส่งผ่านมาจากเส้นผม เลยพึ่งรู้ตัวว่าเส้นผมของเธอได้ไปติดบนกระดุมแถวเสื้อบนหน้าอกของผู้ชาย

แน่นอนผู้ชายก็สังเกตเห็นเหมือนกัน เขาก้มหัวลงไป แล้วมองเธอด้วยสายตาเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์” คุณแกะออกเอง”

ถังจือซย่าเจ็บจนหัวชาไปหมด เธอก็ต้องไปแกะผมของตัวเองๆ อยู่แล้ว แต่เห็นว่ามันแกะไม่ออก ต้องแกะกระดุมก่อนถึงจะได้

ดังนั้น เธอเลยต้องหน้าแดงไปด้วยแกะกระดุมเม็ดที่สามของผู้ชายไปด้วย ทันใดนั้นเอง สิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าเธอคือแผ่นอกสีน้ำผึ้งอันล่ำของผู้ชาย เธอเกร็งมากแล้วหันหน้าหนี ไม่อยากจะมอง

“พอใจกับหุ่นของผมมั้ย?” ผู้ชายไม่ลืมที่จะถามเธอ

“ไม่พอใจ” ถังจือซย่าพูดแกล้งอย่างตั้งใจ ไปคำนึง

“ไม่พอใจตรงไหน?” ผู้ชายทับเธอไว้ไม่ให้ขยับ ทำตาหรี่แล้วถามกลับ

ถังจือซย่าหายใจเข้าลึกๆ หัวข้อนี้มันไม่เหมาะสมกับเด็ก เธอกัดฟันแน่น “ไม่พอใจซะที่เลย ลุกขึ้น”

สีจิ่วเฉินทับลงมายังหนักอีกครั้ง ให้เธอได้รู้สึกถึงที่ที่เขามั่นใจที่สุด ถามอย่างเสียงแหบว่า “ไม่พอใจจริงเหรอ?”

เป็นจังหวะที่ถังจือซย่ากำลังจะบ้า ยื่นมือไปพลักเขาแรงๆ สีจิ่วเฉินใช้จังหวะนี้ปล่อยเธอออก แล้วลุกขึ้นมานั่ง ใบหน้าที่หล่อเหลานั้นมีกลิ่นอายของความเจ้าเล่ห์ลอยออกมา

“พอแล้ว พวกเราควรกลับบริษัทได้แล้ว” ถังจือซย่าปล่อยผมลงมา วินาทีนั้นกลับไปเป็นนักธุรกิจสาวเหมือนเดิมเลย

ข้างหลังผู้ชายหยิบโทรศัพท์แล้วเดินตามเธอออกไป ใต้ตึกจ้านฉิงเหย่ได้กลับไปแล้ว เขากลับไปด้วยหัวใจที่เจ็บปวด

สีจิ่วเฉินขับรถพาถังจือซย่ากลับไปที่บริษัท ตลอดทั้งทาง ถังจือซย่าไม่พูดอะไรเลย เธอคิดและตัดสินใจในใจ คราวหน้าไม่ว่ายังไม่จะไม่ให้ผู้ชายคนนี้เข้าบ้านอีกเด็ดขาด

“พรุ่งนี้เป็นวันประกาศผลการแข่งขันอัญมณี ตื่นเต้นมั้ย?” สีจิ่วเฉินหันหน้ามาถามเธอ

ถังจือซย่าก็ต้องตื่นเต้นสิ เธอหวังว่าถ้าครั้งนี้ชนะจะได้รับเงินรางวัลที่เยอะพอสมควร แต่เธอไม่อยากพูดออกมา

“ก็งั้นๆ แหละ! การแข่งขันในครั้งนี้คู่แข่งเก่งมากๆ ฉันอาจจะไม่ได้รางวัลก็ได้”

“เชื่อมันในตัวเองหน่อย ตั้งใจลุ้นหน่อยเถอะ!” ผู้ชายพูดยังมีลับลมคมใน

ถังจือซย่าก็ไม่ได้คิดมาก ณ เวลานี้ เธอแค่อยากจะกลับบริษัทให้เร็วที่สุด

แต่ในตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของสีจิ่วเฉินดังขึ้นมา ชื่อที่ปรากฏคือซ่งซาน ถังจือซย่าขมวดคิ้ว นึกถึงสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ล่วงเกินเธอเมื่อกี้ เธอหัวร้อนขึ้นมาเลย

“สีจิ่วเฉิน ฉันเตือนคุณไว้นะ ฉันเกลียดซ่งซานมาก และเกลียดที่คุณมาแตะต้องตัวฉันด้วย” ถังจือซย่าพูดเสร็จแล้วหันหน้าหนี โดยที่ไม่สนใจเลยว่าเขาจะเป็นไม่เป็นประธานใหญ่

สีจิ่วเฉินขมวดคิ้ว เขาไม่ได้รับโทรศัพท์

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว