รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 132

แต่แล้ว ในฉับพลันนั้นเอง สายตาของซ่งซานถูกร่างสูงใหญ่ของชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลังของถังจือซย่าดึงดูด สีจิ่วเฉินเดินผ่านผู้คนเดินตรงไปหาเธอ

ความเกลียดชังปรากฏในดวงตาของซ่งซาน เธอวางแก้วไวน์ลง แล้วเดินตามสีจิ่วเฉินไป เธออยากรู้ว่าทำไมสีจิ่วเฉินจึงได้เดินตามถังจือซย่า

ถังจือซย่าเพิ่งเดินออกมาจากโถงใหญ่ ก็ได้ยินเสียงเย็นชาของชายหนุ่มรั้งเธอไว้ “เดี๋ยวก่อน”

ถังจือซย่าหันศีรษะกลับไป ในความมืด เธอเห็นสีจิ่วเฉินเดินเข้ามาหาเธอด้วยท่าทางสูงสง่า ดวงตาเย็นชาจ้องมาที่เธอแล้วเอ่ยถามขึ้น “คุณตกลงใจที่จะแต่งงานกับฉิงเหย่จริงๆ หรือ”

ถังจือซย่างุนงง เธอคิดว่า เขาจะต้องได้เห็นการขอแต่งงานที่เวอร์วังเมื่อสักครู่นี้แน่

ช่างมันเถอะ เธอขี้เกียจจะอธิบายให้เขาฟังแล้ว

“นี่เป็นเรื่องของฉัน” ถังจือซย่าเอื้อมมือไปกดลิฟต์

ที่ประตูใหญ่ในเวลานี้ มีเพียงบริกรยืนเฝ้าอยู่เท่านั้น ไม่มีแขกเหรื่อคนอื่นๆ สีจิ่วเฉินหรี่ตาลง ดูเหมือนเขากำลังเหลืออด เขาคว้าแขนของถังจือซย่าและดึงเธอเข้าไปข้างๆ บริเวณทางเดินออกสู่ระเบียง

ถังจือซย่าร้องออกมาเมื่อถูกเขาใช้กำลังดึงเธอ เธอทำได้เพียงพยายามต่อต้านเขาอย่างโกรธเคืองอยู่ด้านหลัง “สีจิ่วเฉิน ปล่อยฉันนะ”

แต่ชายคนนั้นไม่สนใจและลากเธอไปที่ระเบียงที่ปลอดคน ที่นี่มีไม้กระถางล้ำค่ามากมาย ดูเหมือนเป็นสวนดอกไม้เล็กๆ และค่อนข้างลึกลับ

ถังจือซย่าดิ้นรนขัดขึ้นด้วยความโมโห แต่เธอที่ไม่สามารถหลุดพ้นไปได้ เธอถูกชายหนุ่มผลักเข้าไปที่มุมหนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มยื่นเข้ามาใกล้ ดวงตาของคนทั้งคู่สอดประสาน มันใกล้เสียจนปลายจมูกแทบจะชนกัน

เมื่อเธอรู้สึกถึงลมหายใจร้อนของชายหนุ่มบนใบหน้า เธอผลักเขาออกไปด้วยความโกรธ และกดเสียงต่ำตวาดออกไป “สีจิ่วเฉิน คุณทำตัวต่ำช้าพอหรือยัง”

“คุณตอบตกลงแต่งงานกับฉิงเหย่จริงๆ หรือ คุณจะแต่งงานกับเขาหรือ” เสียงที่เอ่ยถามออกมาของสีจิ่วเฉิน ดูเหมือนจะอ่อนโยน แต่กลับแฝงไปด้วยความเยือกเย็น

หากเธอตอบว่าใช่ เขาคงจะขย้ำเธอแน่

ถังจือซย่าเบือนหน้าหนี “เกี่ยวอะไรกับคุณด้วยล่ะ”

“แต่ระหว่างเราสองคน มีเรื่องที่บอกใครไม่ได้อยู่นะ” ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเตือนเธอ

พูดอย่างกับว่าพวกเขาแอบกินกันอย่างนั้นแหละ

“นั่นก็เป็นเพราะคุณมันโรคจิต ฉันไม่ได้คิดอะไรกับคุณเลย ระหว่างพวกเรานั้นไม่ได้มีอะไรทั้งสิ้น” ถังจือซย่าเถียงคอเป็นเอ็น

ภายใต้แสงไฟ ปากที่เบะขึ้นของถังจือซย่าก็ส่งกลิ่นหอมออกมาประหนึ่งทาด้วยชาดแดงอย่างดี

ความโกรธปะทุขึ้นในดวงตาของสีจิ่วเฉิน ทันใดนั้น เขายกมือขึ้นและใช้นิ้วโป้งเช็ดริมฝีปากแดงของเธออย่างไร้ความปรานี “ถังจือซย่า ที่ตรงนี้ผมเคยจูบ ผมไม่อนุญาตให้คนอื่นมาจูบ ฉิงเหย่ก็ไม่ได้”

“คุณ...” ถังจือซย่ากำลังจะตะโกนโต้กลับ

แต่เมื่อริมฝีปากแดงเพิ่งจะเผยอออก เธอกลับถูกชายหนุ่มจับเข้าที่ท้ายทอย แล้วรุกล้ำเข้าไป

สมองของถังจือซย่าว่างเปล่าไปชั่วขณะ เธอทำได้เพียงส่งเสียงครางออกมา เธอเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จูบของชายหนุ่มคนนี้มีมนตร์สะกดบางอย่างที่สะกดร่างกายของเธอให้หยุดนิ่ง จองจำวิญญาณของเธอให้ตราตรึง แม้กระทั่งร่างกายยังมีปฏิกิริยาตอบสนองที่น่าละอายอีกด้วย

ถังจือซย่าอยากจะตบตัวเองให้ตายจริงๆ

“อื้อ...” มือของถังจือซย่าถูกชายหนุ่มยึดไว้เหนือศีรษะ เดาว่าชายหนุ่มคงไม่อยากถูกตบอีกเป็นครั้งที่สอง!

ความโกรธเคืองของถังจือซย่ายิ่งเพิ่มมากขึ้น ชายหนุ่มคนนี้ไม่จบไม่สิ้นเลยจริงๆ

แต่พวกเขาไม่ได้รู้เลยว่า ที่ด้านหลังประตู มีดวงตาริษยาแทบคลั่งคู่หนึ่งกำลังจ้องมองพวกเขาผ่านแมกไม้

หากบอกว่า แต่ก่อนนี้ซ่งซานก็แค่คาดเดา เช่นนั้น ในเวลานี้ เธอได้เห็นกับตา

เธอเห็นสีจิ่วเฉินพาถังจือซย่ามาที่นี่และกอดเธอไว้ที่มุมหนึ่งโดยไม่ลังเล แม้ซ่งซานจะไม่ได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แต่เธอเห็นว่าร่างกายของสีจิ่วเฉินและถังจือซย่าแนบชิดสนิทกัน

พวกเขากำลังจูบกัน

หลังกำแพงเป็นห้องจัดเลี้ยงที่ซึ่งถังจือซย่าเพิ่งถูกขอแต่งงานไป แต่เวลานี้กลับกำลังจุมพิตอย่างดูดดื่มกับคุณชายใหญ่แห่งกลุ่มบริษัทตระกูลสีที่มุมหนึ่งนี้!

หัวใจของซ่งซานเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทง เธอกำลังจะเป็นบ้าแล้ว

สรุปแล้ว ถังจือซย่าใช้วิธีการอะไรในการยั่วยวนสีจิ่วเฉินกันแน่ ถึงทำให้สีจิ่วเฉินหลงใหลเธอมากขนาดนี้ มากจนกระทั่งแย่งผู้หญิงที่ญาติผู้น้องของเขาขอแต่งงาน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว