รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 133

เวลานี้ เธอได้ยินเสียงจากด้านหลัง มีคนกำลังมา ซ่งซานไม่กล้าอยู่ต่อ จึงหลบออกไปโดยใช้ประตูด้านข้าง

คนเหล่านี้เป็นแขกที่ต้องการหาพื้นที่สงบเงียบเพื่อพูดคุยเรื่องงานกัน พวกเขาจึงเลือกมาที่ระเบียงแห่งนี้

แต่พวกเขาไม่รู้เลยว่า พื้นที่ตรงนี้ มีคนจับจองอยู่ก่อนแล้ว

คราวนี้ถังจือซย่าอยากจะบ้าตายแล้ว ชายหนุ่มคนนี้ต้องการจะให้ชื่อเสียงของเธอป่นปี้หรืออย่างไร และในเวลานี้เอง สีจิ่วเฉินก็ปล่อยมือจากเธอ แล้วใช้ฝ่ามือใหญ่โตของเขากดเธอไว้ในอ้อมกอดเพื่อปกปิดใบหน้าของเธอ

เวลานี้ หากถังจือซย่าไม่แอบอยู่ในอ้อมอกของเขา เห็นทีจะไม่ได้เสียแล้ว เธอไม่ต้องการให้คนอื่นเห็นเข้า

และในขณะที่ชายทั้งสามเดินเข้ามาก็ได้เห็นว่าที่บริเวณมุมกำแพงมีคนอยู่ พวกเขาจ้องไปที่ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ด้วยความตะลึง ในเวลาเดียวกันนี้เอง พวกเขาก็ได้เห็นว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งซุกอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มคนนั้น

ก่อนที่ชายทั้งสามจะทันได้มีสติ ก็ถูกแววตาเย็นยะเยียบจ้องกลับมา ในพริบตานั้น พวกเขาก็ได้เห็นใบหน้าของชายหนุ่มคนนั้นอย่างชัดเจน

นี่มันคุณชายใหญ่แห่งตระกูลสีไม่ใช่หรือ

“ขอโทษด้วย ขอโทษที่รบกวน” แขกชายทั้งสามรีบหันหลังและเดินจากไป

ทันทีที่พวกเขาเดินจากไปแล้ว ถังจือซย่าก็เงยหน้าขึ้นด้วยความโกรธ แต่เธอเงยหน้าขึ้นมาเร็วเกินไป หน้าผากของเธอกระแทกเข้าที่คางแข็งๆ ของชายหนุ่ม มันเจ็บเสียจนเธอต้องสูดลมหายใจ

เธอถลึงตาใส่เขา แต่กลับมองเห็นบ่อน้ำแข็งที่นิ่งสงบ ซึ่งปลายลึกสุดนั้นคือความมืดที่มองไม่เห็น แต่รอบนอกนั้นกลับถูกปกคลุมไปด้วยน้ำค้างแข็ง

“ปฏิเสธฉิงเหย่ซะ ไม่อย่างนั้น ผมจะเอาเรื่องของพวกเราป่าวประกาศให้ทั่ว” สีจิ่วเฉินกดเสียงต่ำขู่

“สีจิ่วเฉิน หากฉันปฏิเสธจ้านฉิงเหย่ ก็อย่าคิดนะว่าฉันจะแต่งงานกับคุณ ฝันไปเถอะ!” ถังจือซย่าพูดอย่างโมโห เธอผลักเขาออกและเดินออกไปด้านนอกระเบียง

เพราะเธอรีบเกินไป เธอจึงสะดุดกับชุดราตรียาวของเธอ ทันใดนั้น เธอล้มลงตรงบันไดที่ระเบียงสวนดอกไม้

“อา...” เข่าของถังจือซย่าเจ็บ เจ็บจนเธอต้องสูดปาก

ขายาวๆ ของชายหนุ่มก้าวเข้ามาในทันที แขนยาวๆ ของเขาก็พยุงให้เธอลุกขึ้น พร้อมด้วยคำตำหนิ “ทำไมถึงได้ซุ่มซ่ามประจำเลย”

“เรื่องของฉัน” ถังจือซย่าสะบัดมือของเขาออก และก้าวเดินไปข้างหน้าทีละก้าวๆ อย่างเข้มแข็ง

หากไม่ใช่เพราะเขาลากเธอมาที่นี่ เธอจะหกล้มได้อย่างไร ทั้งหมดเป็นความผิดของเขา

สีจิ่วเฉินมองดูเธอเดินจากไป เขายกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหมายเลข “หญิงสาวในชุดราตรีสีเทากำลังจะลงไป จัดหารถส่งเธอกลับบ้านด้วย”

หลังจากสั่งการเสร็จสิ้น สีจิ่วเฉินดึงเนกไทให้คลายออก ความสง่างามและน่าเกรงขามที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขานั้น ทำให้ผู้คนเกิดความหวั่นไหวและอยากที่จะเข้าใกล้โดยไม่รู้ตัว

เพราะผู้ชายคนนี้เปล่งประกายจริงๆ

เมื่อถังจือซย่าเดินลงมาถึงชั้นล่าง ผู้จัดการรีบปราดเข้าไปทักทายเธอ “คุณครับ จะกลับแล้วใช่ไหมครับ คืนนี้พวกเรามีบริการรถรับส่งให้ครับ”

ถังจือซย่ากำลังกังวลว่าที่นี่จะเรียกแท็กซี่ลำบาก เธอจึงรีบพยักหน้า “ใช่ค่ะ ฉันกำลังจะกลับ”

“เชิญทางนี้ครับ” ผู้จัดการผายมือไปที่รถคันหนึ่ง และเปิดประตูหลังให้เธอ เมื่อถังจือซย่าได้เข้าไปนั่งในรถแล้ว เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก

เธอรู้อยู่ก่อนหน้าแล้วว่าไม่ควรจะมา หากไม่มาก็คงจะดี

ถังจือซย่ากลับไปแล้ว แต่งานในคืนนี้ เธอได้ทำให้คนจำนวนไม่น้อยต้องขุ่นเคือง นอกจากซ่งซานแล้ว ยังมีหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่วิ่งวุ่นถามใครต่อใครเกี่ยวกับเรื่องของเธอ หญิงสาวคนนั้นก็คือหันเหลยหย่า เธอแทบอดทนรอไม่ไหวที่จะรับรู้ข้อมูลทั้งหมดของถังจือซย่า

ด้วยความรวดเร็ว เธอก็ได้รู้จากปากของคุณนายนางหนึ่งว่า ถังจือซย่าก็แค่นักออกแบบเครื่องประดับเท่านั้น ภูมิหลังของตระกูลก็ธรรมดา ไม่ใช่ผู้หญิงที่คู่ควรในแบบที่ตระกูลจ้านต้องการเลยสักนิด

ในใจของหันเหลยหย่าเชื่อมั่นว่า ในที่สุดแล้ว คนที่จะได้แต่งงานกับจ้านฉิงเหย่ จะต้องเป็นเธอ

เธอจะไม่ยอมให้คนอื่นมาแย่งไปได้

เวลานี้ ซ่งซานรู้สึกโกรธจนสั่นไปทั้งตัว เมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่ถังจือซย่าถูกสีจิ่วเฉินจูบเมื่อกี้นี้ หัวใจของเธอก็รู้สึกเหมือนถูกมีดกรีดแทง

ที่ห้องรับรองพิเศษบริเวณห้องจัดเลี้ยง นายหญิงใหญ่สีมองไปที่จ้านฉิงเหย่หลานชายของเธอ พลางเอ่ยถามขึ้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแปลกใจ “ฉิงเหย่ เป็นจือซย่าที่ช่วยชีวิตหลานไว้หรือ”

“ใช่ครับ! คุณยาย ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ คุณยายคงจะไม่ได้เห็นผมอีกแล้ว อุบัติเหตุครั้งนั้นน่ากลัวมาก ถ้าไม่ได้เธอลากผมออกมาจากรถ ผมคงถูกระเบิดฉีกเป็นชิ้นๆ ไปแล้ว” จ้านฉิงเหย่ตอบอย่างชัดเจน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว