รักป่วน ๆ ฉบับแม่เลี้ยงเดี่ยว นิยาย บท 138

หันเหลยหย่าอดไม่ได้ที่ยกมุมปากขึ้นยิ้มเยาะ “ถังจือซย่า ฉันหาข้อมูลของเธอก่อนจะมาที่นี่ เธอก็แค่นักออกแบบธรรมดาๆ คนหนึ่ง เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว พื้นเพครอบครัวก็ธรรมดา เงินสิบล้านนี้ ต่อให้เธอหาทั้งชีวิตก็หาไม่ได้หรอกนะ”

“แต่ฉันไม่ใช่คนที่เห็นเงินแล้วตาโตนะคะ คุณหันอย่าใช้เงินฟาดหัวคนอื่นเลยค่ะ เก็บกลับไปเถอะ! คุณชอบจ้านฉิงเหย่ นั่นก็เป็นเรื่องของคุณกับเขา อย่าเอาฉันเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเลย” ถังจือซย่ายืดตัวตรง เธอไม่ต้องการถูกดูหมิ่น

หันเหลยหย่าขมวดคิ้ว เธอพินิจถังจือซย่าอย่างละเอียด ชุดทำงานที่เธอสวมนั้น ไม่สามารถปิดบังอำพรางความงดงามของเธอได้ เธอเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์เซ็กซี่ในแบบที่ผู้ชายชอบ

“ฉันรู้มาว่าเธอเคยช่วยชีวิตฉิงเหย่เอาไว้ ดังนั้น ฉันถือว่าให้เกียรติเธอมากแล้วนะ แต่อยากจะบอกเอาไว้อย่าง พ่อแม่ของฉิงเหย่และพ่อแม่ของฉันต่างก็ได้หมายมั่นจะให้พวกเราแต่งงานกัน อย่างเธอน่ะ ไม่มีทางหยุดเรื่องการแต่งงานของพวกเราได้หรอก เพื่อตัวเธอเอง เธอควรจะรีบถอนตัวออกไปซะ” หว่างคิ้วของหันเหลยหย่าแสดงออกถึงความมั่นใจ ริมฝีปากสีแดงของเธอเผยให้เห็นรอยยิ้มดูถูกเหยียดหยาม

ถังจือซย่าไม่รู้จริงๆ ว่า นี่ก็เรียกว่าให้เกียรติ มาถึงก็เอาเงินมาดูถูกผู้อื่น พร้อมกับคำพูดเย้ยหยันหลากหลายรูปแบบ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้แต่งงานกับจ้านฉิงเหย่ เธอก็หวังว่าจ้านฉิงเหย่จะไม่เอาผู้หญิงแบบนี้มาเป็นภรรยา

“คุณหันคะ ขอโทษนะคะ ฉันกำลังยุ่ง หากคุณไม่มีธุระอะไรก็เชิญกลับไปได้แล้วค่ะ!” ถังจือซย่าไม่อยากจะวุ่นวายกับเธอมากไปกว่านี้

ไม่มีสาระอะไรเลย

“เธอ...” หันเหลยหย่ารู้สึกโมโห ถังจือซย่าไม่ได้ใส่ใจในสิ่งที่เธอพูดเลยหรอกหรือ

หรือว่าด้วยสถานะและความร่ำรวยของเธอ ไม่เพียงพอจะทำให้เจ้าหล่อนหวาดกลัว?

“คุณหันจะมีอิทธิพลหรืออำนาจยังไงก็เป็นเรื่องของคุณค่ะ ฉันเชื่อว่าบ้านเมืองทุกวันนี้เป็นสังคมที่มีกฎหมาย ทุกคนเท่าเทียมกัน คุณไม่ได้สูงส่งไปกว่าฉัน ในทางกลับกัน ฉันก็ไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าคุณ อย่าเอาความคิดเองเออเองว่าตัวเองสูงส่ง มาก้าวก่ายชีวิตของฉัน” ถังจือซย่าพูดด้วยเหตุผล

หันเหลยหย่าพูดไม่ออก “เธอ...ถังจือซย่า เธอนี่กบในกะลาจริงๆ ช่างไม่รู้กฎของโลกใบนี้เอาเสียเลย”

สีหน้าของถังจือซย่าดำมืดลง “หากคุณหันต้องการยกตนข่มคนอื่น ได้โปรดไปที่อื่นเถอะค่ะ อย่ารบกวนการทำงานของฉันอีกเลย”

หันเหลยหย่าเริ่มรู้สึกอับอาย ท่าทีไม่รู้ร้อนรู้หนาวของถังจือซย่า ทำให้เธอไม่รู้จะไปต่ออย่างไร

“ไปจากฉิงเหย่ซะ ไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่เกรงใจ” สองมือของหันเหลยหย่าวางลงบนโต๊ะ สายตาของเธอส่งสัญญาณเตือน

ถังจือซย่าไม่กลัวเธอเลยสักนิด เธอลุกขึ้นยืนโดยใช้ความสูงที่เท่าเทียมกันตอบกลับอย่างสุภาพ “คุณหันคะ ฉันรู้สึกว่าคุณมีความมั่นใจมาก หากคุณมีความสามารถก็จัดการจับจ้านฉิงเหย่ให้ได้ก่อนแล้วค่อยว่ากันค่ะ ข่มขู่ฉันไปก็ไม่มีประโยชน์”

“เธอ...” หันเหลยหย่าหน้าแดงก่ำ

ถังจือซย่าเดินไปที่ประตู เธอเปิดประตู “เชิญค่ะ! คุณหัน”

หันเหลยหย่าถลึงตาใส่เธอ ก่อนที่จะกระแทกประตูออกไป ถังจือซย่าถอนหายใจ เธอเข้าใจถึงคำเตือนของสีจิ่วเฉินที่งานเลี้ยงคืนก่อนได้ในทันที ที่ให้เธออยู่ห่างจากจ้านฉิงเหย่ไว้ ไม่อย่างนั้นเธอไม่รู้หรอกว่า เธออาจจะขัดใจใครเข้าได้

ตามคาด นี่ก็คนหนึ่งแล้ว ไม่ใช่หรือ

เธอเริ่มรู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาอีก ทำไมต้องไปงานเลี้ยงวันนั้นด้วยนะ หากเธอไม่ไปก็คงจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทันทีที่ถังจือซย่ากลับมานั่งที่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เธอเอื้อมไปหยิบดูและก็เห็นว่าเป็นพ่อของเธอที่โทรมา เธอรับสาย “ฮัลโหล ค่ะพ่อ”

“จือซย่า ว่างไหมลูก พ่ออยากให้หนูไปที่ที่หนึ่งกับพ่อ”

“พ่อคะ สำคัญมากไหมคะ”

“อื้อ มันจะช่วยให้ลูกจัดการเรื่องในบริษัทได้ในอนาคตนะ พ่อกำลังจะไปถึงที่ทำงานของลูกแล้ว ลูกลางานออกมานะ”

“พ่อคะ หนู...”

“จือซย่า ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่สำคัญ พ่อไม่อยากให้ลูกพลาด มาเถอะ!” ถังจวิ้นยืนกราน

ถังจือซย่ามองดูเวลา ตอนนี้บ่ายสองโมงห้าสิบนาทีแล้ว เธอเพิ่งจะส่งแบบร่างให้หลี่เหมยไป จริงๆ ช่วงบ่ายนี้ เธอก็ว่างแล้ว”

เธอโทรศัพท์หาหลี่เหมย “พี่เหมยคะ ฉันขอลางานช่วงบ่ายค่ะ”

หลี่เหมยอนุมัติการลาของเธอ ถังจือซย่าหยิบกระเป๋าและลงไปชั้นล่าง

ห้องทำงานประธาน

ฉู่เฮ่าพูดกับชายหนุ่มที่กำลังดูเอกสารว่า “ประธานสี ประธานหลี่ที่เป็นผู้ตรวจสอบครั้งก่อนได้เปลี่ยนเป็นประธานเหลียงแล้วครับ แต่ดูเหมือนทางด้านประธานเหลียงจะกำหนดเป็นการภายในให้บริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่ง ตอนนี้อาจจำเป็นต้องให้คุณไปทักทายด้วยตัวเองสักหน่อยแล้วครับ”