รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 137

“โอเค งั้นนายไปทำธุระเถอะ ฉันรอรับแฟนสาวของฉันไปทานข้าว” จ้านฉิงเหย่โบกมือไล่เขา ฉู่เฮ่าจึงเดินจากมา ทันทีที่เข้าไปในล็อบบี้ เขาเห็นถังจือซย่าเดินถือกระเป๋าออกมา

“คุณถังไปทานอาหารกลางวันหรือครับ”

“ใช่ค่ะ!” ถังจือซย่าเม้มริมฝีปากยิ้ม

ฉู่เฮ่าขึ้นลิฟต์ตรงไปที่ชั้นแปด เมื่อเห็นเจ้านายที่หน้าโต๊ะทำงาน เขาพูดขึ้นโดยไม่ได้คิดอะไร “ประธานสี เมื่อกี้นี้ที่ชั้นล่าง ผมเจอคุณชายจ้านมารับคุณถังไปทานอาหารกลางวันด้วยครับ”

ชายหนุ่มกำลังเซ็นเอกสารอยู่ ปลายปากกาที่แหลมคมตวัดออกมาเป็นลายเส้นแปลกๆ คิ้วเรียวยาวของเขาขมวดเป็นปม และเซ็นชื่อต่อจนเสร็จ

ในร้านอาหาร

ขณะที่จ้านฉิงเหย่กำลังบอกเล่าถึงเรื่องการตกแต่ง เขาได้พูดกับเธอว่า “จือซย่า ฉันตกแต่งห้องเผื่อไว้ให้เธอด้วยนะ หากในอนาคตเธออยู่ที่นี่แล้วไม่มีแรงบันดาลใจ เธอมาทำงานที่ฉันนี่ได้นะ ฉันตกแต่งห้องให้อย่างทันสมัยเลย”

ถังจือซย่าเกือบจะพ่นชาออกมา เธอเงยหน้าขึ้นมองจ้านฉิงเหย่ ไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “นายเตรียมห้องทำงานให้ฉันทำไม!”

“ถ้าต่อไปเธอไม่อยากเป็นนักออกแบบแล้วก็มาทำงานกับฉันด้วยกันสิ ฉันจะให้งานเงินเดือนสูงๆ กับเธอเอง” จ้านฉิงเหย่ได้วางแผนอนาคตไว้แล้ว

“นายกำลังจะดึงตัวฉันหรือ ฉันทำเป็นแค่ร่างแบบนะ งานอย่างอื่นน่ะ ทำไม่เป็นหรอก”

“จะไปยากอะไร ฉันก็แค่ซื้อบริษัทเครื่องประดับสักแห่งหนึ่ง แล้วให้เธอไปทำงานกับฉัน ก็ได้แล้ว” สายตาของจ้านฉิงเหย่จ้องมองเธอ จากนั้น ดวงตาของเขาก็เป็นประกาย “ใช่แล้ว! ทำไมฉันถึงคิดไม่ถึงนะ”

“อย่าเอาแต่ใจไปหน่อยเลย คุณชายจ้าน ถ้านายยังเป็นแบบนี้อีก กระทั่งเพื่อน เราคงจะเป็นกันไม่ได้ ฉันแค่ต้องการเป็นเพื่อนกับนาย ไม่ต้องการรับความช่วยเหลืออะไรจากนายทั้งสิ้น”

จ้านฉิงเหย่ใช้เวลาในการทานข้าวหมดไปกับการขบคิดหาวิธีที่จะดึงตัวถังจือซย่าไปทำงานกับเขา ถังจือซย่าเองก็เหนื่อยหน่ายเต็มทน

หลังอาหารกลางวัน ถังจือซย่ากลับถึงห้องทำงานตรงเวลา จู่ๆ ไอ้หย่าก็ผลักประตูเข้ามาด้วยสีหน้าเย้ยหยัน

“ได้ยินมาว่าถ้วยรางวัลของเธอถูกริบคืนไปแล้ว ทั้งบริษัทรู้หมดแล้วแหละว่าตำแหน่งชนะเลิศของเธอได้มายังไง เธอยังมีหน้าอยู่ที่นี่ต่อไปอีกหรือ”

ถังจือซย่าเงยหน้าขึ้นมองเธอ “โทรศัพท์ในช่วงเช้า เป็นเธอสินะที่ให้คนโทรมา!”

ไอ้หย่าคิดไม่ถึงว่าเธอจะฉลาดขนาดเดาได้ เธอไม่ได้ปฏิเสธแต่กลับหัวเราะดังขึ้น “โลกนี้น่ะ! คนที่มีความสามารถไม่ถึงแล้วยังโง่งมไร้ปัญญา มีอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ!”

ใบหน้าของถังจือซย่าค่อยๆ ร้อนผ่าวขึ้น คำพูดประโยคนี้มันช่างเสียดแทงเสียเหลือเกิน

“ในฐานะเพื่อนร่วมงาน ฉันไม่อยากจะมีปัญหากับเธอหรอก รบกวนเธอออกไปเถอะ” ถังจือซย่าเปิดประตูเชิญเธอออกไป

“ถังจือซย่า ไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะต้องทำให้เธออยู่บริษัทนี้ต่อไปไม่ได้ “ไอ้หย่าประกาศศึกชัดเจน

ถังจือซย่าหัวเราะเย้ยหยัน “งั้นก็ต้องดูฝีมือของเธอแล้วล่ะ”

ไอ้หย่าเหลือบมองเธอแล้วจากไป ถังจือซย่ายิ่งคิด ยิ่งรู้สึกไม่สบอารมณ์ หากไม่มีการแทรกแซงจากสีจิ่วเฉิน อย่างน้อยๆ เธอต้องได้รางวัลที่สาม เฮ้อ! น่าเบื่อเหลือเกิน

ขณะที่กำลังตรวจแบบร่าง หลี่เสี่ยวซินก็เคาะประตูเดินเข้ามา ด้านหลังของเธอ ติดตามมาด้วยหญิงสาวทันสมัยที่สวมแบรนด์เนมทั้งตัว

“พี่จือซย่าคะ คุณผู้หญิงท่านนี้บอกว่ามาหาพี่ค่ะ” หลี่เสี่ยวซินพูดจบก็เหลือบมองหญิงสาวอย่างอิจฉา กระเป๋าสุดหรูในมือของเธอเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดเลยนะ!

ถังจือซย่าพินิจมองด้วยความประหลาดใจ เธอไม่รู้จักผู้หญิงตรงหน้านี้เลยสักนิด เธอจึงให้เกียรติลุกขึ้น

“สวัสดีค่ะ คุณมีธุระอะไรหรือคะ”

หันเหลยหย่ากวาดตามองไปทั่วห้องทำงาน และสุดท้ายก็หยุดลงที่ช่อกุหลาบสีน้ำเงินที่วางอยู่บนเก้าอี้ ความหึงหวงฉายแววในดวงตาของเธอ เธอหันไปหาถังจือซย่า และพูดขึ้นอย่างหยิ่งผยองว่า “ฉันขอแนะนำตัวเองก่อน ฉันชื่อหันเหลยหย่า ฉันมาที่นี่เพื่อคุยกับเธอเรื่องการหมั้นระหว่างเธอกับจ้านฉิงเหย่”

ถังจือซย่าเข้าใจได้ทันที เธอไม่ใช่ลูกค้า แต่เธอมาก่อกวน

เธอยังไม่ทันได้พูดอะไร หันเหลยหย่าก็หยิบบัตรสีเงินออกจากกระเป๋าแล้วโยนลงบนโต๊ะทำงานของเธอ “ในนี้มีสิบล้าน ออกห่างจากฉิงเหย่ซะ”

ถังจือซย่าตกตะลึง เธอมองไปที่บัตรธนาคาร แล้วก็มองดูดวงตาเย่อหยิ่งของหญิงสาวตรงหน้า เธอรู้สึกได้ถึงการดูแคลน

เธอดันบัตรคืนกลับไปตรงหน้าหญิงสาว “คุณหันคะ ฉันรู้ค่ะว่าคุณร่ำรวย แต่ฉันไม่ได้ขาดแคลนเงินค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว