รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 122

แขนของสีจิ่วเฉินแข็งเกร็ง แต่เขาก็ไม่ได้สลัดแขนของซ่งซานออก เขาเองก็อยากจะเข้าไปดูว่าผู้ชายแบบไหนกันที่ทำให้เธอยิ้มได้แบบนี้

เมื่อถังจือซย่าเงยหน้าขึ้นก็ได้เห็นคนทั้งคู่เดินตรงมาทางนี้ เธอเหลือบเห็นที่นั่งโต๊ะข้างๆ ว่าง พวกเขาคงจะไม่มานั่งตรงนี้หรอกมั้ง!

ซ่งซานมองถังจือซย่าด้วยสายตาเย่อหยิ่งและจองหอง เธอแสร้งทักทายอย่างมีความสุข “จือซย่า เธอก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ!”

ถังจือซย่าชายตามองเธออย่างเย็นชาและเมินหน้าหนีไปทางหน้าต่าง สำหรับคนอย่างซ่งซาน เธอไม่จำเป็นต้องไว้หน้า

ซ่งซานแสร้งทำเป็นยิ้มอย่างขมขื่นแล้วนั่งลง ส่วนร่างสูงโปร่งของสีจิ่วเฉินนั่งลงตรงข้ามอย่างสง่างาม ตำแหน่งที่นั่งของเขาหันตรงไปทางถังจือซย่าพอดี ดวงตาคู่งามของเขาพินิจชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามถังจือซย่า คนคนนั้นไม่ได้อยู่ในแวดวงที่เขารู้จัก

นั่นแสดงว่า ชายผู้นี้จัดอยู่ในกลุ่มบุคคลธรรมดา

คุณถัง บริษัทของผมอยู่ใกล้กับบริษัทของคุณมาก! ห่างออกไปแค่สองช่วงตึกเองครับ ไม่รู้ว่าผมจะมีโอกาสได้เลี้ยงข้าวคุณสักมื้อหรือดื่มกาแฟด้วยกันสักแก้วไหมครับ” สายตาของหยางซั่วถูกถังจือซย่าสะกดไว้ เขาไม่รู้เลยว่ามีดวงตาเย็นยะเยือกคู่หนึ่งกำลังจ้องมองมาที่เขา

ถังจือซย่าม้วนผมเล่นและยิ้มอย่างเขินอาย “ได้สิคะ! มีเวลาว่างมาดื่มกาแฟด้วยกันนะคะ ฉันเองก็อยากขอคำแนะนำในการลงทุนจากคนเก่งๆ อย่างคุณเหมือนกันค่ะ”

คุณถามถูกคนแล้ว สำหรับเรื่องการลงทุน ผมก็ถือว่าพอตัวอยู่” ความมั่นใจเปี่ยมล้นอยู่บนใบหน้าของหยางซั่ว ในใจของเขารู้สึกภาคภูมิ ดูๆ ไป สถานะที่โดดเด่นของเขานั้นคงจะดูดีมากในสายตาของถังจือซย่า

จิ่วเฉิน พวกเราไปหาอะไรทานกันเถอะค่ะ!”

คุณไปก่อนนะ ผมจะโทรศัพท์” สีจิ่วเฉินนั่งนิ่งไม่ขยับพลางพูดกับซ่งซาน

ซ่งซานจำต้องลุกขึ้นเดินไป เธอชำเลืองมองถังจือซย่าและชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้าม ในใจของเธอยิ้มเยาะ ถังจือซย่าตาถั่วหรือเปล่าเนี่ย?

สายตาของสีจิ่วเฉินจับจ้องไปที่หญิงสาวที่นั่งริมหน้าต่าง โคมไฟระย้าด้านบนที่สาดส่องลงมาทำให้ชุดราตรีสีเทาตัดกับผิวพรรณที่เปล่งปลั่งของเธอ ใบหน้าที่งดงามโดดเด่น ดวงตาคู่งามสดใส รัศมีที่เปล่งประกาย ประกอบกับริมฝีปากสีแดงที่ดูอวบอิ่มและมีมิติภายใต้ลิปสติกเนื้อแมท ยิ่งขับกล่อมให้รัศมีแห่งความงามของเธอนั้นขจรขจาย

ปลุกเร้าให้ชายหนุ่มปรารถนาจะได้กัดกินสักคำ

แม้ว่าถังจือซย่าจะไม่ได้มองเขา แต่เธอรู้ดีว่าเขากำลังมองเธออยู่ เธอสบถอยู่ในใจ จะมองกันอะไรนักหนา มีซ่งซานอยู่ข้างๆ แล้วทั้งคน ยังไม่พอให้เขามองอีกหรือ

ถังจือซย่าฉวยจังหวะที่หยางซั่วก้มลงดื่มน้ำ เธอกลอกตา และขึงตาไปที่เขา

สีจิ่วเฉินจ้องมองเธอด้วยความสับสน ในแววตานั้นระคนไปด้วยความประหลาดใจ ผู้หญิงคนนี้สามารถยิ้มอย่างสดใสให้กับชายหนุ่มแปลกหน้าได้ แต่เขา กลับไม่เคยได้รอยยิ้มที่จริงใจจากเธอเลย

ทำไมนะ เขาไม่คู่ควรกับรอยยิ้มของเธอหรือ

สิ่งนี้ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้ และเมื่อมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังคุยโวตรงหน้าของถังจือซย่า เขาชักจะทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว เขาลุกขึ้น แล้วพูดกับหยางซั่วว่า “คุณครับ รบกวนช่วยหลบไปหน่อย ผมมีเรื่องจะคุยกับลูกน้องของผม”

หยางซั่วรู้สึกไม่สบอารมณ์ ใครกันที่บังอาจมารบกวนการจีบสาวของเขา แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาต้องนิ่งอึ้งไปด้วยความตกใจ

นี่...คุณชายใหญ่แห่งกลุ่มบริษัทตระกูลสี ไม่ใช่หรือ

“ประ...ประธานสี เชิญครับ เชิญนั่ง” หยางซั่วลุกขึ้นเร็วกว่าใคร และยื่นมือออกไปทำท่าเชื้อเชิญ เขาตระหนักได้ในทันใด ที่แท้ ถังจือซย่าก็เป็นลูกน้องของสีจิ่วเฉินหรอกหรือนี่

ถังจือซย่าจ้องไปที่ชายหนุ่มตรงข้ามอย่างขุ่นเคืองพลางเอ่ยขึ้นอย่างเย็นชา “ประธานสีคะ วันนี้เป็นเวลาส่วนตัว กรุณาคุยเรื่องงานในช่วงเวลาทำงานด้วยค่ะ”

“คุยกับผู้ชายที่น่าเบื่อแบบนี้ ไม่สู้คุยเรื่องงานดีกว่า” สีจิ่วเฉินปรามาสหยางซั่วอย่างไม่ไว้หน้า

ผู้ชายที่น่าเบื่อ

หยางซั่วบื้อใบ้ไปชั่วอึดใจ จากนั้น รอยยิ้มเจื่อนๆ ผุดขึ้น “ประธานสีพูดได้ถูกต้องแล้วครับ ผมก็แค่คนพูดจาเรื่อยเปื่อย คุณถัง ไว้พบกันใหม่นะครับ”

ถังจือซย่าอดไม่ได้ที่จะมองชายหนุ่มอย่างขบขัน “มีใครเขากล้าด่าคนอื่นต่อหน้าเหมือนคุณบ้างเนี่ย”

“ผมพูดอะไรผิดไปหรือ” สีจิ่วเฉินเลิกคิ้วขึ้น แสดงออกอย่างเย่อหยิ่ง

ถังจือซย่าเองก็รู้สึกว่าหยางซั่วกำลังคุยโม้ แต่เธอก็เต็มใจฟัง! ตรงกันข้ามกับชายหนุ่มตรงหน้านี้ เธอคงเต็มใจจะพบเจอ...ล่ะมั้ง!

“ก็ฉันชอบคนที่คุยโม้นี่คะ ประธานสีมีความสามารถแบบนี้ไหมล่ะ ลองโม้ให้ฟังหน่อยสิคะ” ถังจือซย่าโต้ตอบอย่างไม่เกรงใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว