รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 113

ผมยาวแสนยุ่งเหยิงของเธอแผ่กระจายอยู่ข้างหมอน สายตาของสีจิ่วเฉินหรี่ลงคล้ายกับสัตว์ร้ายทีกำลังเข้าใกล้อาหารของมัน และออกแรงโจมตีอย่างเงียบๆ

ร่างกายของหญิงสาวที่เป็นอาหารยังไม่ถูกสำรวจเลยแม้แต่น้อย สีจิ่วเฉินนั่งลงบนขอบเตียงและมองดูใบหน้าที่หลับสนิทของเธอ ริมฝีปากสีแดงปิดเพียงเล็กน้อย ลมหายใจยั่วยวนให้คนเข้ามาลิ้มรส

เห็นเส้นผมที่ปกคลุมอยู่บนเปลือกตาของเธอ ชายหนุ่มยื่นมือเข้าไปโดยไม่รู้ตัว เขาอยากจะเขี่ยมันออกไปให้เธอ แต่ในขณะที่มือของชายหนุ่มสัมผัสเข้ากับใบหน้าของเธอ หญิงสาวที่นอนหลับอยู่ก็ส่งเสียงละเมอออกมาและยื่นมือเขาไปจับฝ่ามือของชายหนุ่มไว้ “เฉินเฉินอย่าเสียงดัง ให้หม่ามี้นอนสบายๆ หน่อยนะ”

ดวงตานกฟีนิกซ์ของสีจิ่วเฉินเบิกโพลงเล็กน้อย ผู้หญิงคนนี้คิดว่าเขาเป็นลูกของเธอไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?

ทันใดนั้นถังจือซย่าก็โผเข้ากอดแขนของเขาเอาไว้ แถมยังลูบแก้มของเขาไปมาเหมือนกับกำลังลูบหัวน้อยๆของลูกชายเธออยู่ เพื่อที่จะไม่ทำให้เธอตื่น สีจิ่วเฉินจึงขึ้นไปบนเตียงเพื่อเข้าไปใกล้ๆ เธอ

เขาพลิกตัวตะแคงข้างและยื่นแขนเข้าไปโอบเธอไว้แน่น และแขนของเขายังแนบชิดกับหน้าอกของเธออย่างเป็นเกียรติ ความรู้สึกที่เขามีแผ่ซ่านไปถึงห้องของหัวใจ

สีจิ่วเฉินนอนเป็นเพื่อนหญิงสาวคนนี้ด้วยท่าทางแข็งทื่ออยู่ชั่วขณะหนึ่ง ภายใต้แสงไฟ เขาถูกบังคับให้ชื่นชมใบหน้าของเธอ ผิวขาวและกลิ่นกายหอมคงจะเป็นลักษณะของเธอ เป็นเหมือนอาหารรสเลิศที่อร่อยถูกปาก ทำให้ชายหนุ่มอยากจะลิ้มลอง

ถังจือซย่าไม่รู้ว่าท่านอนของเธอในตอนนี้เป็นอย่างไร เธอถูกสายตาเป็นประกายของชายหนุ่มมองไปยังผิวหน้าของเธอทุกตารางนิ้วอย่างเพลิดเพลิน

แม้กระทั่งขนตาทุกช่อที่แบ่งแยกชัดเจน ชายหนุ่มก็สามารถคำนวณได้อย่างชัดเจนเช่นกัน หญิงสาวคนนี้กอดแน่นเกินไปแล้ว ทำให้เขาไม่กล้าที่จะดึงแขนออกไป ไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เธอตกใจตื่นได้

ดูเหมือนว่าสีจิ่วเฉินจะได้รับการทดสอบที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน เป็นการทดสอบทักษะการควบคุมของเขา เพราะว่าถ้าหากไม่มีทักษะการควบคุมที่ดีเยี่ยม ตอนนี้เขาคงปล่อยให้หญิงสาวคนนี้ได้ลองความเก่งกาจของเขาไปตั้งนานแล้ว

“ถังจือซย่า เอามือออกไป” สีจิ่วเฉินพยายามพูดให้เธอที่อยู่ในฝันเอามือออกไป

ถังจือซย่าก็ไม่ได้ปล่อยมือ เพราะเดิมทีเธอก็กอดมันไว้แน่นโดยไม่รู้ตัว อีกอย่างเธอคิดว่าคนที่เธอกอดไว้แน่นก็คือลูกชายสุดที่รักของเธอต่างหาก!

ในที่สุดสีจิ่วเฉินก็ไม่อย่างที่ยับยั้งมันไว้แล้ว เขาก้มตัวลงแนบไปที่หน้าของเธอชั่วขณะ ถังจือซย่าที่ถูกจูบนั้น จู่ๆ ก็โอบกอดคอของเขาเอาไว้ แล้วจูบไปที่แก้มของชายหนุ่ม “เฉินเฉินเด็กดี...”

ในชั่วพริบตาเดียวทั้งสองคนก็นอนหันหน้าเข้าหากัน ลมหายใจของถังจือซย่าที่อยู่บริเวณลำคอของเขา เหมือนกับขนนกที่สั่นไหวเพื่อกระตุ้นความรู้สึกที่อยู่ในใจของเขา

เลือดของสีจิ่วเฉินเดือดพล่านไปทั่วร่างกาย เขาอาจไม่ใช่สุภาพบุรุษ ถ้าหากหญิงสาวคนนี้ยังไม่ปล่อยมือ เขาอาจจะฉวยโอกาสทำเรื่องไม่ดีกับเธอ

ถังจือซย่าลูบไปที่ลำคอของเขาอีกครั้ง หลังจากนั้นก็ย้ายไปลูกตรงติ่งหูของชายหนุ่มอย่างช้าๆ เหมือนแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เรียกว่าสนิทสนม

ลูกกระเดือกที่เย้ายวนของสีจิ่วเฉินเลื่อนไปมา เขาพยายามยับยั้งอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากฮอร์โมนของเพศชาย แต่เวลานี้มันจะระเบิดออกมาแล้วจริงๆ

ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนสามารถทำให้เขาจนตรอกได้ขนาดนี้ แต่หญิงสาวที่กำลังนอนหลับอยู่นี้กลับทำมันได้

ทำให้เขาอยากจะสัมผัสแต่ก็กลับสัมผัสไม่ได้ ความคิดทั้งหมดต้องถูกระงับไว้ ทำได้แค่เพียงใช้ตามองไปที่หญิงสาวคนนี้อย่างไม่เกรงใจ

ในที่สุด ถังจือซย่าคงจะไม่ชอบกล่นอายของฮอร์โมนที่เข้าเกินไปในร่างกายของชายหนุ่ม! มันส่งผลกระทบต่ออากาศสดชื่นที่เธอใช้หายใจ เธอจึงพลิกกลับไปอีกด้านหนึ่งแล้วหลับต่อ

ร่างกายที่แข็งทื่อมานานของชายหนุ่มก็ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระ สีจิ่วเฉินลุกขึ้นแล้วจึงพบว่าเขาอดทนจนเหงื่อออกไปทั่วร่างกาย น้ำที่อาบไปเมื่อสักครู่นี้ช่างเสียแรงอาบซะจริงๆ

ดูเหมือนว่าครั้งนี้เขาจะต้องอาบน้ำเย็นๆ อีกสักรอบแล้ว

สีจิ่วเฉินคงจะไม่ขึ้นมาอีกแล้ว ถังจือซย่านอนอยู่บนเตียงของเขา กลิ้งไปกล้งมาอย่างสบาย ในที่สุด เวลาก็ได้ล่วงเลยมาจนถึงตีสี่แล้ว

ถังจือซย่าตื่นขึ้นมาแล้ว ในขณะที่เธอนั้นลืมตา ภาพที่เข้ามาในตาเธอคือเพดานที่มีสไตล์การตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา แน่นอนว่านี่ไม่ใช่บ้านของเธอ

แย่แล้ว!

ถังจือซย่าลุกขึ้นนั่งด้วยความตกใจ เธอเอามือกุมหัวแล้วคิดอย่างหนัก ความทรงจำสุดท้ายก็คือตอนที่เธอนั่งอยู่บนรถของสีจิ่วเฉิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว